ในฐานะลูกที่ดี

พระคุณของแม่มีมากมายมหาศาล ลูกในฐานะเป็นผู้ได้รับการดูแลมาโดยตลอด ควรตอบแทนพระคุณแม่ทุก ๆ วัน http://winne.ws/n24717

845 ผู้เข้าชม
ในฐานะลูกที่ดี

          โดยเฉพาะโอกาสพิเศษในวันแม่ของทุก ๆ ปีสิ่งที่จะทำให้แม่ชื่นใจที่สุดก็คือเมื่อท่านรู้ว่าลูกรักท่านคิดถึงท่าน มีความกตัญญูกตเวทีต่อท่านเพียงเท่านี้แม่ก็มีความสุขใจมากมายแล้ว เพราะฉะนั้น ในวาระพิเศษอย่างวันแม่ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ สิ่งที่ลูกทุกคนควรทำคือ ให้พี่น้องชักชวนกันไปเยี่ยมเยียนแม่ให้ท่านรู้สึกอบอุ่นใจ แล้วพาลูกหลานไปด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากัน


            ลูกหลานของเราจะได้เห็นว่า แม่ของเขาปฏิบัติต่อปู่ย่าตายายอย่างไรแล้วสิ่งที่เรากระทำนั้นเอง จะเป็นแบบอย่างกับลูกหลานของเรา ในอนาคตพอเขาโตขึ้นเขาจะปฏิบัติกับเราเช่นนั้นเหมือนกัน เรามีโอกาสทำให้แม่ชื่นใจในขณะเดียวกันก็เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกหลานของเราด้วย


           ในกรณีที่แม่ละโลกนี้ไปแล้ว พอถึงวันแม่วันเกิดของท่านหรือวันละสังขารของท่านให้เราพี่น้องชักชวนกันไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านเหล่านี้คือหน้าที่ของลูกที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า “ถ้าบุตรจะพึงวางบิดามารดาไว้บนบ่าทั้งสองของตนคนละข้างประคับประคองท่านอยู่บนบ่านั้น ป้อนข้าวป้อนน้ำ ให้ท่านถ่ายอุจจาระปัสสาวะบนบ่านั้น แม้บุตรจะมีอายุถึง 100 ปีแล้วปรนนิบัติท่านไปอย่างนี้จนตลอดชีวิตก็ยังตอบแทนพระคุณพ่อแม่ไม่หมด”


            พระพุทธองค์ทรงเปรียบว่า ถึงลูกจะดูแลพ่อแม่อย่างดีขนาดนี้ตลอดเวลาและตลอดชีวิตของลูก ประคับประคองท่านไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งข้าวปลาอาหารดูแลทุกสิ่งทุกอย่างวางไว้บนบ่าของตนเอง ทั้งอุจจาระ ปัสสาวะ ของท่านก็รดลงมาที่ตนเองแบกรับทุกอย่างยิ่งกว่าให้ท่านนอนอยู่บนเตียงเสียอีกถึงกระนั้นแม้ลูกจะปฏิบัติเช่นนี้ตลอดชีวิตถึง 100 ปีแล้วก็ยังตอบแทนพระคุณแม่ไม่หมดเลย


            

ในฐานะลูกที่ดี

            มีบางท่านถึงกับเปรียบว่า ถ้าเราใช้ท้องฟ้าแทนกระดาษเอาหมาสมุทรแทนหมึกวาด แล้วเอาเขาพระสุเมรุแทนปากกามาเขียนบรรยายพระคุณแม่จนกระทั่งท้องฟ้าเต็มไปด้วยตัวหนังสือน้ำในมหาสมุทรแห้งเหือดไปหมดเขาพระสุเมรุสึกจนเตียน ก็ยังบรรยายพระคุณแม่ไม่หมด


