แม่ชีศันสนีย์ เปิดใจหลังป่วย..ด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร !ใช้วิธีปฏิบัติตนใหม่และสมาธิช่วย

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้เปิดเผยถึงอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหารว่า หลังจากที่ตนพบว่า ตนเองเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างมาก และมีอาการอ่อนเพลีย จนไปพบแพทย์ ที่ รพ.ศิริราช เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา http://winne.ws/n20886

1.1 พัน ผู้เข้าชม
แม่ชีศันสนีย์ เปิดใจหลังป่วย..ด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร !ใช้วิธีปฏิบัติตนใหม่และสมาธิช่วย
แม่ชีศันสนีย์ เปิดใจหลังป่วย..ด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร !ใช้วิธีปฏิบัติตนใหม่และสมาธิช่วย

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 29 พ.ย. ที่เสถียรธรรมสถาน ถ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ได้เปิดเผยถึงอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหารว่า หลังจากที่ตนพบว่า ตนเองเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างมาก และมีอาการอ่อนเพลียน จนไปพบแพทย์ ที่ รพ.ศิริราช เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งจากผลตรวจของแพทย์ปรากฏว่าพบ ก้อนมะเร็ง ขนาด 10 เซนติเมตร อยู่ในกระเพราะอาหาร ซึ่งตอนนั้นตนเองคิดอยู่เพียงอย่างเดียวคือ จะเป็นอะไรก็เป็น แต่ขอให้สิ่งที่เป็นนั้นเกิดประโยชน์กับผู้คน

แต่อย่างไรก็ตาม จากที่มีกระแสข่าวไปก่อนหน้าว่า แม่ชีปฏิเสธการรักษาจากแพทย์ คือการผ่าตัดหรือการให้คีโมนั้น ตรงนี้ต้องขอบอกว่า หลังจากที่ทราบว่าตนเองป่วย ตนไม่ได้บอกให้ทุกคนในเสถียรธรรมสถาน หรือ ลูกศิษย์ทราบ เพราะว่าตนเองไม่อยากให้ทุกคนวิตกกังวล และทุกคนก็จะเสียขวัญหมดกำลังใจ แม่ชีไม่กล้าที่จะปฏิเสธแพทย์ เพียงแต่คุณหมอที่รักษาได้เสนอทางเลือกอื่นที่มีอยู่หลายวิธี ประกอบกับการที่ตนเองนั้นสังเกตุตัวเองตามหลักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สอนให้เรารู้จักการสำรวจตัวเอง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆในการใช้ชีวิตของตน โดยจะบอกกับตัวเองเสมอว่าต้องมีความเมตตาให้ตัวเอง พร้อมปฏิบัติตัวเป็นคนไข้ที่ดีของหมอ

แม่ชีศันสนีย์ เปิดใจหลังป่วย..ด้วยโรคมะเร็งที่กระเพาะอาหาร !ใช้วิธีปฏิบัติตนใหม่และสมาธิช่วย

แม่ชีศันสนีย์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องของแนวทางธรรมชาติบำบัดนั้น แม่ชีจะปฏิบัติควบคู่ไปกับการทำสมาธิภาวนา คือ เราจะปรับเปลี่ยนและดูแลเรื่องอาหารการกิน แบ่งเวลาในการทำงาน และทุก ๆ วันเวลา 2 ทุ่มตนจะภาวนาจิต ทำสมาธิ กำหนดลมหายใจ จนถึง 4 ทุ่ม คือเวลาเข้านอน 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การกลัวมะเร็ง เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน การกลัวมะเร็งก็เหมือนกับตายทั้งเป็น แต่ทั้งนี้การใช้แนวทางธรรมชาติบำบัด นั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเราก็ต้องทำตามที่แพทย์แนะนำด้วยเช่นกัน จนกระทั่ง เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา แม่ชีได้ไปพบแพทย์อีกครั้งเพื่อทำการตรวจก้อนมะเร็งที่พบจาก 10 ซม. เหลืออยู่ เพียง 3 ซม. เท่านั้น ซึ่งมันก็เป็นผลมาจากการที่เราปฏิบัติตนใหม่และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันและนำวิธีที่เราทำแล้วเห็นผล มาบอกต่อให้กับผู้อื่นที่ป่วยด้วยโรคนี้ไปปฏิบัติตาม ซึ่งตรงนี้เองแม่ชีกำลังทำการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เพื่อทำเป็นหนังสือเพื่อเยียวยาคนป่วย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า


อ่านเพิ่มเติมที่https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_651183

ขอบคุณภาพจากhttps://www.facebook.com/sdsface/photos/

แชร์