“ผมไม่มีวันเดินมาถึงจุดนี้ได้ ถ้าไม่มีเธอ”

ในที่สุด เอ็มมานูเอล มาครง ก็พลิกโฉมประวัติศาสตร์การเมืองฝรั่งเศส ด้วยการคว้าชัยชนะอันโดดเด่นก้าวขึ้นเป็นว่าที่ประธานาธิบดีอายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศส นายมาครง ผู้ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชนเลยเมื่อสามปีก่อน อาศัยความเชื่อในตนเอง http://winne.ws/v15459

1.3 พัน ผู้เข้าชม

เคยมีคนพูดถึงนายมาครงในสารคดีว่าด้วยเรื่องประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่ เมื่อไม่นานนี้ว่า "ผู้ชายคนนี้อาจใช้วิธีหว่านเสน่ห์เพื่อคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีมาครอง"

ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะคิดอย่างไรกับแนวทางการเมืองของมาครง แต่ชาวฝรั่งเศสมีเหตุผลในการเลือกให้เขาเป็นผู้นำคนใหม่ ผู้ซึ่งมีความปราดเปรื่องที่สุดคนหนึ่งในคนรุ่นเดียวกัน แน่นอน เขามีเสน่ห์ แต่ในเวลาเดียวกันก็ฉลาดอย่างยิ่ง เขามีพลัง ไม่ทุจริต มีความสร้างสรรค์ เป็นคนรุ่นใหม่ และมีความหวัง

นอกจากนี้เขายังมีฝีปากที่ทำให้คนรู้สึกว่าสิ่งที่เขาพูดมีเหตุผลน่าเชื่อถือ เมื่อฟังมาครงพูด ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางของมัน ผู้คนถึงกับตบหน้าผากตัวเองอย่างคิดไม่ถึง และรู้สึกประหลาดใจว่าทำไมถึงไม่เคยคิดเช่นนี้มาก่อน 

Cr. http://www.bbc.com/thai/international-39843510

 เรื่องราวชีวิตรักของมาครงเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะคู่ชีวิตของเขาก็คือ บริจิตต์ โทรนเญอซ์ วัย 64 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของเพื่อนร่วมชั้น และเธอก็ยังเป็นอดีตคุณครูสอนวิชาศิลปะการแสดง ประจำโรงเรียนมัธยมในเอเตียงที่มาครงเคยศึกษาอยู่ หนุ่มน้อยมาครงในวัย 15 ปี หลงรักคุณครูผู้อายุแก่กว่าถึง 24 ปี คนนี้อย่างจัง ความรักของมาครงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ มันจริงจังมากถึงขนาดพ่อแม่ของเขาพยายามกีดกันไม่ให้ทั้งคู่ได้พบกัน 

          เมื่อมาครงอายุ 17 ปี เขาก็เปิดเผยกับคุณครูผู้เป็นที่รักว่าเขาอยากแต่งงานกับเธอ ถึงแม้ว่าตอนนั้นมันจะไม่มีทางเป็นไปได้และเขาก็ต้องแยกจากไปเรียนต่อที่ปารีส แต่มาครงก็บอกกับเธอว่า "ผมจะกลับมาหาคุณ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ผมก็จะแต่งงานกับคุณให้ได้"  

          หลังจากเวลาผ่านไปนานหลายปี ความรักที่มาครงมีให้คุณครูก็ไม่เคยจืดจางลงไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2550 ขณะที่มาครงอายุได้ 29 ปี บริจิตต์ก็หย่าขาดจากสามี และมาครงก็ได้แต่งงานกับเธอดังที่เขาปรารถนามาตลอด โดยไม่สนคำวิพากษ์วิจารณ์ใด ๆ จากสังคม 


Cr. https://hilight.kapook.com/view/153125

แชร์