ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนกับฮีโร่ตัวไหนในญี่ปุ่นที่ถูกสร้าง ณ เวลานั้น คาเมนไรเดอร์เรื่องแรกก็สามารถสะกดผู้ชมให้อยู่ต่อหน้าจอทีวีด้วยจำนวนตอนที่ออกอากาศถึง 98 ตอนเลยทีเดียว 

เรื่องมันเกิดเพราะโปรดิวเซอร์และมือเขียนบทชื่อดัง "โทรุ ฮิรายามะ" (เจ้าของนามปากกา "ฮัทเตะ ซาบุโร่") อยากจะได้โทคุซัทสึซีรี่ส์ซักเรื่องนึงที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ และสามารถยึดพื้นที่ของเรทติ้งให้มากกว่าซีรี่ส์ฮีโร่ต่อสู้สัตว์ประหลาดในยุคนั้น โดยมีเงื่อนไขที่ว่าต้องเป็นฮีโร่ที่ต่อสู้บนความเด็ดเดี่ยว แม้จะมีเบื้องหลังที่ไม่สวยงาม แต่พวกเค้าก็สามารถแบกรับมันและก้าวต่อไปข้างหน้าได้ เฉกเช่นเดียวกับชาวญี่ปุ่นหลังยุคสงครามที่ต้องทนทุกข์กับความย่ำแย่และความสูญเสียในช่วงเวลานั้น

อ.โทรุ เลยได้ไปจับงานของนักเขียนการ์ตูนท่านหนึ่งที่ชื่อว่า "อิชิโนะโมริ โชทาโร่" โดยอ้างอิงจากผลงานอย่าง "สคัลแมน" ที่อาจารย์ได้วาดเอาไว้ นำมาต่อยอดบวกกับไอเดียเรื่องของมนุษย์ตั๊กแตนจากลูกชาย จนกลายมาเป็นฮอปเปอร์ หรือหน้ากากตั๊กแตน "คาเมนไรเดอร์" ในที่สุด

คาเมนไรเดอร์กลายมาเป็นกระแสแบบดังถล่มทลาย และให้กำเนิดไรเดอร์ตัวอื่น ๆ มาออกฉายบนจอแก้วนานถึง 6 ปีติดต่อกัน (1971 - 1976) ตั้งแต่คาเมนไรเดอร์อิชิโก ไปจนถึงคาเมนไรเดอร์สตรองเกอร์ ด้วยความนิยมที่เริ่มอิ่มตัว ซีรี่ส์เลยหยุดสร้างไปกว่า 4 ปี

เมื่อกระแสเริ่มกลับมา การกำเนิดใหม่อีกครั้งจึงเริ่มต้นขึ้น แต่ทว่าการต่อสู้กับยุคสมัยของการ์ตูนอนิเมะ และการ์ตูนหุ่นยนต์ที่เริ่มเกลื่อนตลาดก็ทำให้กระแสดำเนินไปอย่างยากลำบาก จนสุดท้ายยุคที่สองของคาเมนไรเดอร์ซีรี่ส์ก็ปิดตัวลงในปี 1994 และไม่นานนักอาจารย์อิชิโนะโมริก็ได้จากโลกไปอย่างสงบในปี 1998

สิ่งสุดท้ายที่ อ.อิชิโนะโมริได้สร้างเอาไว้ก็คือการสร้างตำนานของคาเมนไรเดอร์บทใหม่ที่จะรับกับการครบรอบ 30 ปีของคาเมนไรเดอร์ซีรี่ส์ จึงทำให้ปี 2000 ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของหน้ากากไรเดอร์ผู้พิทักษ์จึงได้ถือกำเนิดขึ้นอีกครั้งในนามของ "คาเมนไรเดอร์คูกะ"

จากวันนั้นถึงวันนี้ 16 ปีผ่านไป ซีรี่ส์ก็ถูกสร้างติดต่อกันทุกปี ด้วยดีไซน์ที่แหวกแนวจนเกือบจะไม่ซ้ำกันแล้ว เอกลักษณ์ต่าง ๆ ก็มีความชัดเจนและหนักแน่นมากกว่าสมัยก่อน รวมไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชม ก็เริ่มขยายฐานจากเด็กไปสู่วัยรุ่น และผู้ใหญ่วัยทำงานอีกด้วย

ว่ากันว่าการจะปลูกฝังอะไรบางอย่างให้กับผู้ชมได้นั้น "สื่อบันเทิง" ถือว่ามีส่วนสำคัญ เหมือนกับการได้กินขนมอร่อย ๆ และได้คุณค่าทางอาหารในเวลาเดียวกัน ... ซึ่งนั่นก็ไม่ต่างจากสิ่งที่คาเมนไรเดอร์ซีรี่ส์ได้ให้เอาไว้

การส่งต่อความกล้าหาญ ความเสียสละ ผ่านตัวละครที่มีรูปร่างสีสันแปลกตา อีกทั้งนักแสดงที่มีคาแรคเตอร์ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์นั้นถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการ "ส่งต่อ" อะไรบางอย่างเข้าไปในจิตใจของคนดู ซึ่งสิ่งที่พวกทีมงานผู้สร้างได้คิดเอาไว้เมื่อ 45 ปีก่อน มันก็ส่งผลที่เกิดความคาดหมายมาจนถึงทุกวันนี้

ขอบคุณที่มอบความสนุก ความรัก ความกล้า และความเสียสละให้กับเรา

"45 ปี ไอ้มดแดง"