ชื่อพระจันทร์เต็มดวง ตลอด 12 เดือน

ชาวอเมริกันพื้นเมืองนั้นได้ตั้งชื่อเรียกดวงจันทร์ในแต่ละเดือนเพื่อที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับแต่ละเดือนว่ามีลักษณะของธรรมชาติ หรือฤดูแตกต่างกันอย่างไร http://winne.ws/n1169

2.4 พัน ผู้เข้าชม
ชื่อพระจันทร์เต็มดวง ตลอด 12 เดือน

ชาวอเมริกันพื้นเมืองนั้นได้ตั้งชื่อเรียกดวงจันทร์ในแต่ละเดือนเพื่อที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับแต่ละเดือนว่ามีลักษณะของธรรมชาติ หรือฤดูแตกต่างกันอย่างไร

        คืนวันพระจันทร์เต็มดวงช่างเป็นภาพที่สวยงามน่าจดจำยิ่งนัก ชาวไทยเชื่อว่ามีกระต่ายอยู่ในดวงจันทร์ แต่ว่าอีกซีกโลกหนึ่งนั้น ได้เรียกขานพระจันทร์เต็มดวงด้วยชื่อที่ต่างกันไปในแต่ละเดือน เพื่อให้เป็นตัวแทนของฤดูกาลที่มาเยือนในเดือนนั้น ๆ 

ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันมีอยู่ด้วยกันหลายเผ่า ได้ตั้งชื่อเรียกพระจันทร์เต็มดวงในแต่ละเดือนที่แตกต่างกันไปตามเผ่าต่าง ๆ แต่ชื่อที่รู้จักกันมากที่สุดเห็นว่ามาจาก เผ่าอัลกอนควินส์ (Algonquins) ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นิวอิงแลนด์ และอยู่ทางตะวันตกของทะเลสาบสุพีเรีย แห่งอเมริกาเหนือ โดยมีชื่อของพระจันทร์เต็มดวงตามเดือนต่าง ๆ และที่มา ดังต่อไปนี้

 เดือนมกราคม : Wolf Moon 

          ในเดือนมกราคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่หิมะจะโปรยปรายกองอยู่รวมกันในป่าลึก ชาวบ้านต่างได้ยินเสียงเห่าหอนของหมาป่าดังก้องอยู่ในความมืด ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ และนั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ วูลฟ์ มูน (Wolf Moon)

          อย่างไรก็ตาม บางชนเผ่ายังเรียกพระจันทร์เต็มดวงในเดือนมกราคมว่า สโนว์ มูน (Snow Moon) ด้วยเช่นกัน แม้โดยมากแล้วจะใช้ชื่อนี้เรียกพระจันทร์เต็มดวงในเดือนกุมภาพันธ์ก็ตาม 

 เดือนกุมภาพันธ์ : Snow Moon

          หิมะที่กองทับถมสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ชื่อของหิมะ (Snow) ได้ถูกมอบแก่จันทร์เต็มดวงของเดือนนี้ ขณะที่บางชนเผ่ายังเรียกจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า ฮังเกอร์ มูน (Hunger Moon) จากความท้าทายในการล่าสัตว์ของช่วงเวลานี้อีกด้วย

 เดือนมีนาคม : Worm Moon

          ในเดือนนี้ถึงเวลาที่หิมะจะเริ่มละลายอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นพื้นดินนุ่ม ๆ และบรรดาไส้เดือนที่เริ่มโผล่หัวขึ้นมาพ้นดินแล้ว จนเป็นที่มาของชื่อ วอร์ม มูน (Worm Moon) 

          ขณะที่บางพื้นที่ยังเรียกพระจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ ตามสัญญาณการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิในรูปแบบที่ต่างกันด้วย อาทิ โครว์ มูน (Crow Moon), ครัสท์ มูน (Crust Moon) และเลนเทน มูน (Lenten Moon)

 เดือนเมษายน : Pink Moon

          ถึงเวลาของต้นไม้เริ่มผลิดอกแล้ว ท้องทุ่งต่างเต็มไปด้วยสีชมพูของดอกฟล็อกซ์ ทำให้จันทร์เต็มดวงของเดือนนี้ถูกเรียกขานด้วยชื่อแสนหวาน พิงก์ มูน (Pink Moon) ขณะที่ชนเผ่าอื่นซึ่งอาศัยอยู่ริมชายฝั่งแม่น้ำจะเรียกจันทร์เต็มดวงในเดือนนี้ว่า ฟิช มูน (Fish Moon)

 เดือนพฤษภาคม : Flower Moon

          ช่วงเวลาที่ดอกไม้บานเต็มที่มาเยือนแล้ว ขณะที่ข้าวโพดก็พร้อมจะให้ทำการเพาะปลูกได้ จึงทำให้จันทร์เต็มดวงของเดือนพฤษภาคมยังถูกเรียกขานด้วยชื่อ คอร์น แพลนทิง มูน (Corn Planting Moon) และ มิลค์ มูน (Milk Moon) อีกด้วย 

