ก่อนฉีด “วัคซีนโควิด-19” ควรงดยาอะไรบ้าง?

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับวัคซีนนอกจากต้องงดออกกำลังกายและยกของหนัก รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอแล้วยังมียาที่กินอยู่ประจำบางตัวที่ควรงดก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนทั่วไป รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ด้วย http://winne.ws/n27813

2.4 พัน ผู้เข้าชม
ก่อนฉีด “วัคซีนโควิด-19” ควรงดยาอะไรบ้าง?

       แพทย์แนะ ก่อนฉีดวัคซีนทุกตัว รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ทุกชนิด ควรงดกินยาอะไรก่อนบ้าง เพื่อเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

สาวโพสต์เล่า เพื่อนกิน"ยาคุม" ก่อนฉีด "ซิโนแวค" สุดท้ายเสียชีวิตจากลิ่มเลือดในปอด

        การเตรียมตัวก่อนเข้ารับวัคซีนนอกจากต้องงดออกกำลังกายและยกของหนัก รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอแล้วยังมียาที่กินอยู่ประจำบางตัวที่ควรงดก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนทั่วไป รวมถึงวัคซีนโควิด-19 ด้วย

ก่อนฉีด “วัคซีนโควิด-19” ควรงดยาอะไรบ้าง?

          นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ผลข้างเคียงของวัคซีนแม้จะเกิดได้น้อยมากๆก็ตาม แต่ถ้าสามารถป้องกันไม่ให้เกิดได้จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกลไกของผลข้างเคียงจากวัคซีนโควิด ที่สำคัญประการหนึ่ง (นอกจากการแพ้เฉียบพลัน)คือการจุดให้เกิดการอักเสบอย่างรุนแรง และมีผลต่อเนื่อง ทำให้เส้นเลือดหดตัว และลิ่มเลือดและเป็นเหตุผลที่ต้องละเว้นยาที่มีผลทำให้เส้นเลือดหดตัวอยู่แล้ว 

สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรคแนะนำยาที่ควรงดก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีน ดังนี้

· ยาแก้ปวดไมเกรน เช่น
- Cafergot, Avamigran, Tofago ควรงดยา 5 วัน ก่อนฉีดวัคซีน
- Triptan เช่น Relpax ควรงดยา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซีน

·  ยาต้านอาการซึมเศร้า เช่น 

- SSRI, SNRI, Tricyclic Antidepressants เช่น fluoxetine, sertraline, escitalopram, venlafaxine, duloxetine,amitriptyline, nortriptyline, imipramine ควรงดยา 24 ชั่วโมงก่อนฉีดวัคซีน

· ยาแก้หวัดคัดจมูก กลุ่มที่มีฤทธิ์ทำให้กระทบต่อเส้นเลือดและหัวใจเช่น Pseudoephedrine ควรงดยา 24 ชั่วโมง ก่อนฉีดวัคซีน

· ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเพศหญิง ควรงดยา 14 วัน ก่อนฉีดวัคซีน

คำแนะนำเพิ่มเติม

·        เฟซบุ๊กเพจ Drama-Addictนำข้อมูลจาก อ.อรวิน วัลลิภากอาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา จากโรงพยาบาลรามาธิบดี และ อ.โอฬาริกมุสิกวงศ์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ระบุว่า ยาคุมกำเนิดชนิดรวมแบบมีเอสโตรเจนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน 6-15 ราย ต่อหมื่นราย (สถิติจากอังกฤษ) ส่วนของไทยความเสี่ยงน้อยกว่าของอังกฤษประมาณห้าเท่า (ก็ประมาณ หนึ่งรายต่อหมื่นราย)ส่วนยาฉีดคุมกำเนิด (DMPA) ยาฝังคุมกำเนิดพวกนี้เป็นยาคุมแบบไม่มีเอสโตรเจนความเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตันจะน้อยกว่าแบบมีเอสโตรเจนดังนั้นถ้าใช้ยาคุมกลุ่มที่ไม่มีเอสโตรเจน ความเสี่ยงจะน้อยกว่า

·        กลุ่มที่ใช้ยาคุมกลุ่มที่ความเสี่ยงน้อยอยู่แล้วเพราะไม่มีเอสโตรเจน เช่น ยาคุมแบบฝัง ยาคุมแบบฉีด ห่วงคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนพวกนี้ไม่ต้องหยุด ใช้ต่อไปได้เลย เพราะความเสี่ยงลิ่มเลือดต่ำอยู่แล้วยาคุมกลุ่มนี้ไม่เพิ่มความเสี่ยงลิ่มเลือดอุดตัน

·        เฟซบุ๊กเพจ Drama-Addictแนะนำว่า ใครที่ถึงกำหนดฉีดวัคซีนแล้วแต่หยุดยาคุมไม่ทัน ก่อนไปฉีดและหลังฉีดวัคซีน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ประมาณวันละ 13 แก้ว (หรือราวๆ 3 ลิตร)และพยายามขยับตัวบ่อยๆ อย่านั่งนิ่งๆ นอนนิ่งๆ ทั้งวันก็จะช่วยลดความเสี่ยงลิ่มเลือดได้

·        ผู้ที่ใช้น้ำมันกัญชาอยู่แล้วสามารถใช้ต่อได้ โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณ

·        ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่สามารถทานยาได้ตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดนิ่งตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก 1 นาทีหลังฉีดแล้วเจ้าหน้าที่จะให้รอสังเกตอาการในบริเวณสถานที่ฉีดอีก 30 นาที

·        ผู้ที่มีประวัติบาดเจ็บศีรษะหรือเพิ่งเกิดอุบัติเหตุที่เกิดกับศีรษะ มาไม่ถึง 3 เดือน หรือมีโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองต้องให้แพทย์วินิจฉัยอาการก่อนฉีด ถ้าอาการยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมไม่ได้ต้องเลื่อนออกไปก่อน

·        คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบประสาทและสมองที่อาการไม่คงที่ หรือควบคุมอาการของโรคได้ไม่ดีก็ให้พิจารณาเลื่อนฉีดวัคซีนออกไปก่อนด้วย


·        ก่อน-หลังฉีด "วัคซีน-19" ควร-ไม่ควรทำอะไรบ้าง?

ที่มา https://www.sanook.com/health/28817

แชร์