เมื่อราว 50 ปีที่แล้ว นักเรียนอเมริกันใช้เวลามากมายไปในการฝึกเขียนตัวอักษรแบบคัดลายมือที่ลากหางต่อกัน หรือที่เรียกว่าตัวอักษรแบบ Cursive แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมแปลงเสียงเป็นข้อความได้เข้ามาแทนที่ปากกา ดินสอ และการเขียนด้วยลายมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคัดลายมือแบบ Cursive นี้

      นักเรียนที่โรงเรียน St. Luke ในเมืองแมคลีนรัฐเวอร์จิเนียต้องฝึกคัดลายมือกันสัปดาห์ละหลายๆ ครั้ง โดยใช้ดินสอและปากกาในการบรรจงเขียนตัวหนังสือ

      คุณครู Grace O'Connor กล่าวว่าข้อดีของการเขียนตัวหนังสือเล่นหางแบบ Cursive  ก็คือนักเรียนทุกๆ คนจะมีสไตล์การเขียนของตัวเอง และเมื่อโตขึ้นก็จะพัฒนารูปแบบการเขียนของตัวเองไปเรื่อยๆ

      แต่การเรียนรู้ดังกล่าวอาจจะแตกต่างออกไปเล็กน้อยสำหรับเด็กๆ ที่มีความบกพร่องด้านการอ่าน

      Deborah Spear นักบำบัดซึ่งให้การช่วยเหลือเด็กนักเรียนที่มีปัญหาในเรื่องการอ่าน หรือการตีความตัวอักษร คำ หรือสัญลักษณ์ต่างๆ กล่าวว่าการฝึกการเขียนด้วยลายมือโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเขียนตัวอักษร Cursive ช่วยให้เด็กๆ เหล่านี้สามารถอ่านได้ดีขึ้น และดูเหมือนว่าเส้นโค้งและรูปร่างตัวอักษรที่มีลักษณะแตกต่างเฉพาะตัวจะติดอยู่ในความทรงจำของเด็กๆ กลุ่มนี้ ยิ่งกว่านั้นตัวอักษรที่เชื่อมต่อกันบนกระดาษช่วยให้นักเรียนเห็นตัวอักษรแต่ละตัวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งข้อดีที่ว่านี้ไม่สามารถหาได้จากการพิมพ์

      Deborah Spear กล่าวต่อไปอีกว่าแม้ว่าคุณจะสามารถสัมผัสกับแป้นพิมพ์ได้ แต่เพียงแค่การกวัดแกว่งนิ้วมือไปมานั้นไม่เหมือนกับการใช้กล้ามเนื้อแขนทั้งหมดในการเขียนด้วยลายมือ เช่นเวลาที่พิพม์ตัวอักษร a b และ a d หรือ m และ n จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่เวลาที่เขียนด้วยลายมือจะรู้สึกถึงความแตกต่างได้

      Joseph นักเรียนเกรดเจ็ด อายุ 13 ปี ซึ่งรับการรักษาจาก Deborah Spear มาสามปีแล้ว บอกว่าการฝึกเขียนช่วยให้เขาสามารถเรียนรู้การอ่านได้ดีขึ้น

      เขาบอกว่าเวลาที่เขียนด้วยลายมือ มันเหมือนว่ามือของเขาจะสามารถจำได้ ดังนั้นสมองก็จะเริ่มจดจำตัวอักษรและคำต่างๆ จากนั้นเวลาที่เขาเห็นคำเหล่านี้ ก็จะสามารถจำคำได้ การฝึกเขียนอักษร Cursive นี้สามารถช่วยเขาได้มาก

       คุณครู Grace O'Connor กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยให้เด็กนักเรียนมีความมั่นใจ และยิ่งพวกเขาได้รับความช่วยเหลือมากเท่าไรก็จะยิ่งดีขึ้นมากเท่านั้น พวกเขามีความภาคภูมิใจในงานของตนมากขึ้นจากการได้รับความช่วยเหลือพิเศษนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้มีโอกาสใช้กลยุทธ์ที่ได้เรียนรู้มาแบบตัวต่อตัว มีความมั่นใจมากขึ้นในชั้นเรียน และสามารถร่วมงานกับกลุ่มในการเขียนตัวอักษร Cursive ได้ โดยสิ่งเหล่านี้เหมือนเป็นบทเรียนสำหรับชีวิต ไม่ว่าจะใช้การเขียนตัวอักษรแบบ Cursive นี้ไปอีกกี่ปีก็ตาม

อ่านต่อที่ VOA