รู้จักป่ะ ..หญ้าฝรั่นเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก
ความรู้เกี่ยวกับที่มา คุณสมบัติ สรรพคุณ หญ้าฝรั่น ทำไมจึงแพงที่สุดในโลก http://winne.ws/n8788
ในบ่ายของวันที่อากาศแจ่มใสสามเพื่อนเกลอกำลังนั่งทายปัญหาที่แสนจะประเทืองปัญญากันอยู่... อัครเดช : ถ้าเป็นของที่กินได้ล่ะ อะไรแพงที่สุดในโลก?
พรประภา : ก็ต้องนี้เลย...ไข่ปลาคาเวียร์ เห็ดทรัฟเฟิล ไม่ก็เนื้อมัตสึซากะ…
สมเกียรติ : ..หญ้าฝรั่น...
อัครเดชและพรประภาหันควับไปมองหน้าสมเกียรติทันทีสมเกียรติหัวเราะฮึ พลางส่งสายตาที่ตีความหมายได้ว่า “อ่อนหัด มีความตั้งใจแต่ก็ยังอ่อนหัด” แล้วเดินจากไปท่ามกลางความมึนงงของสหายที่เหลือทั้งสองพลันเกิดภาวะสุญญากาศไปชั่วขณะหนึ่ง...ทำไมสมเกียรติจึงกล่าวเช่นนั้นกันนะ??เรื่องปฏิสสารน่ะช่างมันก่อน(เพราะถ้าจะให้อธิบายละก็ยาวแน่ๆ) แต่เจ้าหญ้าฝรั่นนี่มันคืออะไร…และไหนๆก็เกิดความสงสัยขึ้นมาแล้ว งั้นตามเรามาดูข้อมูลของหญ้าฝรั่นกันเลยดีกว่า...
“หญ้าฝรั่น” ชื่อนี้คนทั่วไปอาจไม่คุ้นหูแต่ถ้าเป็นผู้ที่อยู่ในวงการอาหารหรือสมุนไพรละก็เป็นต้องร้องอ๋อกันทุกคนเพราะเจ้าหญ้าที่ไม่ใช่หญ้าชนิดนี้ มักจะถูกใช้เป็นส่วนประกอบในตำรายาหรือไม่ก็ใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารหรูๆ แพงๆ ทั้งนั้น และด้วยสนนราคาซื้อ–ขายที่อยู่ระหว่าง37,400 - 374,000 บาท/กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบ)จึงทำให้มันได้รับสมญานามว่า หญ้าฝรั่น...เครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก!!!
หญ้าฝรั่น (Crocus, Saffron) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocus sativus L. เป็นพืชในวงศ์ IRIDACEAE ส่วนที่นำมาใช้คือเกสรตัวเมียหรือที่เรียกว่าหญ้าฝรั่นซึ่งมีรสเผ็ด ขมอมหวาน และมีกลิ่นหอมคล้ายฟาง นิยมนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหารและเครื่องดื่มใช้ในอุตสาหกรรมน้ำหอม และใช้เป็นสีย้อมผ้านอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในตำรับยาหลายชนิดด้วย สรรพคุณตามตำรายาไทยระบุว่าเกสรตัวเมียใช้ขับเหงื่อในคนออกหัดขับระดู และใช้แต่งสีแต่งกลิ่นในอาหาร ปัจจุบันประเทศที่มีการผลิตและส่งออกหญ้าฝรั่นมากที่สุดคืออิหร่าน ดอกหญ้าฝรั่นใช้พื้นที่ในการปลูกมาก และต้องเก็บผลผลิตด้วยมือเท่านั้นเพราะดอกและเกสรของหญ้าฝรั่นมีลักษณะที่เปราะบางการเก็บจะต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวและหลังจากเก็บต้องรีบนำเกสรที่แยกได้มาคั่วให้แห้งทันทีซึ่งหญ้าฝรั่นมีคุณสมบัติทนต่อความร้อนได้ดี แต่จะเสื่อมสภาพได้ง่ายหากเจอกับแสงและออกซิเจนดังนั้นจึงไม่นิยมบดหญ้าฝรั่นเป็นผง และต้องเก็บรักษาในภาชนะที่กันแสงและกันอากาศเพื่อคงคุณภาพของหญ้าฝรั่นก่อนนำไปใช้
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา จากการศึกษาพบว่าสารสกัดและสาระสำคัญที่แยกได้จากหญ้าฝรั่นมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราหลายชนิด , มีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร,และกระตุ้นการย่อย, มีฤทธิ์ยับยั้งการเพิ่มระดับของไขมันในเลือด,และลดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวจากการได้รับอาหารที่มีไขมันสูง ,มีฤทธิ์ปกป้องตับจากการได้รับสารพิษ ,มีฤทธิ์บรรเทาปวด,และต้านการอักเสบ ,มีฤทธิ์บรรเทาอาการก่อนมีประจำเดือน ,มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งและเนื้องอก ,มีฤทธิ์กระตุ้นกำหนัด ,มีฤทธิ์ต้านภาวะซึมเศร้า ,วิตกกังวล ,และช่วยให้หลับ ซึ่งแม้ส่วนใหญ่จะยังเป็นเพียงการศึกษาในระดับเซลล์หลอดทดลอง และสัตว์ทดลอง แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีในการนำมาพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคตการศึกษาความเป็นพิษพบว่าหญ้าฝรั่นมีความเป็นพิษต่ำและแม้จะมีการรายงานความเป็นพิษของหญ้าฝรั่นน้อยแต่มีบางรายงานระบุว่าการใช้หญ้าฝรั่นขนาด >10 ก. อาจเหนี่ยวนำให้เกิดการแท้งได้และการศึกษาในหนูเม้าส์เพศเมียที่กำลังตั้งครรภ์ในระยะสามเดือนสุดท้ายพบว่า หญ้าฝรั่นมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูกและส่งผลให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดดังนั้นจึงควรระมัดระวังการใช้หญ้าฝรั่นในขนาดสูงและหลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์ส่วนการใช้ในรูปแบบของอาหารยังไม่มีการรายงานความเป็นพิษ
คำถามที่ว่า ทำไมเจ้าหญ้าฝรั่นนี่ถึงแพงนักนั่นก็เพราะกว่าจะได้เกสรตัวเมียหรือหญ้าฝรั่นประมาณหนึ่งปอนด์ (ประมาณ 0.45กก.) จะต้องใช้ดอกหญ้าฝรั่นถึง 75,000 ดอก หรือเกสรตัวเมียจำนวน 225,000 อันซึ่งเท่ากับการนำดอกหญ้าฝรั่นมาเรียงต่อกันจนเต็มสนามฟุตบอลนั่นเอง!!! และแล้วก็ได้ข้อสรุปเสียทีว่าสิ่งที่สมเกียรติได้กล่าวเอาไว้ว่าหญ้าฝรั่นเป็นอาหารที่แพงที่สุดในโลกนั้นก็ไม่ได้ห่างไกลจากความเป็นจริงเลยรู้แบบนี้แล้วลองมาหาวิธีปลูกหญ้าฝรั่นกันหน่อยดีไหมล่ะ... (อ่านข้อมูลเกี่ยวกับหญ้าฝรั่นเพิ่มเติมได้ในจุลสารข้อมูลสมุนไพรปีที่ 32 ฉบับที่ 2)
ผู้ค้นคว้าเรียบเรียง: เภสัชกรหญิงกฤติยา ไชยนอก สำนักงานข้อมูลสมุนไพรคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/274/หญ้าฝรั่น/