เมื่อวันที่ 16 เมษายน สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สสนก. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในประเทศไทยล่าสุดว่าปริมาณน้ำใช้การ ของ 4 เขื่อนหลักลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา คือเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นั้นมีน้ำใช้การได้รวม 2,087 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)โดยขณะนี้

   - เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริง 519 ล้านลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 4 ของระดับน้ำเก็บกักของอ่าง (รนก.)

   - เขื่อนสิริกิต์ มีปริมาณน้ำที่ใช้ได้จริง 1,055 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 11

   - เขื่อนแควน้อย มีปริมาณน้ำใช้ได้จริง 239 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 25

   - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำใช้ได้จริง 274 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 29

โดยแผนการใช้น้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคและรักษาระบบนิเวศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 – 30 มิถุนายน 2559 คาดการณ์ไว้ที่ 3,500 ล้านลบ.ม. ขณะนี้มีการระบายน้ำไปแล้ว 2,801 ล้าน ลบ.ม.

เขื่อนหลักในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

   - เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณใช้ได้จริง 63 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 20

   - เขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณใช้ได้จริง 20 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 12

เขื่อนหลักในภาคตะวันตก

   - เขื่อนศรีนครินทร์ มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,819 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 10

   - เขื่อนวชิราลงกรณ์ มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 1,113 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 13

เขื่อนหลักในภาคตะวันออก

   - เขื่อนขุนด่านปราการชล มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 71 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 32

   - เขื่อนคลองสียัด มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 73 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ17

เขื่อนหลักภาคใต้

   - เขื่อนรัชชประภา มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 2,763 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 49

   - เขื่อนบางลาง มีปริมาณน้ำใช้การได้จริง 587 ล้านลบ.ม. หรือร้อยละ 40