10 ทริคซักผ้าแบบประหยัดพลังงานที่คุณแม่บ้านห้ามพลาด !

วิธีซักผ้าแบบประหยัดพลังงานให้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าทุกงานซักบอกได้คำเดียวว่าคุณแม่บ้านไม่ควรพลาด http://winne.ws/n8705

1.2 พัน ผู้เข้าชม
10 ทริคซักผ้าแบบประหยัดพลังงานที่คุณแม่บ้านห้ามพลาด !kapook.com

วิธีซักผ้าแบบประหยัดพลังงานให้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าทุกงานซักบอกได้คำเดียวว่าคุณแม่บ้านไม่ควรพลาดวิธีซักผ้าแบบประหยัดพลังงานด้วยประการทั้งปวง

เครื่องซักผ้าจัดว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานน้ำและไฟมากที่สุดในบ้านยิ่งใครซักผ้าบ่อย ๆ คงได้จ่ายค่าน้ำค่าไฟเพิ่มขึ้นจนเพลินไปเลยฉะนั้นเพื่อการซักผ้าแบบประหยัดพลังงาน และอนุรักษ์สภาพแวดล้อมไปในตัวเรามาศึกษาเคล็ดลับซักผ้าแบบประหยัดพลังงานกันเลยดีกว่า

1. ซักผ้าแบบประหยัดพลังงาน  ในแต่ละครั้งที่เราซักผ้าทุกคนคงจะเห็นว่าเราใช้พลังงานน้ำและไฟไปมากมายแค่ไหน ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดน้ำและไฟเราควรซักผ้าให้คุ้มที่สุดโดยซักผ้าปริมาณพอดีกับความจุของถังซักทุกครั้งเลือกระดับน้ำและโปรแกรมซักล้างให้พอดีกับปริมาณผ้ารวมทั้งควรซักผ้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติ ยกเว้นผ้าที่สกปรกถึงขีดสุดจึงค่อยใช้โปรแกรมซักด้วยน้ำร้อนแล้วก็อย่าลืมถอดถุงกรองฝุ่นในเครื่องซักผ้าออกไปทำความสะอาดบ่อย ๆ ด้วยนะคะเครื่องซักผ้าจะได้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดไม่หน่วงเพราะมีคราบสกปรกติดอยู่

2. เลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ  น้ำยาซักผ้ารวมทั้งผงซักฟอกส่วนใหญ่มักจะมีสารสังเคราะห์ปนเปื้อนในปริมาณพอสมควรไม่ว่าจะเป็นน้ำมันที่แฝงอยู่, สารเพิ่มความขาว,สารย้อมสี, และกลิ่นสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเราไม่น้อยเลยทีเดียวฉะนั้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและปกป้องตัวเราเองจากสารปนเปื้อนทั้งหลายลองหันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าชนิดไบโอที่ไม่มีสารสังเคราะห์เหล่านี้ปนเปื้อนบ้างก็ดีและสำหรับคนที่เป็นห่วงในเรื่องของความขาวสะอาดของเสื้อผ้ารับรองว่าผลิตภัณฑ์ซักผ้าไบโอก็มีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าน้ำยาซักผ้าทั่วไปเลยล่ะค่ะ

3. สบู่ซักผ้าอาจดีกว่าผงซักฟอกต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีซักผ้าก็ไปได้ไกลเกินกว่าจะมานั่งซักผ้าด้วยสบู่ซักผ้าเหมือนสมัยก่อนแต่เคยได้ยินไหมคะว่ายิ่งเก่ายิ่งเก๋า เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้วสบู่ซักผ้านั้นช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าเราได้หมดจดโดยไม่ทิ้งสารตกค้างเป็นคราบแป้งสีขาวเหมือนน้ำยาซักผ้ายุคใหม่ด้วยเนื่องจากสบู่มีส่วนประกอบที่สกัดมาจากธรรมชาติมากกว่าน้ำยาซักผ้าสมัยใหม่ที่ใช้สารสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบหลักๆ นั่นเอง และแม้ว่าสบู่อาจจะทำความสะอาดออกจากเนื้อผ้าได้ลำบากมากกว่า แต่ถ้าปลอดภัยและไร้พิษกับสิ่งแวดล้อมก็น่าใช้ไม่เบาเนอะ

10 ทริคซักผ้าแบบประหยัดพลังงานที่คุณแม่บ้านห้ามพลาด !kapook.com

4. ประหยัดคูณสองด้วยการซักมือ  ลำพังแค่โยนผ้าลงเครื่องแล้วรอตากหลายคนก็บอกว่าขี้เกียจแล้วขี้เกียจอีกแต่ถ้าคุณลองซักผ้าด้วยมือ นอกจากจะได้ออกกำลังกายสลายแคลอรี่แล้วการซักผ้าด้วยสองมือของเราเองยังเป็นการถนอมเนื้อผ้าอีกทางหนึ่ง ทำให้เราซักผ้าได้สะอาดหมดจดมากกว่าเครื่องตั้งหลายสิบเท่าที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานทั้งน้ำและไฟไปได้อีกมากโข อย่างน้อยก็ประมาณ20%ของพลังงานน้ำและไฟที่ใช้ในบ้านเลยเชียวล่ะ

