เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่วัดนิคมประทีป(วัดโคกหล่อ) ถนนควนขัน หมู่ 6 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง เพื่อทำการสอบถามกับพระอิทธิยาวัธย์ โชติปัญโญ พระธรรมวิทยากร กรมการศาสนา วัดนิคมประทีป หลังจากที่ได้มีการรวมกลุ่มพระตั้งวงสนธนาธรรมะกับญาติโยมผ่านเฟสบุ๊คของพระอิทธิยาวัธย์ สุวีรวราวุฒิ โชติปญฺโญ จนมีผู้ให้ความสนใจร่วมฟังไลฟ์สดเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ให้คนที่ไม่มีเวลาเข้าวัดสามารถรับฟังธรรมะอยู่ที่บ้านได้ เข้ากับสถานการณ์โควิด 19

         พระอิทธิยาวัธย์ เผยว่า อาตมาใช้ช่องทางโซเชียลในการสื่อสารธรรมะกับญาติโยมเป็นเวลา 2 ปีแล้ว จุดแรกเริ่มเนื่องมาจากได้มีการสนทนาธรรมกับสหธรรมิก(พระ) แล้วมีความรู้สึกว่าเวลาพูดคุยเรื่องธรรมะกันเกิดการแลกเปลี่ยนและเกิดประเด็นที่น่าสนใจ อาตมาเลยอยากบันทึกเรื่องราวเหล่านี้เก็บไว้ไม่อยากให้สูญหายไป แรกๆก็นั่งคุยกับพระ 2-3 รูป ญาติโยมก็ได้ประโยชน์ด้วย ต่อมาได้มีโอกาสเรียนรู้โปรแกรมต่างๆและได้นำโปรแกรมเหล่านี้มาใช้เป็นช่องทางในการเผยแพร่ อาทิโปรแกรมซูม โปรแกรมซิสโก้ สามารถพูดคุยกับญาติโยมและแลกเปลี่ยนความรู้กันได้ ประโยชน์ที่ได้รับก็คือเป็นการเชื่อมโลกระหว่างองค์ความรู้สมัยให้กับธรรมะให้ไปด้วยกันได้

        “ในตอนนี้ในเรื่องการโค้ชออนไลน์ ที่สามารถพบเห็นได้ในโลกโซเชียลปัจจุบัน บางคนอาจจะสื่อสารในแนวทางที่ผิดพลาด ในทางที่จริงแล้วโค้ชไม่ใช่เป็นคนที่ไปชักจูงผู้คนให้ต้องมาคล้อยตามหรือว่าให้ต้องมาทำ แต่ว่าบุคคลเหล่านี้เป็นเหมือนบุคคลที่คอยตั้งคำถามที่ทรงพลังเพื่อให้บุคคลที่รับฟังค้นพบคำตอบได้ด้วยตัวเอง คล้ายกับคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงตรัสว่า “ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้ทางเท่านั้นเราเพียงนำพุทธธรรมมาสื่อสารเพื่อให้พุทธศาสนิกชนไปปฏิบัติ และเมื่อเขาเห็นผลจากการปฏิบัติแล้ว ถึงเวลานั้นจะได้เข้าใจอย่างแท้จริง” ดังนั้นพุทธศาสนาจึงไม่ใช่แค่หลักธรรมคำสอนหรือสิ่งที่ทำให้เชื่อ แตเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่พุทธศาสนิกชนนำไปปฏิบัติและเกิดประสบการณ์ตรง” พระอิทธิยาวัธย์ กล่าว

      พระอิทธิยาวัธย์ กล่าวอีกว่า ช่องทางแพลตฟอร์มของโซเชียลทำให้ญาติโยมหรือผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกมาวัด ได้มีโอกาสรับฟังธรรมอยู่ที่บ้าน ได้เปลี่ยนบ้านให้เป็นวัด สามารถฟังธรรมปฏิบัติธรรมได้ หรือคนที่มีความทุกข์ประสบปัญหาชีวิตที่ไม่สามารถระบายกับใครได้ อาตมาก็ได้สื่อสารอยู่เสมอว่า ในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันหรือเรื่องราวต่างๆในสังคมที่มีความซับซ้อนจนทำให้เกิดความเครียด มีข่าวการทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตายหรือบุคคลที่มีความทุกข์มากมาย ทุกสิ่งล้วนเป็นตะกอนของโทสะเพราะเราไม่มีความรู้เนื้อรู้ตัว ช่องทางโซเชียลจึงเป็นอีก 1 ช่องทางให้ผู้คนเหล่านั้นมีโอกาสรับฟังคำสอนย้ำเตือนตนเองให้ตระหนักทบทวนและเกิดสติ โดยเฉพาะในช่วงโควิด 19 นี้ที่ Social Distancing ที่เราต้องอยู่มีระยะห่างทางสังคมแต่ขอให้ตัวเรามีธรรมมะที่เรียกว่า Social Distancing but Dhamma is Closing ที่หมายความว่า มีระยะห่างทางสังคมแต่จิตใจเราใกล้ชิดกับธรรมะมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของการเทศน์ออนไลน์ก็คือสามารถมารับชมย้อนหลังได้ และจุดไหนที่ไม่เข้าใจสามารถมาชมได้ตลอดเวลา

https://www.banmuang.co.th