น้ำท่วมใต้เริ่มคลี่คลาย ถุงยังชีพพระราชทานมอบผู้ประสบภัย

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานถุงยังชีพ แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านผักกูด หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอระโนด หลังจากในพื้นที่น้ำท่วมหนักและอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถออกมารับการช่วยเหลือได้ http://winne.ws/v11127

679 ผู้เข้าชม

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานถุงยังชีพ แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านผักกูด หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอระโนด หลังจากในพื้นที่น้ำท่วมหนักและอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถออกมารับการช่วยเหลือได้

ถุงยังชีพพระราชทาน ร.10 มอบผู้ประสบภัย

           พันตำรวจโทพิภพ พรหมยก รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ค่ายรามคำแหง นำถุงยังชีพพระราชทาน ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านผักกูด หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอระโนด หลังจากในพื้นที่น้ำท่วมหนักและอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ไม่สามารถออกมารับการช่วยเหลือได้ จำนวน 200 ครัวเรือน โดยมอบให้กับลูกเสือชาวบ้านและประชาชนทั่วไปจนถึงหน้าบ้าน ทั้งทางบกและทางเรือโดยนำเรือพระราชทานนำสิ่งของพระราชทานไปมอบให้ถึงบ้านทุกราย

พระสงฆ์ล่องเรือลุยน้ำแจกถุงยังชีพ

           ภาพพระสงฆ์ซึ่งเป็นคณะธรรมทูตอาสาจากยะลาและพระสงฆ์ใน อ.ระโนด จังหวัดสงขลา และจากจังหวัดสตูล นำถุงยังชีพทั้งข้าวสารและอาหารแห้งล่องเรือและเดินลุยน้ำออกช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนหัวเค็ด เขตเทศบาลเมืองระโนด จ.สงขลา ที่อยู่ในสภาพติดเกาะและออกมาไม่ได้เนื่องจากน้ำยังท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ขณะที่ชาวบ้านอีกนับร้อยครัวเรือนทั้งในชุมชนหัวเค็ดและชุมชนที่อยู่ริมคลองระโนดรวมทั้งพระสงฆ์ในวัดสีหยัง ก็ยังใช้ชีวิตกินอยู่กับน้ำต่อเนื่องมาหลายวันจากสภาพน้ำยังท่วมขังและลดลงช้ามาก เพราะน้ำในทะเลสาบสงขลายังหนุนสูง เช่นเดียวกับพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลาอีก 3 อำเภอทั้งกระแสสินธุ์สทิงพระ และสิงหนคร ซึ่งอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากทะเลเพราะยังมีน้ำท่วมตลอดแนวชายฝั่งทะเลสาบสงขลา

ชาวบ้านขนย้ายรถจักรยานยนต์ข้ามคลอง

          ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีการเผยแพร่ในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า กนกอร แก้วนุ่น ได้โพสต์คลิป ความยาวประมาณ 55 วินาที ขณะที่ชาวบ้านคลองอ้น หมู่ 10 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันขนย้ายรถจักรยานยนต์ข้ามคลองที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว โดยมีการนำเชือกไนลอน มาผูกกับต้นไม้ใหญ่ระหว่างคลอง และนำรอกผูกกับเชือก ก่อนนำรถจักรยานยนต์ผูกเชือกดึงรถจักรยายนต์ข้ามไปอีกฝั่งคลอง จนสำเร็จ ซึ่งคลิปดังกล่าวมีผู้มากดไลท์ กดแชร์ และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะให้กำลังผู้ที่กำลังประสบอุทกภัย

ลุ่มน้ำปากพนังยังจมบาดาลหวั่นพืชเศรษฐกิจยืนต้นตาย

           สภาพน้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วยอำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอชะอวด กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติมวลน้ำจากตอนกลางของจังหวัดไหลบ่ามากองในพื้นที่ ก่อนที่จะระบายลงสู่อ่าวไทย แต่ด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบลุ่มทำให้ปริมาณน้ำจำนวนหลายร้อยล้านลูกบาศก์เมตรค้างทุ่งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งพื้นที่การเกษตร ทั้งสวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา พื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม ซึ่งเป็นที่เดียวของประเทศไทยเสียหายอย่างหนักเกษตรกรต้องตัดผลทิ้ง เนื่องจากต้องเร่งรักษาต้นไว้ แต่หากน้ำท่วมขังเกินกว่า 1 เดือนส้มโอทั้งหมดอาจยืนต้นตายเนื่องจากเป็นพืชที่ไม่ทนต่อน้ำท่วม

ตรังชาวบ้านหลังแนวพนังกั้นน้ำอพยบ

           ที่จังหวัดตรังพนังกั้นแม่น้ำตรังพังรวม 3 จุด ทำให้ชาวบ้านที่อยู่หลังแนวพนังกั้นน้ำต้อง อพยบไปอยู่ในที่ปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มสถานการณ์น่าจะคลี่คลายในเร็วๆ นี้

           ด้าน นายสมบัติ ผลประยูร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตรุด อ.เมืองตรัง ไปสำรวจความเสียหายของพนังกั้นแม่น้ำตรังในพื้นที่หมู่ที่ 2 บ้านปากหมัน ที่เดิมพังทลายประมาณ 20 เมตร ล่าสุดพบขยายเพิ่มขึ้นเป็น 60 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลได้ทะลักลงไปในสวนยางพาราของชาวบ้าน จมน้ำประมาณ 30 ไร่ เช่นเดียวกับพนังกั้นน้ำที่หมู่ที่ 3 บ้านป่าหมาก ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังแนวพนังกั้นน้ำ ต้องอพยพมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

          นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองตรุด กล่าวว่า น้ำท่วมในครั้งนี้ทำพนังกั้นแม่น้ำตรังพังขาดแล้วทั้งหมด 3 แห่ง แต่คาดว่าคงไม่พังเพิ่มแล้ว เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำตรังเริ่มลดลง คาดว่าหากไม่มีฝนตกและน้ำทะเลหนุนเพิ่ม สถานการณ์จะคลี่คลายลงภายใน 1-2 สัปดาห์


ที่มา:     NOW26.TV     >     พิกัดข่าวเช้า       /       วันที่ 09 ธันวาคม 2559

แชร์