3 สิ่งที่ต้องดู คู่ตึกมหานครที่สูงเสียดฟ้า

ตึกสูงที่สุดในโลก เมื่อมาถึงคิว "ไทยแลนด์" จะต้องเป็นตึกอะไร? ถ้าเป็นเมื่อคำตอบคือ "ตึกใบหยก" แต่ก็อย่างที่เขาบอกกันว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" เหนือตึกสูงที่เคยสูงสุดในไทยก็มี "ตึกมหานคร" ที่คว้าแชมป์ไปครองด้วยความสูง 314 เมตร จำนวน 77 ชั้น http://winne.ws/n8504

1.3 พัน ผู้เข้าชม

ตึกมหานครสูง314 เมตร จำนวน 77 ชั้นสูงสุดในไทย

3 สิ่งที่ต้องดู คู่ตึกมหานครที่สูงเสียดฟ้า

ถ้าพูดถึงตึกที่เป็นแลนด์มาร์คในแต่ละประเทศ... "อเมริกา" เราก็คงนึกถึง ตึก "วัน เวิลด์เทรด" ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่หลังโดนก่อวินาศกรรม ส่วนที่ "ดูไบ" ก็คงหนีไม่พ้น "เบิร์จคาลิฟา" ตึกสูงที่สุดในโลก เมื่อมาถึงคิว "ไทยแลนด์" จะต้องเป็นตึกอะไร? ถ้าเป็นเมื่อคำตอบคือ "ตึกใบหยก"  แต่ก็อย่างที่เขาบอกกันว่า "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" เหนือตึกสูงที่เคยสูงสุดในไทยก็มี "ตึกมหานคร" ที่คว้าแชมป์ไปครองด้วยความสูง  314 เมตร จำนวน 77 ชั้น

"ตึกมหานคร" ตั้งตระหง่านเป็นศรีแก่เมืองหลวง ที่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ อยู่ใกล้กับ สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ด้วยรูปลักษณ์ที่ผิดแปลกไปจากตึกทั่วไป โดยเฉพาะลวดลายริบบิ้นสามมิติ ที่เลี้ยววนล้อมรอบตัวอาคาร หรือที่ผู้ออกแบบชาวเยอรมันขนานนามมันว่า "Sky Box" ทำให้ดูเหมือนกับว่ามีกระจกมากมายลอยอยู่บนท้องฟ้า และสามารถมองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้แบบ 270 องศา จนสื่อนอกต้องร้องออกมาว่า "โอ้วมายก็อด" ยกให้เป็นตึกใหม่ที่รูปร่างแปลก แต่น่าชวนหลงใหล 

ตึกมหานครที่เสียดฟ้า เป็นแชมป์ท้าทายความสูงที่สุดขณะนี้ แต่อีก 4 ปีไม่แน่

3 สิ่งที่ต้องดู คู่ตึกมหานครที่สูงเสียดฟ้า

3 ไฮไลท์เด็ด แห่งตึกมหานคร

ไฮไลท์แรกอยู่ที่ราคาของห้อง ซึ่งสมราคาตึกที่สูงที่สุด คือเริ่มต้นที่ 32 ล้านบาท ไปจนถึง 300 ล้านบาท นับว่าเป็นห้องชุดที่มีราคาแพงที่สุดในกรุงเทพฯ ไปในทันที และไฮไลท์ต่อมา ลิฟต์ที่นี่ สามารถพาขึ้นสู่จุดชมวิวที่ชั้น 77 ใช้เวลาเพียง 40 วินาที เท่านั้น ส่วนไฮไลท์เด็ดอันสุดท้าย คือจุดชมวิวของตึก มีชื่อว่า “Sky Observation Deck” ที่ในอนาคตจะต้องรับบทเป็นพระเอกที่สร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนแน่นอน ด้วยการออกแบบให้มีพื้นเป็นกระจกใสยื่นออกจากตัวตึก ทำให้เราเสมือนล่องลอยอยู่บนฟ้าเลยทีเดียว

เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากออกไป "แตะขอบฟ้า" กันแล้วใช่ไหม งั้นก็ต้องขอตัวเบรกอารมณ์ท่านผู้ชมกันไว้ชั่วขณะ เพราะ "จุดชมวิว" จะเปิดให้คนทั่วไปใช้บริการได้ในปี 2560 ฉะนั้นโปรดอดใจรอที่จะท้าทายความสูงเสียดฟ้านี้เอาไว้ก่อน หรือถ้าอดใจกันไม่ไหวจริงๆ ก็อาจจะแวะไปถ่ายรูปคู่กับตึก เป็นที่ระลึกไว้ก่อนก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด เพราะฟันธงได้เลยว่า "ตึกมหานคร" จะกลายร่างเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องมาเยี่ยมชมอย่างแน่นอน (รายละเอียดเพิ่มเติมการเข้าชม สามารถติดตามได้จากหน้าเพจของตึกมหานคร FB: MahaNakhon)

เหนือฟ้ายังมีฟ้า

จะเห็นได้ว่าสถาปัตยกรรมล้ำสมัยเช่นนี้ ก็เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ที่ "ไม่มีลิมิต" ของมนุษย์ และเชื่อว่าการสร้างตึกสูงแบบนี้จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกแน่นอน เพราะเมื่อความคิดถูก "ปลดล็อค" ทุกอย่างที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในวันนี้ ก็สามารถเกิดขึ้นจริงได้ ซึ่งก็นับว่าเป็นข่าวดีของคนไทย เพราะอีกประมาน 4 ปี   ตึก "เดอะ ซุเปอร์ ทาวเวอร์" ในย่านพระรามเก้า ที่จะมีความสูงถึง 615 เมตร หรือเท่ากับตึกใบหยก 2 ซ้อนกันถึง 2 ตึก จะขึ้นแท่นมาเป็นตึกสูงที่สุดในประเทศไทย และก้าวขึ้นไปทัดเทียมกับตึกสูงทั่วโลก เพราะอย่างนั้นโปรดเตรียมตัวเตรียมใจไป "แตะขอบฟ้าเมืองกรุง" กันให้ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก

http://www.healthyliving.in.th/detail.aspx?id=77880&from=content&catId=1643?utm_source=Native_Ads&utm_medium=Starcom&utm_content=Content4&utm_campaign=HealthyLiving&utm_source=taboola&utm_medium=tnewsnetwork-headshot

แชร์