มงคลที่ 3 บูชาบุคคลที่ควรบูชา

การบูชา คือ การเลื่อมใสยกย่อง เชิดชู ด้วยกิริยาอาการสุภาพที่เราแสดงต่อผู้ที่ควรบูชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง การแสดงต่อหน้า เป็นการแสดงให้ท่านทราบว่าเรามีความเคารพและตระหนักในคุณธรรมความดี http://winne.ws/n24866

1.9 พัน ผู้เข้าชม
มงคลที่ 3  บูชาบุคคลที่ควรบูชา

       ต้นไม้เมื่อยังเล็กเป็นต้นกล้าอยู่

จำเป็นต้องมีหลักค้ำประคองไว้

ป้องกันไม่ให้ล้มรากขาดตายเสียก่อนฉันใด

ผู้ที่หวังความเจริญก้าวหน้าก็จำเป็นต้องบูชาบุคคลที่ควรบูชา

 ไว้เป็นตัวอย่างการดำเนินชีวิตที่ถูก

เป็นหลักใจ ป้องกันความเห็นผิดและอกุศลกรรมต่าง ๆ

มิให้ย้อนกลับกำเริบขึ้นมาอีกฉันนั้น


การบูชา คือ อะไร ?

           การบูชา คือ การเลื่อมใสยกย่อง เชิดชู ด้วยกิริยาอาการสุภาพที่เราแสดงต่อผู้ที่ควรบูชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง การแสดงต่อหน้าเป็นการแสดงให้ท่านทราบว่าเรามีความเคารพและตระหนักในคุณธรรมความดีที่มีอยู่ในตัวของท่านอย่างจริงใจการแสดงลับหลัง  เป็นการเตือนใจตัวเราเอง  ให้ผูกใจไว้กับคุณธรรมอันสูงส่งของท่าน ก่อให้เกิดความรู้สึกอยากกระทำตามใจเราจะได้ยกสูงขึ้นเสมอๆ  ไม่เลื่อนไหลไปในทางชั่วร้าย

           การบูชา เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่ง สำหรับฝึกใจที่ยังหยาบกระด้างเพราะไม่อาจยอมรับคุณความดีของผู้อื่น ให้ละเอียดอ่อนลง  ผู้ที่ยังด้อยปัญญา ยังไม่เข้าใจในคุณธรรมความดีของผู้ที่ควรบูชานักแต่หากได้เคยชินกับการบูชาแล้ว ในที่สุดย่อมสามารถเห็นถึงคุณธรรมความดีที่มีอยู่ในตัวของผู้ที่เราบูชาได้อย่างแจ่มชัดจนเกิดความเลื่อมใสกลายเป็นการบูชาอย่างแท้จริง อยากทำความดีตามท่านบ้าง ผู้ใหญ่จึงควรสอนบุตรหลานให้รู้จักสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยเป็นการปลูกศรัทธาให้รู้จักบูชาบุคคลที่ควรบูชาตั้งแต่เด็ก ๆ

บุคคลที่ควรบูชา

           คือบุคคลที่มีคุณความดีควรค่าแก่การระลึกนึกถึงและยึดถือเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติตาม ได้แก่ ผู้มีศีล สมาธิปัญญาสูงกว่าเรานั่นเอง ซึ่งประมวล สรุปได้ดังนี้

           1. พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นบัณฑิตที่ประเสริฐสุดในโลก ทรงไว้ด้วยพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาธิคุณจัดเป็นบุคคลที่ควรบูชาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

           2. พระสงฆ์ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบก่อนแล้วจึงสอนให้ผู้อื่นประพฤติดีปฏิบัติชอบตามอย่างบ้าง  จัดเป็นบุคคลที่ควรบูชาของพุทธศาสนิกชน

           3. พระมหากษัตริย์ผู้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม เป็นธรรมราชาจัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของประชาชน

           4. บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ที่มีความประพฤติดีเป็นบัณฑิตที่อยู่ในฐานะสูงเกินกว่าจะคบ จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชา หรือปูชนียบุคคลของบุตรหลาน

           5. ครูอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถ ความประพฤติดีเป็นบัณฑิตที่อยู่ในฐานะสูงเกินกว่าศิษย์จะคบหาจัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของศิษย์

           6. ผู้บังคับบัญชาที่มีความประพฤติดี ตั้งอยู่ในธรรม จัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา

 

           นอกจากนี้บัณฑิตที่มีเพศภาวะสูงเกินกว่าที่จะคบในฐานะผู้เสมอกันได้ล้วนจัดเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาทั้งสิ้น

 

           สิ่งที่เนื่องด้วยท่านเหล่านี้ ก็จัดเป็นสิ่งที่ควรบูชาอีกเช่นกันเพราะเมื่อเราบูชาสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ระลึกนึกถึงคุณงามความดีของบุคคลที่สิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องด้วย ตัวอย่างคือ