            ย้ำให้เรารู้ชัดเจนว่า แม่มีพระคุณมหาศาลถ้าเราอยากจะตอบแทนพระคุณท่านให้ได้เต็มที่ มีวิธีคือถ้าท่านยังไม่ได้ให้ทานชักนำท่านให้ทานให้ได้ ถ้าท่านยังไม่ได้รักษาศีลเราต้องทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรชักนำทุกวิถีทางให้ท่านมีศีลให้ได้ถ้าท่านยังไม่ได้ทำสมาธิเจริญภาวนาให้เราหาวิธีการทุกอย่างโดยใช้สติปัญญาอย่างเต็มที่ ด้วยความอดทนวิริยะอุตสาหะให้ท่านได้ปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาให้ได้ เพราะทาน ศีลภาวนานี้เองจะเป็นทางมาแห่งบุญให้แม่ได้มีบุญหล่อเลี้ยงใจแล้วจากโลกนี้ไปสู่สุคติบนโลกสวรรค์เพราะมีเราท่านจึงต้องไปทำบาปตั้งเท่าไรพอมีลูกยุงจะมากัดลูกแม่ก็ทนไม่ได้ ตบยุงตายผิดศีล5ข้อที่ 1คือ ปาณาติปาตา เวรมณี... ซึ่งหมายถึงการละเว้นจากการฆ่าสัตว์ไปแล้วอยู่บ้านนอกกลัวลูกไม่มีอะไรกิน ก็ออกไปตกปลาจับกบจับเขียดมาทำอาหารผิดศีลอีกแล้ว


          

 

ในฐานะลูกที่ดี

           แม่ต้องทำบาปมากมายเพื่อเรา วิธีการทดแทนพระคุณท่านคือให้ท่านอยู่ในบุญเพราะสิ่งนี้มีคุณค่าต่อท่านมากยิ่งกว่าทำอย่างอื่นส่วนการดูแลเลี้ยงดูท่านในชาตินี้เราก็ต้องทำ แต่อย่าหยุดอยู่แค่นั้นเราต้องดูต่อด้วยว่าเมื่อท่านละโลกไปแล้วจะมีเสบียงบุญติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปหรือไม่ สิ่งเหล่านี้คือการตอบแทนพระคุณแม่ที่ดีที่สุดให้ท่านได้ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาไม่ขาด 


            คนที่มีความกตัญญูต่อแม่นั้น ถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งต่อชีวิตเพราะจะทำให้เรามีกำลังใจในการทำความดี ถ้าเผลอถลำไปทำในสิ่งไม่ดีก็ยังมีความยับยั้งชั่งใจได้ เพราะเราเกรงว่าแม่จะเสียใจลูกทุกคนเกิดมามีแม่ด้วยกันทั้งนั้นอยู่ที่ว่าท่านยังอยู่กับเราหรือจากโลกนี้ไปแล้ว คนที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อแม่ถือเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งแก่ชีวิต เพราะจะทำให้เขามีกำลังใจในการทำความดีและไม่ถลำไปทำในสิ่งที่ไม่ดี เพราะเกรงว่าแม่จะเสียใจ กลัวว่าท่านจะไม่สบายใจครั้นจะทำเรื่องดี ๆ ใจก็นึกถึงแม่ เกิดแรงผลักดันให้เราทำในสิ่งต่าง ๆได้สำเร็จโดยง่าย เพราะใจเราอยากให้แม่ชื่นใจ ความรักความกตัญญูที่เรามีต่อท่านจึงเป็นพลังขับเคลื่อนในทางสร้างสรรค์ได้เป็นอย่างดี


            เราพบว่าเด็กเอเชียในสหรัฐอเมริกามีผลการเรียนที่ค่อนข้างดีกว่าเด็กผิวขาวเหตุผลเพราะว่าสถาบันครอบครัวของคนเอเชียแข็งแรงกว่า ชาวยุโรปส่วนใหญ่พอลูกอายุครบ18 ปีจบมัธยมปลายก็ออกจากบ้านได้แล้ว พอเข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็หางานทำช่วยเหลือตัวเองแม่ถือว่าหมดภาระและเป็นอิสระแล้ว พอลูกเริ่มดูแลตนเองได้พ่อแม่ก็ไปเที่ยวพักผ่อนได้ทำอะไรตามใจตนเองแล้ว