 เดือนมิถุนายน : Strawberry Moon 

          นี่คือช่วงเวลาที่มีการเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รีกันมากที่สุดในรอบปี ทำให้ชื่อ สตรอว์เบอร์รี มูน (Strawberry Moon) กลายมาเป็นหนึ่งในไม่กี่ชื่อที่ทุกเผ่าของอัลกอนควินส์ใช้ตรงกัน 

 เดือนกรกฎาคม : Buck Moon

          ถึงเวลาที่เหล่ากวางตัวผู้จะเริ่มมีขนยาวหนาแล้วในเดือนกรกฎาคม ทำให้จันทร์เต็มดวงของเดือนนี้ถูกเรียกว่า บัค มูน (Buck Moon) ขณะที่สภาพพายุฝนคะนองในพื้นที่นิวอิงแลนด์ยังทำให้คนบางเผ่าเรียกจันทร์เต็มดวงของเดือนนี้ว่า ธันเดอร์ มูน (Thunder Moon) อีกด้วย 

 เดือนสิงหาคม : Sturgeon Moon

          เดือนสิงหาคมคือช่วงเวลาที่ชนเผ่าต่าง ๆ สามารถจับปลาสเตอร์เจียนตัวใหญ่ ๆ จากทะเลสาบเกรตเลกส์ได้ง่ายที่สุด กลายเป็นที่มาของชื่อ สเตอร์เจียน มูน (Sturgeon Moon) นั่นเอง 

 เดือนกันยายน : Harvest Moon

          ถึงเวลาที่พืชผลธัญญาหารของแต่ละชนเผ่า อย่าง ข้าวโพด ฟักทอง ถั่ว และข้าว พร้อมแก่การเก็บเกี่ยวในเดือนนี้แล้ว ขณะที่ดวงจันทร์สุกสว่างในเดือนกันยายนก็ยังช่วยให้เกษตรสามารถเก็บเกี่ยวพืชผลได้จนถึงยามดึก จึงเป็นที่มาของชื่อ ฮาร์เวสท์ มูน (Harvest Moon) นั่นเอง ขณะที่บางครั้งผู้คนอาจเรียกว่า คอร์น มูน (Corn Moon) ด้วย

 เดือนตุลาคม : Hunter's Moon

          หลังจากท้องทุ่งถูกเก็บเกี่ยวจนเสร็จ ใบไม้เริ่มร่วงโรย ขณะที่เหล่ากวางทั้งหลายต่างก็อ้วนท้วมสมบูรณ์ได้ที่ จึงถึงเวลาที่นักล่าสัตว์จะออกวางกับดักกวางเหล่านี้ รวมถึงบรรดาจิ้งจอกและสัตว์อื่นด้วย จนเป็นที่มาของชื่อ ฮันเตอร์ส มูน (Hunter's Moon) นั่นเอง

 เดือนพฤศจิกายน : Beaver Moon 

          เดือนพฤศจิกายนเวียนมาถึง ก็ได้เวลาที่ฝูงบีเวอร์จะวุ่นอยู่กับการเตรียมพร้อมเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ทำให้ง่ายสำหรับนักล่าสัตว์ที่จะวางกับดัก จับตัวบีเวอร์เพื่อนำขนอุ่น ๆ ของมันมาใช้ประโยชน์ จันทร์เต็มดวงในเดือนนี้จึงถูกเรียกว่า บีเวอร์ มูน (Beaver Moon)

 เดือนธันวาคม : Cold Moon

          อุณหภูมิที่ดิ่งลงอย่างมากในช่วงฤดูหนาวนี้ คงไม่มีชื่อไหนที่จะเหมาะแก่การเรียกขานจันทร์เต็มดวงประจำเดือนว่า โคลด์ มูน (Cold Moon) อีกแล้ว แต่ด้วยระยะเวลาที่กลางคืนยาวนานกว่ากลางวันนี้ ยังทำให้จันทร์เต็มดวงของเดือนธันวาคมยังถูกเรียกว่า ลอง ไนท์ มูน (Long Night Moon) ด้วยเช่นกัน ขณะที่กลุ่มชาวคริสเตียนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในทวีปนี้ได้เรียกขานว่า มูน บีฟอร์ ยูล (Moon before Yule)

          นอกจากนี้ยังมีชื่อจันทร์เต็มดวงอีกชื่อหนึ่งที่คุ้นหูทุกคนกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือ บลู มูน (Blue Moon) อันเป็นชื่อที่ใช้เรียกพระจันทร์เต็มดวงที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมมา จากปกติที่ในปีหนึ่ง ๆ จะมีวันพระจันทร์เต็มดวง 12 ครั้ง 

ชื่อพระจันทร์เต็มดวง ตลอด 12 เดือนImage : www.space.com

ขอขอบคุณข้อมูล และภาพจาก  http://hilight.kapook.com/view/133238 (moonconnection.com,space.com)

แชร์