เลือกซื้อชักโครก อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ชักโครก เลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกซื้อชักโครกและรุ่นชักโครกต่าง ๆ มาฝากกันค่ะ http://winne.ws/n2760

1.1 พัน ผู้เข้าชม
เลือกซื้อชักโครก อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

  1. ความสูง

        ระดับความสูงของโถชักโครกมีผลต่อความสบายตอนนั่ง มาตรฐานความสูงจากพื้นถึงโถนั่งของชักโครกอยู่ที่ 14-17 นิ้ว ห้องน้ำเด็กแนะนำให้ใช้ความสูง 14 นิ้ว สำหรับห้องน้ำมาตรฐานแนะนำแบบ 17 นิ้ว เพราะถ้าใช้ขนาดที่เล็กกว่านี้อาจเกิดอาการปวดเมื่อยเวลานั่งได้

2. รูปทรง  

        ชักโครกในปัจจุบันมีสองแบบ คือ แบบกลมและแบบวงรี ถ้าเน้นความสบายตอนนั่งให้เลือกแบบวงรี แต่ถ้าต้องการประหยัดพื้นที่แบบกลมจะเหมาะกว่า 

3. แบบชักโครก 

        ชักโครกมี 2 แบบด้วยกันคือ แบบโถชิ้นเดียว ชักโครกแบบนี้จะมีตัวโถกับหม้อเก็บน้ำจะถูกหลอมขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกัน รูปทรงจะกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนชักโครกแบบสองชิ้น จะมีตัวโถกับหม้อเก็บน้ำจะแยกชิ้นกัน เวลาติดตั้งต้องติดตั้ง 2 ชิ้น นอกจากนี้แล้วชักโครกทั้ง 2 แบบยังมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันดังนี้ 

เลือกซื้อชักโครก อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

 - ชักโครกแบบชิ้นเดียว : จะมีรูปทรงสวย ติดตั้งง่ายไม่ต้องประกอบชิ้นส่วน ทำความสะอาดง่ายทั่วถึง น้ำไม่รั่วเมื่อใช้ไปนาน ๆ ระบบชำระทำงานเงียบ ส่วนข้อเสียจะมีราคาสูงกว่าแบบสองชิ้นและเมื่อชำรุด พัง แตก หัก ต้องเปลี่ยนทั้งชิ้น

เลือกซื้อชักโครก อย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้งาน

 - ชักโครกแบบ 2 ชิ้น : ข้อดีของโถแบบสองชิ้นคือ มีราคาจะถูกกว่าแบบชิ้นเดียวมาก เวลาชำรุด ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ข้อเสียคือทำความสะอาดยาก มักจะมีคราบหรือสิ่งสกปรก เชื้อโรค ตกค้างอยู่ตามซอกมุมรอยต่อ ระบบชำระทำงานเสียงดัง ติดตั้งหลายขั้นตอนมากกว่าแบบชิ้นเดียว

 4. การทำความสะอาด

        ถ้าต้องการให้ง่ายต่อการทำความสะอาด แนะนำให้เลือกแบบที่มีผิวสุขภัณฑ์มันวาว เพราะผิวลื่น ๆ ของชักโครกจะทำให้สิ่งสกปรกจะหลุดออกง่ายตอนชำระล้าง ถ้าเป็นแบบผิวด้านมีโอกาสที่จะเกิดคราบสกปรกตกค้างได้ง่าย

5. ระบบชำระล้าง

        ระบบชำระล้างแบ่งออกเป็น 2 เช่นเดียวกันคือ แบบ Washdown น้ำจะแรง ชำระได้สะอาดหมดจด แต่จะมีข้อเสียคือเสียงดัง ส่วนระบบ siphon จะเงียบกว่า คราบตกค้างในคอห่านไม่ค่อยมีให้เห็น

6. การประหยัดน้ำ

        แบบดูอัล ฟลัช (Dual Flush) จะประหยัดกว่าแบบซิงเกิล ฟลัช (Single Flush) เพราะจะมีระบบเลือกกดชำระแบบใช้น้ำมากหรือใช้น้ำน้อย แต่ระบบซิงเกิล ฟลัช ก็มีรุ่นแบบที่ใช้น้ำน้อยอยู่เช่นกัน โดยจะมีตั้งแต่ 3–6 ลิตร


ขอบคุณภาพและเนื้อหา   เว็บสนุก

แชร์