            ส่วนคนเอเชียนั้นแม่ลูกมีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นมากกว่า เพราะฉะนั้นจึงทำให้เป็นพลังขับเคลื่อนให้เด็กๆ ตั้งใจเรียน พอเผลอไปทำอะไรไม่ดีก็นึกถึงแม่แล้วไม่ทำเพราะฉุกคิดได้ เนื่องจากมีสถาบันครอบครัวที่แข็งแรงกว่าชาวยุโรปผลออกมาคือส่งให้เด็กได้ดีกว่านั่นเอง แต่คนที่คิดว่ามีแม่คอยดูอยู่ใกล้ๆแล้วอึดอัด คิดว่าถ้าเข้าเรียนอุดมศึกษาได้เมื่อใดจะย้ายออกไปอยู่หอพักเราจะได้ไม่มีแม่คอยจ้ำจี้จ้ำไช และมีอิสระเสรีเหนืออื่นใดใครที่กำลังคิดอย่างนี้มีโอกาสเสียคนสูง เพราะมองผิดประเด็น


            แต่ลูกบางคนที่แม้จะจากแม่ไปไกลแค่ไหนก็ตามก็ยังมีท่านอยู่ในใจ เช่นบางคนพกรูปแม่ติดกระเป๋าเสื้อหรือบนหัวเตียงก็มีรูปพ่อแม่ตั้งอยู่ ก่อนนอนไหว้พระเสร็จก็กราบท่านด้วยใครทำได้อย่างนี้แล้ว รู้เลยว่าเขามีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตสูงทีเดียวเพราะเขามีพ่อแม่เป็นสิริมงคลเป็นแรงเหนี่ยวรั้งใจไม่ให้ทำชั่ว และมีกำลังใจทำความดี


            โดยหลักใหญ่ๆที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจและทำให้คนเราประสบความสำเร็จได้นั้น มี 2 ประการคือความเชื่อความศรัทธาในศาสนา และสถาบันครอบครัวคนที่เคารพรักและกตัญญูต่อพ่อแม่ถือว่าได้กำไรไปแล้วครึ่งหนึ่งเพราะฉะนั้นลูกๆทั้งหลายนึกถึงแม่บ่อยๆ แล้วสิริมงคลจะเกิดขึ้นกับเราอย่าไปนึกว่าท่านมาควบคุมเรา จริงๆแล้วท่านคือคนที่นำความสุขความเจริญและสิริมงคลทั้งหลายมาสู่ลูกๆ ทุกคนที่เคารพบูชาและกตัญญูต่อท่าน


            จะเห็นได้ว่าแม่มีบุญคุณกับลูกมากมายจริงๆ ยากที่จะตอบแทนได้หมดให้เราหมั่นชักชวนท่านมาทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิภาวนาเพื่อให้ท่านมีบุญติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ ที่สำคัญในทุกๆวันมีท่านอยู่ก็ให้เราปรนนิบัติท่านให้ดี ให้ท่านอยู่เป็นเนื้อนาบุญของเราเพื่อที่จะทำให้เรามีบุญติดตัวไปเช่นเดียวกันไม่ใช่ว่าลูกๆจะตอบแทนพระคุณแม่เฉพาะวันสำคัญๆ ที่มีการระลึกถึงเท่านั้นทุกวันเราก็สามารถทำความดี และให้ความรักความปราถนาดีแก่ท่านและทำตัวเป็นเด็กดีของท่านตลอดไป เพียงเท่านี้ท่านก็มีความสุขที่สุดในทุก ๆ วันแล้ว

ขอบคุณธรรมจากเว็บ http://kalyanamitra.org

แชร์