           1. สิ่งที่เนื่องด้วยพระพุทธเจ้า เช่น พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ พระพุทธรูปพระบรมสารีริกธาตุ สังเวชนียสถานฯลฯ

           2. สิ่งที่เนื่องด้วยพระสงฆ์ เช่น พระธาตุ รูปพระสงฆ์สาวกฯลฯ

           3. คำสั่งสอน รูปภาพของบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้บังคับบัญชาพระมหากษัตริย์ ซึ่งตั้งใจประพฤติธรรม เป็นบัณฑิต จัดเป็นสิ่งที่ควรบูชาทั้งสิ้น

 

การแสดงออกถึงความบูชา

           1. ทางกาย ไม่ว่าจะยืนเดินนั่งนอนหรือประกอบกิจใดๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านหรือสัญลักษณ์ตัวแทนของท่าน  เช่น  รูปปั้น ภาพถ่าย ก็อยู่ในอาการสำรวม 

           2. ทางวาจา สรรเสริญยกย่องคุณความดีของท่าน ทั้งต่อหน้าและ  ลับหลัง  เช่น การสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยการนำความดีของท่านไปสรรเสริญ

           3. ทางใจ ตามระลึกนึกถึงคำสอนของท่านด้วยความเคารพและซาบซึ้ง

           

ประเภทของการบูชา

           การบูชาในทางปฏิบัติมี 2 ประเภท คือ

           1. อามิสบูชา คือการบูชาด้วยสิ่งของ เช่น บุตรระลึกถึงคุณของบิดามารดาศิษย์ระลึกถึงคุณของครูบาอาจารย์ จึงบูชาด้วยการนำทรัพย์สินเงินทองของใช้ ฯลฯไปมอบให้ เป็นต้น  การบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ธูปเทียน   ก็จัดเป็นอามิสบูชาเช่นกัน

           2. ปฏิบัติบูชา คือการบูชาด้วยการตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามคำสอนตามแบบอย่างที่ดีของท่าน เช่น พยายามกำจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง ด้วยการให้ทานรักษาศีล เจริญภาวนา ตามคำสอนของท่าน การปฏิบัติบูชานี้จัดเป็นการบูชาที่สูงสุดเพราะเป็นวิธีที่จะทำให้กาย วาจา ใจ ของเราใสสะอาด  เป็นบัณฑิตตามท่านได้โดยเร็ว

 

ข้อเตือนใจ

           สำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือนักปฏิบัติธรรม พึงระลึกเสมอว่าสิ่งที่เราจะเรียนรู้นั้น ถ้าเราเทิดทูนบูชา ตั้งใจประคองรักษาอย่างดีไม่นำไปล้อเลียน หรือพูดเล่น ผลของการศึกษาเล่าเรียนตลอดจนการปฏิบัติธรรมของเราย่อมจะมีความเจริญก้าวหน้าประสบผลสำเร็จได้อย่างน่าอัศจรรย์

           ตรงกันข้ามถ้าเราไม่เคารพแต่กลับลบหลู่ครูอาจารย์หรือสิ่งที่จะเรียนรู้ ความเข้าใจความซาบซึ้งที่จะปฏิบัติตามคำสอนก็หมดไป เกิดความรู้สึก    ไม่อยากบูชาหรือไม่ศรัทธา  ใจที่ควรจะตรึกนึกถึงธรรมะหรือบทเรียนต่างๆ ก็มืดมิด เป็นการปิดกั้นหนทางที่จะเข้าถึงปัญญาอันจะเป็นแสงสว่างส่องนำวิถีชีวิตให้ก้าวไปในทางที่ถูกที่ควรที่ก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้น

 

ข้อควรระวัง

           อย่าบูชาสิ่งที่ไม่ควรบูชา เพราะจะชักนำไปสู่ความงมงายหลงผิดจิตใจขุ่นมัวเป็นพาลไป ซึ่งทำได้ดังนี้

           1. ไม่บูชาคนพาล คือไม่ยกย่อง ไม่เชิดชู ไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุนคนพาล ไม่ว่าคนพาลนั้นจะมียศศักดิ์  สถานภาพสูงส่งเพียงไรก็ตาม

           2. ไม่บูชาสิ่งที่เนื่องด้วยคนพาล เช่น รูปภาพ รูปปั้น ผลงาน สิ่งของเครื่องใช้ของคนพาล  หรือทำตามคำแนะนำของคนพาล

           3. ไม่บูชาสิ่งที่บูชาแล้วไม่ทำให้เกิดสิริมงคล  เช่น รูปภาพดารา  นักร้องนักกีฬาที่ไม่มีคุณธรรมเพียงพอ ภาพโฆษณาเกี่ยวกับอบายมุข ฯลฯอย่านำมาประดับบ้านเรือน

