ปุจฉา-วิสัชนา เรื่อง"ทำบุญไม่จำเป็นต้องไปวัด " และ"บุญบาปอยู่ที่ใจ" ?

บุญอยู่ที่ใจ แต่ถ้าไม่ประกอบเหตุ เพื่อให้บุญเกิด ซึ่งก็คือ บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ ก็ไม่ได้บุญ เหมือนไฟฟ้ามันเคยมีที่ปลั๊กไฟที่ผนังบ้าน แต่ถ้าไม่จ่ายค่าไฟ เขาก็ไม่ส่งไฟฟ้ามาให้ http://winne.ws/n24720

1.8 พัน ผู้เข้าชม
ปุจฉา-วิสัชนา เรื่อง"ทำบุญไม่จำเป็นต้องไปวัด " และ"บุญบาปอยู่ที่ใจ" ?

บทความเกี่ยวกับปุจฉา-วิสัชนา หรือการถาม-ตอบ ที่เจ้าของเพจอ้างว่ามีเพื่อนถามมา จริง ๆ คำพูดเหล่านี้มีให้เห็นในโซเชียล แต่ความจริงคนพูดส่วนหนึ่งคือแค่จดจำเขามา อาจจะยังไม่มีความรู้ ความเข้าใจในสิ่งที่ตนพูดวิสัชนาในเรื่องนี้ผู้ตอบ ตอบได้ค่อนข้างชัดเจน มาฟังถามตอบเรื่องนี้กันเลยค่ะ

"มีเพื่อน FC ปุจฉามา ...

1. ทำบุญ ไม่จำเป็นต้องไปวัด ทำกับลูกหลานได้บุญมากกว่า ... จริงไหม?

2. บุญ-บาป อยู่ที่ใจ ... จริงไหม?

วิสัชชนา ...

1. ต้องยอมรับว่า คนที่พูดคำเหล่านี้ ต้องรู้ธรรมะ รู้เรื่องบุญเรื่องบาปมาบ้างทีเดียว เพราะเขาพูดถูก แต่รู้ถูกหรือเปล่าอาจไม่แน่ เพราะคนสมัยนี้มีมากมายที่รู้แบบเถรส่องบาตร แบบจำคำเขาเอามาพูด เวลาพูดก็เหมือนพูดถูก แต่เวลาเอาไปปฏิบัติ ก็ปฏิบัติผิด เพราะไม่รู้บริบทของประโยคที่คนอื่นพูดว่าหมายถึงอะไร เวลาขึ้นต้นก็เป็นลำไม้ไผ่ แต่เหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา

ทำบุญไม่จำเป็นต้องไปวัดก็ถูกต้อง เพราะบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ จะทำที่ไหนก็ได้ ใส่บาตรหน้าบ้านก็ได้ถ้าพระเดินมาถึง รักษาศีลที่บ้านก็ได้เพราะศีลไม่ได้อยู่ที่วัด ทำภาวนาที่บ้านก็ได้เพราะนั่งหลับตาทำภาวนาในสุขา ในห้องนอน ในสวน ทำได้ทั้งนั้น แต่ที่นิยมไปทำบุญที่วัด เพราะวัดเป็นที่อยู่ของพระ ในเมื่อพระเป็นเนื้อนาบุญ ที่ไหนมีเนื้อนาบุญอาศัยอยู่มากก็คือวัด ไม่ใช่บ้าน ไม่ใช่สนามหลวง ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า 

ส่วนคนโบราณที่เขานิยมไปนอนรักษาศีลทำภาวนาที่วัด ก็เพราะวัดเป็นสถานที่เหมาะแก่การรักษาศีล ทำภาวนามากกว่าอยู่บ้าน เพราะอยู่บ้าน เดี๋ยวหลานบอกยาย หนูหิวข้าว ก็ต้องทำกับข้าวหุงข้าวให้หลานกิน ทำกับข้าวไปชิมไป ก็กินกับหลานมันด้วยซะเลย ศีลแตกอีก จะทำภาวนา เดี๋ยวหลานร้อง ผัวกวน สาระพัดจะมีแต่ความไม่สงบเมื่ออยู่บ้าน ยิ่งสมัยนี้ มีละคร มีทีวี จ่อถึงห้องนอน แค่หยิบรีโมตกดปุ๊บเดียวก็ดูได้แล้ว เรียกว่า กิเลสมันตามใจถึงห้องนอนเมื่ออยู่บ้าน พรรคพวกที่รสนิยมจะเอาบุญแบบเดียวกันก็ไม่มี ไปวัดเห็นเพื่อนรักษาศีล เห็นเพื่อนนั่งสมาธิ ก็มีกำลังใจ ไม่ได้ทำคนเดียว ไปวัดจึงมีโอกาสทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาได้ "มากกว่า" อยู่บ้าน แต่ถ้าเก่งจริง จะทำอยู่ที่บ้านก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเก่งแต่ปาก

ส่วนที่ว่าทำกับลูกหลานได้บุญมากกว่า อันนี้ไม่แน่ใจว่า เทียบกับอะไร ถ้าเทียบกับหมาแมวก็ถูก แต่ถ้าเทียบกับพระสงฆ์ก็ผิด เพราะพระสงฆ์คือเนื้อนาบุญ ส่วนลูกหลานเป็นคนธรรมดา มีศีลมั่งไม่มีศีลมั่ง ประเภทตบแม่กระทืบยายขอเงินกินเหล้าก็มี

2. บุญ-บาปอยู่ที่ใจ อันนี้ก็พูดถูกต้อง เพราะบุญ-บาปเวลาเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นภายในใจ ไม่ได้เกิดที่มือที่เท้า ไม่ได้อยู่นอกตัว ไม่ได้อยู่ที่พระ ไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูป เหมือนมีคนถามว่าไฟฟ้ามันอยู่ที่ไหน ตอบว่าอยู่ในปลั๊กไฟ อยู่ที่ผนังบ้าน อยู่ในสายไฟ พูดยังไงก็ถูก แต่ที่จะผิดคือ ไม่รู้ว่าบุญบาปมันเกิดขึ้นมาในใจได้อย่างไร อยู่เฉยๆบุญบาปคงไม่เกิด เหมือนสร้างบ้านแล้ว มีสายไฟ มีผนังบ้าน มีปลั๊กไฟ แต่ถ้าไม่เชื่อมสายเมนเข้าหม้อแปลงการไฟฟ้าก็ไม่มีไฟเข้า ถูกไหม หรือเชื่อมแล้ว แต่การไฟฟ้าไม่จ่ายไฟให้เพราะไม่ได้จ่ายเงิน ไฟก็ไม่มีอีกใช่ไหม

บุญ-บาป ก็เป็นเช่นเดียวกัน ใจเป็นแค่สถานีปลายทางของการจ่ายบุญบาป เหมือนปลั๊กไฟ คือสถานีปลายทางของกระแสไฟฟ้า แต่ต้นแหล่งของไฟฟ้าอยู่ที่ไหน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้นแหล่งของบุญบาป อยู่ที่ไหน ก็เป็นอีกเรื่องเช่นเดียวกัน

บุญอยู่ที่ใจ แต่ถ้าไม่ประกอบเหตุ เพื่อให้บุญเกิด ซึ่งก็คือ บุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ ก็ไม่ได้บุญ เหมือนไฟฟ้ามันเคยมีที่ปลั๊กไฟที่ผนังบ้าน แต่ถ้าไม่จ่ายค่าไฟ เขาก็ไม่ส่งไฟฟ้ามาให้

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้


ขอบคุณภาพและบทความจากเฟซบุ๊ก Somchet Mhin Jearanaisilpa

แชร์