Crossfit เทคนิคการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น
การออกกำลังกายแบบครอสฟิต คือการกระตุ้นร่างกายแบบหลอมรวมในหลาย ๆ ส่วน ได้แก่ หัวใจและหลอดเลือด ระบบทางเดินหายใจ ความอดทน ความแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่น การเผาผลาญพลังงาน ความรวดเร็ว ความคล่องตัว ความสมดุล และความถูกต้อง http://winne.ws/n1574

ขอยกการฝึกบางส่วนมาแนะนำให้รู้จัก ได้แก่ การยกน้ำหนักแบบกีฬาโอลิมปิก ได้แก่ ท่าสแนตช์ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ซึ่งการยกน้ำหนักในลักษณะนี้ จะไม่ยกช้าเหมือนกับการเพาะกาย เพราะการยกช้าๆ จะทำให้เกิดความเครียดขึ้นในกล้ามเนื้อ แต่โอลิมปิกต้องยกทั้งเร็วและแรงไปพร้อม ๆ กัน อาจจะเคยได้ยินว่า นักกล้ามจะตัวใหญ่แรงเยอะ แต่เคลื่อนไหวช้า การฝึกแบบนี้จะทำให้มีพละกำลังด้วยและเร็วไปด้วยพร้อมๆ กัน
นอกจากการยกน้ำหนักแบบโอลิมปิก ก็ยังมีการใช้บาร์เบลเพื่อฝึกสร้างพละกำลังด้วย ได้แก่ การฝึกท่าสควอต หรือคลีนแอนด์เจิร์ก นอกจากนี้ยังมีการฝึกทักษะการใช้น้ำหนักตัวของผู้เล่นร่วมด้วย ได้แก่ การโหนบาร์ โหนห่วง Hand Stand Walk, Push Up, การไต่เชือกก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งการใช้น้ำหนักตัวในการฝึกจะทำให้อัตราส่วนความแข็งแรงต่อน้ำหนักตัวมีสมรรถภาพสูง หมายความว่านักกีฬาคนนั้นอาจไม่ได้ตัวใหญ่ที่สุดแต่แข็งแรงที่สุด
ยังมีการฝึกแบบ Functional Strenght อีกด้วย ซึ่งได้แก่ การเข็นของหนัก การโยนของหนักขึ้นไปสูงๆ การวิ่งถือของ เป็นต้น เป็นการฝึกให้พละกำลังของตัวเองได้ทำงานจริง ๆ โดยจะทำให้สมรรถภาพทางกีฬาของผู้ฝึกสูงกว่าการเล่นเครื่องออกกำลังกายทั่ว ๆ ไป
ความเร็วและความทนทานก็เป็นอีกหนึ่งทักษะในการฝึกครอสฟิต ได้แก่ การวิ่ง หรือการปั่นจักรยานแบบ Air Assault Bike ใช้แรงต้านจากใบพัด โดยปกติเวลาที่เราปั่นจักรยาน แทนที่เราจะใช้แรงเสียดทานจากเครื่อง ก็จะใช้ใบพัดในการต้านลม ซึ่งนอกจากใช้ขาอย่างเดียว ก็ยังสามารถใช้แขนในการดึงหรือผลักอีกด้วย เป็นเครื่องที่เล่นแล้วสนุก ไม่เหมือนจักรยานธรรมดา
เมื่อเวลาผ่านไป คอนเส็ปต์ของครอสฟิตก็แพร่ขยายไปทั่วโลก ทำให้เกิดสังคมของนักกีฬาครอสฟิต ที่ไม่ได้มาเพื่อออกกำลังกายคนเดียวเหงา ๆ แบบเมื่อก่อนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มเติมการแข่งขันในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมของโซเชียลมีเดียที่คนจากทั่วทุกมุมโลกสามารถรับรู้ความเป็นไปได้อย่างทั่วถึง ความท้าทายเช่นนี้ทำให้ผู้เล่นหรือนักกีฬามีแรงจูงใจในการพัฒนาฝึกฝนตัวเองให้มีร่างกายที่แข็งแกร่งมากขึ้น ในขณะเดียวกัน การเลิกเล่นก็มีอัตราลดลงด้วย โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของครอสฟิตทั่วโลกได้จากเว็บไซต์ http://games.crossfit.com/
สำหรับในบ้านเราเอง ยิมแบบครอสฟิตนี้มีอยู่ 5-6 แห่งด้วยกัน ซึ่งถ้านำลำดับคะแนนมาฝึกแล้วติด 1 ใน 10 อันดับ จะได้เข้าไปชิงแชมป์ครอสฟิตโลกที่ประเทศออสเตรเลีย
มีตัวอย่างการฝึกแบบครอสฟิตทั้งหมด 9 ท่ามาให้ได้ทดลองกัน ซึ่งการฝึกเช่นนี้ควรอยู่ภายใต้ความควบคุมของโค้ชอย่างใกล้ชิด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://manager.co.th/Marsmag/ViewNews.aspx?NewsID=9590000034550