           4. ไม่บูชาสิ่งที่บูชาแล้วทำให้งมงายไม่เกิดปัญญา เช่น ต้นไม้ใหญ่ ภูเขาสูงศาลพระภูมิ คนทรง ภูตผีปีศาจ สัตว์ที่เกิดมามีลักษณะผิดปกติ ฯลฯ

 

กราบ  3 อย่าง

           วิธีการบูชาพระพุทธรูปที่ใช้กันมากคือการกราบ ซึ่งผู้ที่กราบพระนั้นแยกได้หลายประเภท ดังนี้

           1. ยิ่งกราบยิ่งเมื่อย คือพวกที่เห็นคนอื่นกราบพระก็กราบตามเขาโดยไม่รู้ความหมาย  ทำลวก ๆ เหมือนลิงไหว้เจ้า อย่างนี้ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรเมื่อยเปล่า

           2. ยิ่งกราบยิ่งโง่ คือพวกที่กราบพระแล้วขอในสิ่งที่ไม่สมควร เช่น กราบพระขอหวยหรือไม่ดูหนังสือแล้วกราบพระขอให้สอบได้

           3. ยิ่งกราบยิ่งฉลาด คือพวกที่กราบพระแล้วยึดถือเอาพระธรรมคำ  สั่งสอนของพระองค์มาเป็นแบบอย่างในการประพฤติปฏิบัติตาม เช่น

 

        กราบครั้งที่ 1  ระลึกถึงพระปัญญาคุณของพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีปัญญามาก สามารถพิจารณาเห็นทุกข์ และคิดค้นวิธีการดับทุกข์ได้ด้วยพระองค์เองทั้งนี้เพราะพระองค์ ศึกษาธรรมและฝึกสมาธิมามาก จึงมีใจใสสว่างจนสามารถตรัสรู้ธรรมปราบกิเลสในตัวได้หมด เราก็ต้องตั้งใจหมั่นฝึกสมาธิศึกษาธรรมตามอย่างพระองค์ด้วย

      กราบครั้งที่ 2  ระลึกถึงพระบริสุทธิคุณของพระองค์ ที่ทรงมีความบริสุทธิ์ทั้งกายวาจา ใจ เพราะพระองค์ทรงรักษาศีลมามาก ไม่เคยให้ร้ายแก่ใครเลยเป็นตัวอย่างในการรักษาศีลได้อย่างดีเราก็ต้องตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์อย่างพระองค์ด้วย

      กราบครั้งที่ 3  ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ ที่ทรงเทศนา สั่งสอนผู้คนทั้งหลายโดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก เพราะพระองค์ทรงบำเพ็ญทานช่วยเหลือสัตว์โลกมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จึงมีความเมตตากรุณาเป็นเลิศเราก็ต้องตั้งใจหมั่นให้ทาน มีความกรุณา ช่วยเหลือ   ผู้อื่นตามอย่างพระองค์ด้วย

 

อานิสงส์การบูชาบุคคลที่ควรบูช

      1.  ยังความเห็นถูกที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น

      2.  ยังความเห็นถูกที่เกิดขึ้นแล้วให้เจริญงอกงามยิ่งขึ้น

      3.  ทำให้มีกิริยามารยาทสุภาพอ่อนโยน น่ารักน่านับถือ

      4.  ทำให้จิตใจผ่องใส  เพราะตรึกอยู่ในกุศลธรรมเสมอ

       5. ทำให้สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ขึ้นเพราะมีความสำรวมระวังเป็นการป้องกันความประมาท

       6. ป้องกันความลืมตัวความหลงผิดได้ เพราะตระหนักอยู่เสมอว่าผู้ที่มีคุณธรรมสูงกว่าตนยังมีอยู่

       7. ทำให้เกิดกำลังใจและอานุภาพอย่างมหาศาล  สามารถคุ้มครองป้องกันตนให้พ้นจากอุปสรรคและภัยพาลต่างๆ ได้

       8. เป็นการกำจัดคนพาลให้พินาศไปโดยทางอ้อมเพราะมีแต่คนบูชาบัณฑิตผู้มีคุณธรรม

       9.  เป็นการเชิดชูบัณฑิตให้สูงเด่นทำให้ท่านสามารถบำเพ็ญกรณียกิจได้สะดวกกว้างขวางยิ่งขึ้น

                                                            ฯลฯ

 

        “ผู้ใด พึงบูชาท่านผู้อบรมตนแล้วผู้หนึ่ง แม้เพียงครู่เดียวการบูชาของผู้นั้น ประเสริฐกว่าการบูชาของบุคคลผู้บูชา (โลกิยมหาชน)ด้วยทรัพย์เดือนละพัน ตลอดร้อยปี”        


ขุ.ธ. ๒๕/๑๘/๒๙

ขอบคุณธรรมะจากเว็บ http://www.kalyanamitra.org

แชร์