เรื่องที่ชาวพุทธควรรู้! ชนิด "ต้นพระศรีมหาโพธิอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" แต่ละพระองค์ที่ต่างกัน

ในภัทรกัป นี้จะมีพระพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ที่ตรัสรู้ ณ สถานที่แห่งนี้ ตรัสรู้ภายใต้ ต้นไม้ที่ต่างสายพันธ์ ต่างลักษณะ ต่างชนิด พอคนเห็นต้นไม้ที่พระองค์ ตรัสรู้จะ เรียกว่า ต้นโพธิ มาจากคำ ว่า โพธิรุกขะ = โพธิ ตรัสรู้, รุกขะ http://winne.ws/n9706

3.8 พัน ผู้เข้าชม
เรื่องที่ชาวพุทธควรรู้! ชนิด "ต้นพระศรีมหาโพธิอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" แต่ละพระองค์ที่ต่างกัน

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 

ต้นพระศรีมหาโพธิเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในภัทรกัป นี้จะมีพระพุทธเจ้าถึง ๕ พระองค์ที่ตรัสรู้ ณ สถานที่แห่งนี้ ตรัสรู้ภายใต้ ต้นไม้ที่ต่างสายพันธ์ ต่างลักษณะ ต่างชนิด พอคนเห็นต้นไม้ที่พระองค์ ตรัสรู้จะ เรียกว่า ต้นโพธิ มาจากคำ ว่า โพธิรุกขะ = โพธิ ตรัสรู้, รุกขะ

ต้นไม้ แปลว่า ต้นไม้อันเป็นที่ตรัสรู้

พระพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ ตรัสรู้ภายใต้ต้นสิรีสะ (ต้นซึก)

พระพุทธเจ้า พระนามว่า โกนาคมนะ ตรัสรู้ภายใต้ต้นมะเดื่อ

พระพุทธเจ้า พระนามว่า กัสสปะ ตรัสรู้ภายใต้ต้นนิโครธ (ต้นไทร)

พระพุทธเจ้า พระนามว่า โคตมะ ตรัสรู้ภายใต้ต้นอัสสัตถะหรือ โพธิ์พฤกษ์

พระพุทธเจ้า พระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย ตรัสรู้ภายใต้ ต้นกากะทิง หรือคนไทยเรียกว่า ต้นทองพลาง 

โพธิพฤกษ์แห่งการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์

เรื่องที่ชาวพุทธควรรู้! ชนิด "ต้นพระศรีมหาโพธิอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" แต่ละพระองค์ที่ต่างกันแหล่งภาพจาก huay99.blogspot.com

ความแตกต่างกันแห่งโพธิ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้ง ๒๘ พระองค์ ที่ผ่านมา

ความแตกต่างกันแห่งโพธิพฤกษ์ คือต้นไม้ที่ประทับนั่งในวันตรัสรู้

พระผู้มีพระภาคเจ้าทีปังกร มีโพธิพฤกษ์ ชื่อ กปิตนะ (มะขวิด)

พระผู้มีพระภาคเจ้าโกณฑัญญะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นสาลกัลยาณี (ขานาง)

พระมังคละ พระสุมนะ พระเรวตะ พระโสภิตพุทธเจ้า มีโพธิพฤกษ์ ต้นนาคะ (กากะทิง)

พระอโนมทัสสี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นอัชชุนะ (ต้นกุ่ม)

พระปทุมะ และพระนารทะ มีโพธิพฤกษ์ ชื่อ ต้นมหาโสณะ (ต้นอ้อยช้างใหญ่)

พระปทุมุตตระ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นสาละ (ต้นช้างน้าว)

พระสุเมธะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นนีปะ (ต้นกะทุ่ม)

พระสุชาตะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นเวฬุ (ต้นไผ่)

พระปิยทัสสี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นกกุธะ (ต้นกุ่ม)

พระอัตถทัสสี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นจัมปกะ (ต้นจำ ปา)

พระธัมมทัสสี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นรัตตกุรวกะ (ต้นซ้องแมวแดง)

พระสิทธัตถะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นกณิการะ (กรรณิการ์)

พระติสสะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นอสนะ (ต้นประดู่)

พระปุสสะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นอามลกะ (มะขามป้อม)

พระวิปัสสี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นปาฏลี (แคฝอย)

พระสิขี มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นปุณฑรีกะ (มะม่วงป่า)

