เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ฮ่องกงก้าวแซงหน้ากรุงลูอันดา เมืองหลวงของประเทศแองโกลา ยึดตำแหน่งเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ จากการสำรวจจัดอันดับโดย เมอร์เซอร์ บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานการสำรวจของเมอร์เซอร์ชี้ว่า เหตุที่กรุงลูอันดา ซึ่งเคยรั้งเมืองค่าครองชีพแพงสุดก่อนหน้านี้ หล่นลงมาอยู่อันดับ 2 เป็น เพราะค่าเงินกวันซาของแองโกลาที่อ่อนค่าลง

ส่วนเมืองที่มีค่าครองชีพสูงรองลงมาอันดับ 3 คือ เมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ ตามมาด้วยสิงคโปร์, กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น, กรุงกินชาซา เมืองหลวงสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, นครเซี่ยงไฮ้ของจีน, นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, กรุงเอ็นจาเมนา เมืองหลวงประเทศชาด และกรุงปักกิ่งของจีน

ขณะที่กรุงลอนดอนของอังกฤษ หล่นจากอันดับ 5 มาอยู่ที่ 17 เมืองกลาสโกว์ในสก๊อตแลนด์ หล่นจากอันดับ 10 มาอยู่ที่ 119 และกรุงเบลฟาสต์ ของไอร์แลนด์เหนือ ลงจากอันดับ 3 อยู่ที่ 134

เมอร์เซอร์ระบุว่า ผลการสำรวจที่ออกมาข้างต้นเป็นผลจากภาวะความผันผวนของตลาดและความชะงักงันของการเติบโตทางเศรษฐกิจในหลายพื้นที่ของโลก

สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติจากการสำรวจของเมอร์เซอร์คือ กรุงวินด์ฮุก เมืองหลวงของนามิเบีย ตามมาด้วยเมืองเคปทาวน์ ในแอฟริกาใต้

การสำรวจครั้งนี้ของเมอร์เซอร์เป็นการสำรวจค่าครองชีพใน 209 เมืองทั่วโลก โดยสำรวจเปรียบเทียบราคาสินค้ากว่า 200 รายการในแต่ละเมือง รวมถึงด้านที่อยู่อาศัย การคมนาคมขนส่ง อาหาร เสื้อผ้า และ สันทนาการ ผลสำรวจนี้ยังมีขึ้นเพื่อให้บริษัทเอกชนต่างๆสามารถใช้ในการประกอบการประเมินค่าเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานบริษัทซึ่งเป็นชาวต่างชาติที่ต้องทำงานในต่างประเทศ

ขณะที่การสำรวจเมื่อต้นปีนี้โดย อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) สิงคโปร์รั้งอันดับ 1 ประเทศที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก นำเมืองซูริก, ฮ่องกง, เจนีวา และ ปารีส

ขอบคุณ http://www.matichon.co.th/news/184119