5. ตากแดดจัดๆ แทนการอบ ถ้าเสื้อผ้าของคุณไม่ได้หนามากแถมสภาพอากาศข้างนอกยังมีลมพัดเบา ๆ พร้อมแสงแดดที่แรงจ้าอย่างนี้คงดีกว่าถ้าจะเมินเครื่องอบผ้าแล้วสะบัดผ้าตากแดดแทนซะเลยซึ่งก็จะทำให้เนื้อผ้าคลายความยับยู่ยี่ได้จากแรงที่เราสะบัดอีกทั้งการนำผ้าออกไปตากกับแดดจ้า ๆ และแรงลมยังเป็นการเปิดโอกาสให้เนื้อผ้าได้รับการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกผ้าขาวก็จะขาวสว่างมากขึ้น ผ้าสีก็จะหอมกรุ่นโดยไม่ต้องพึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไหน

6. เครื่องซักผ้าฝาหน้าประหยัดน้ำไฟกว่าเยอะ คุณ ๆ ทราบกันไหมคะว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะช่วยประหยัดพลังงานน้ำได้ถึง 38% พร้อมทั้งลดการใช้ไฟได้มากกว่า 58% เลยทีเดียวซึ่งก็หมายความว่าเครื่องซักผ้าชนิดฝาหน้าสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องซักผ้าชนิดฝาบนอย่างแน่นอนแต่ถ้าตอนนี้คุณยังใช้เครื่องซักผ้าฝาบนอยู่ก็ไม่เป็นไรค่ะเพียงแต่ถ้าเมื่อไรต้องซื้อเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่ลองพิจารณาเครื่องซักผ้าชนิดฝาหน้าบ้างก็ได้ แล้วอย่าลืมมองหาเครื่องหมายเบอร์ 5 ด้วยนะจ๊ะ

7. เลือกเครื่องอบผ้าที่คุ้มค่า  จริง ๆ แล้วเครื่องอบผ้าไม่ได้มีความจำเป็นมากนักกับทุกคนเพราะอากาศอย่างบ้านเราไม่ได้ชื้นตลอด สามารถตากผ้าให้แห้งสนิทได้แม้ไม่ต้องผ่านกระบวนการอบแต่หากใครที่มีความจำเป็นต้องอบผ้าเป็นประจำ ควรเลือกเครื่องอบผ้าที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้นภายในตัวเครื่องซึ่งมีไว้ให้เรากำหนดระดับความชื้น ความแห้งของผ้าที่เราต้องการได้อย่างสะดวกและจะตัดกระบวนการอบผ้าโดยอัตโนมัติ ช่วยประหยัดไฟได้อีกพอสมควร

 8. เสริมประสิทธิภาพความสะอาดจากธรรมชาติเราสามารถลดปริมาณการใช้น้ำยาซักผ้าได้ครึ่งต่อครึ่งเมื่อผสมเบกกิ้งโซดาประมาณ½ ถ้วยตวงสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนและ ¼ ถ้วยตวงเมื่อใช้เครื่องซักผ้าฝาหน้าซึ่งเบกกิ้งโซดาจะเข้าไปเสริมพลังแห่งการซักล้างให้มีประสิทธิมากขึ้นรวมทั้งลดกลิ่นเหม็นอับในเสื้อผ้าได้อีกต่างหาก หรือใครสะดวกจะใช้น้ำส้มสายชูผสมเกลือและน้ำมะนาวเพื่อช่วยขจัดคราบฝังแน่น และเพิ่มเม็ดสีเสื้อผ้าให้แจ่มว้าวด้วยก็ได้

10 ทริคซักผ้าแบบประหยัดพลังงานที่คุณแม่บ้านห้ามพลาด !tipsza.com

9. ซักแห้งอย่างเดียวทำเองที่บ้านก็ได้เนื้อผ้าบางชนิดควรได้รับการดูแลที่ดีเยี่ยมโดยระบุให้ซักแห้งได้อย่างเดียวเพื่อถนอมใยผ้าและสีของผ้าแต่คุณแม่บ้านไม่จำเป็นต้องส่งไปซักรีดที่ร้านหรอกนะคะ เพียงแค่ผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำเย็นแล้วนำผ้ามาซักโดยขยี้เบา ๆ หรือจะทำแค่จุ่มแช่ผ้าไว้ก็ได้ แต่ทั้งนี้ควรทดสอบกับเนื้อผ้าส่วนเล็กๆ ก่อนว่าเบกกิ้งโซดาไม่ได้ทำให้ผ้าซีดแต่อย่างใด

10. น้ำยาปรับผ้านุ่มความฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น  สำหรับคนที่ติดนิสัยใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทุกครั้งหลังซักผ้าอาจไม่ทราบว่าในน้ำยาผรับผ้านุ่มก็มีสารสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายกับสุขภาพโดยอาจทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับผิวที่บอบบางเหมือนผิวเด็ก ฉะนั้นก็สามารถฟันธงได้เบา ๆ เลยว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ได้มีความจำเป็นกับงานซักผ้าของคุณแต่อย่างใดทว่าหากคุณแม่บ้านรู้สึกตงิด ๆ ที่ไม่ได้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม ลองเปลี่ยนมาผสมน้ำส้มสายชูกลั่นบริสุทธิ์ลงไปในน้ำยาซักผ้าสัก½ - ¼ ถ้วยตวงดูก็ได้ค่ะ แค่นี้เสื้อผ้าของคุณก็จะไร้กลิ่นอับกลิ่นเหงื่อและขาวใสพร้อมสัมผัสที่นุ่มนิ่มไม่แพ้คุณสมบัติของน้ำยาปรับผ้านุ่มเลยเชียว

ตราบใดที่เรายังต้องใส่เสื้อผ้าอยู่งานซักผ้าก็คงไม่หนีหายไปจากเราอย่างแน่นอนฉะนั้นเพื่อช่วยลดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กันลองนำเคล็ดลับของเราไปปรับใช้บ้างก็ดีนะคะ

ที่มา home.kapook.com

แชร์