พระเวสสภู มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นสาละ (สาละ)

พระกกุสันธะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นสรีสะ (ต้นซึก)

พระโกนาคมนะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นอุทุมพร (มะเดื่อ)

พระกัสสป มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นนิโครธ (ต้นไทร)

พระโคตมะ มีโพธิพฤกษ์ชื่อ ต้นอันสสัตถะ (ต้นโพธิใบ)

ในบาลีพุทธวงศ์ ข้อ ๑๖ ว่า ต้นพิมพิชาละ คือ ต้นมะกล่ำ เครือ 

เรื่องที่ชาวพุทธควรรู้! ชนิด "ต้นพระศรีมหาโพธิอันเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า" แต่ละพระองค์ที่ต่างกันแหล่งภาพจาก วัดพระธรรมกาย

อายุของต้นพระศรีมหาโพธิ์ 

ต้นที่ ๑ เป็นต้นที่เกิดวันเดียวกันกับเจ้าชายสิทธัตถะ หรือที่ เรียกว่า สหชาติทั้ง ๗ มหิสุนทรี (พระนางติษยรักษิต) เป็นพระมเหสีของ พระเจ้าอโศกมหาราชอีกพระองค์หนึ่ง พระนางโกรธแค้นมากที่พระเจ้า อโศกรักต้นโพธิ์มากกว่านาง นางจึงสั่งให้คนนำ ยาพิษและน้ำ ร้อนมารดที่ โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ จนทำ ให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ได้เหี่ยวเฉาและแห้ง ตายในที่สุด มีอายุประมาณ ๓๕๒ ปี

ต้นที่ ๒ พอพระเจ้าอโศกกลับมาจากว่าราชการ พระองค์เห็น ต้นพระศรีมหาโพธิเหี่ยวแห้งตายลงพระองค์ถึงกับเข่าอ่อนล้มลงหมด สติพอพระองค์ฟื้นได้สติ รับสั่งให้ล้อมกำ แพงรอบ สั่งทหารให้นำ น้ำ นม โค ๑๐๐ ตัว มารดต้นพระศรีมหาโพธิ และได้ตั้งสัตยาธิษฐานว่า “ถ้า หน่อโพธิ์ไม่แตก งอกออกมาพระองค์จะไม่เสด็จลุกขึ้น” ด้วยแรงสัจจะ อธิษฐาน ทันใดนั้นหน่อโพธิ์ได้งอกมาเป็นหน่อที่สอง มีอายุราวประมาณ ๘๗๑ - ๘๙๑ ปี

ต้นที่ ๓ พ.ศ. ๑๑๐๐ พระเจ้าศศางกา กษัตริย์จากเบงกอล ได้ยกทัพมาที่พุทธคยา เห็นผู้คนไปกราบไหว้ต้นโพธิ์ เกิดความไม่ชอบ ไม่พอใจจึงได้ทำ ลายวัดวาอาราม และต้นพระศรีมหาโพธิ์ถอนรากทิ้ง ใช้ไฟเผาราดด้วยน้ำ อ้อย พระเจ้าปุรณวรมากษัตริย์แห่งมคธทรง เศร้าโศกเสียพระทัยอย่างมากที่เห็นต้นโพธิล้มตาย จึงเอาแบบอย่าง พระเจ้าอโศกมหาราช จากนั้นนำ น้ำ นมจากแม่โค ๑,๐๐๐ ตัว รดต้นโพธิ์ ในไม่ช้าหน่อโพธิ์ ได้แตกหน่อออกมาเป็นต้นที่ ๓ มีอายุราวประมาณ ๑,๒๕๖ - ๑,๒๗๖ ปี

ต้นที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๒๓ เซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม พุทธสถาน พุทธกิจ พุทธประวัติ 27 นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ได้เดินมาที่พุทธคยา ได้เห็นต้นโพธิแก่ชรา มาก ได้มีชาวบ้านตัดกิ่งก้านมาทำ เป็นฟืน ต่อมาพายุพัดล้มลง ได้เห็น หน่อโพธิ์ ๒ หน่อ (สูง ๖ นิ้วและ ๔ นิ้ว ได้นำ หน่อสูง ๖ นิ้วมาปลูกลงที่ ต้นเดิม ปัจจุบันมีอายุ ๑๓๖ ปี (๒๕๕๘) 

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก http://www.dhammahansa.com/bodhgaya.php

แชร์