ตัวแทนชาวบ้านจากสองหมู่บ้านในมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน เตรียมปรากฏตัวในศาลอัมสเตอร์ดัมในฐานะพยานในวันนี้ เพื่อยืนยันว่ารูปปั้นพระสงฆ์ที่ถูกสะสมโดยนักสะสมชาวดัตช์นั้นคือพระพุทธรูปที่ถูกขโมยไปจากวัดในหมู่บ้านของพวกเขา

       ซึ่งการขึ้นศาลครั้งนี้ เป็นการการรับฟังพยานหลักฐานขั้นสุดท้ายก่อนที่ศาลเนเธอร์แลนด์จะตัดสินคดีความที่มีความสำคัญทางศาสนาวัฒนธรรมและจริยธรรมคดีนี้

       รูปปั้นพระสงค์ที่เรียกว่า “จางกง จู่ซือ” (章公祖师) หรือ “พระสงฆ์จางกง” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะมีมัมมี่อยู่ภายในองค์พระและได้รับการบูชาในวัดของหมู่บ้านมานานกว่า 1,000 ปี จนกระทั่งสูญหายไปเมื่อเดือนธันวาคมปี 1995 และปรากฏขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2015 ในข่าวนิทรรศการที่ประเทศฮังการี

       Oscar van Overeem นักสะสมชาวเมืองอัมสเตอร์ดัม ผู้ซื้อรูปปั้นดังกล่าวในช่วงกลางปี 1996 เห็นด้วยว่ารูปปั้นพระสงฆ์องค์นี้มีที่มาจากมณฑลฝูเจี้ยน แต่ยังคงยืนยันว่าไม่ใช่รูปปั้นองค์เดียวกับที่ถูกขโมยไปจากวัดของชาวบ้าน รวมถึงเคยตกลงด้วยว่าหากเงื่อนไขต่างๆ ลงตัว เขาก็จะคืนพระองค์นี้ แต่เมื่อการเจรจาล้มเหลว ชาวจีนจึงได้ยื่นฟ้องเขาในศาลเนเธอร์แลนด์

      นาย Jan Holthuis ทนายชาวดัตช์ผู้ว่าความให้ชาวบ้านชาวจีนกล่าวว่า "รูปปั้นพระของ Oscar Overeem และองค์ที่เป็นของชาวบ้านนั้นเหมือนกัน จำเป็นต้องได้รับการยืนยันความเป็นเจ้าของจากโจทก์ก่อนที่คดีจะสามารถโต้แย้งต่อไปได้ ว่า Oscar Overeem มีสิทธิ์ครอบครองรูปปั้นพระองค์นี้หรือไม่"

       ชาวบ้านและจำเลยได้ส่งคำแถลงที่เป็นลายลักษณ์อักษรและหลักฐานหลายฉบับไปยังศาล ตั้งแต่คดีนี้เริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมปี 2016 ก่อนที่จะมีการไต่สวนในวันนี้ ชาวบ้านได้ส่งหลักฐานใหม่จำนวน 6 รายการ ที่รวมถึงรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากศูนย์ตรวจสอบพระธาตุแห่งฝูเจี้ยน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018

       "รายงานฉบับนี้กล่าวถึงโครงสร้างและรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ต่างๆ ว่าทำไมรูปปั้นพระสงฆ์ของ Oscar Overeem คือองค์เดียวกันกับพระสงฆ์จางกงของชาวบ้าน” ทนายความชาวดัตช์กล่าว พร้อมระบุว่า "เนื่องจากโจทก์ (ชาวบ้าน) จะต้องหาข้อเท็จจริงและหลักฐานใหม่ๆ รวมถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และถ้าหากไม่ให้ชาวบ้านแสดงข้อเท็จจริงเหล่านี้ การพิจารณาก็จะไม่สามารถเรียกได้ว่ามีความเป็นธรรม”

หลักฐานสำคัญของทางฝั่งจีน

1. มีอักษรสีดำเขียนด้วยพู่กันที่ด้านหลังองค์พระว่า “เคยผ่านการบูรณะ”

2. ที่คอเสื้อมีลวดลายและมีลักษณะเป็นคอวีเหมือนกัน

3. ภาพทีซีสแกนชี้ว่าพระสงฆ์รูปนี้มีอายุตรงกันกับช่วงเวลาที่อยู่ในบันทึกของชาวบ้าน

4. มีรูที่มือซ้าย

5. ขนาด ความสูง ความกว้าง น้ำหนักล้วนใกล้เคียงกัน

6. ที่ฐานมีข้อความภาษาจีนว่า “หลวงพ่อจางกงลิ่วเฉวียน”

ขอบคุณข่าวและภาพจาก

China Xinhua News