รัฐบาลสิงคโปร์หนุนคนทำการกุศล ยอดเศรษฐีใจบุญพุ่ง

ปัจจุบันคนที่ประสบความสำเร็จหรือเป็นเศรษฐีในสิงคโปร์นิยมทำการกุศลโดยตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้คนตามรูปแบบที่ตนศรัทธา รัฐบาลก็ได้ส่งเสริมเรื่องนี้มาเกือบ10ปีแล้ว http://winne.ws/n4931

1.3 พัน ผู้เข้าชม

Fund manager Teng Ngiek Lian, 66, has donated $50 million to the endowment fund of his Silent Foundation, to help those without a voice. It funds charities to help foreign workers, among other causes. ST PHOTO: KEVIN LIM

รัฐบาลสิงคโปร์หนุนคนทำการกุศล ยอดเศรษฐีใจบุญพุ่ง

10ปีที่ผ่านมานี้ สิงคโปร์มีมูลนิธิและองค์กรการกุศลเกิดขึ้นอย่างน้อย40แห่งซึ่งเพิ่มขึ้นมา3เท่าของสิบปีก่อนหน้านี้ เช่น

1.       SilentFoundation ตั้งขึ้นปี 2010 โดย Mr Teng Ngiek Lian เป็นเจ้าของ TargetAsset Management  คือหนึ่งในผู้จัดการกองทุนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในสิงคโปร์ บริจาคเงินตั้งมูลนิธินี้จำนวน50 ล้านเหรียญสิงคโปร์

2.       ChuaFoundation ตั้งขึ้นปีที่แล้ว โดย  Chua Thian Poh แห่ง Ho Bee Groupกับพี่น้องในครอบครัวเขาถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในสิงคโปร์ บริจาคเงินตั้งมูลนิธิจำนวน10 ล้านเหรียญสิงคโปร์

3.       SMJaleel Foundation ตั้งขึ้นปี 2010 โดย MohamedAbdul Jaleel ซึ่งเคยออกจากโรงเรียนกลางคัน แต่ปัจจุบันเป็นนายใหญ่ แห่ง Mini Environment Service Group สร้างรายได้ต่อปีกว่า100ล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยสร้างและทำธุรกิจที่พักอาศัยให้คนทำงานจากต่างชาติ บริจาคเงินตั้งมูลนิธิจำนวน10 ล้านเหรียญสิงคโปร์

4.       OngFoundation ตั้งขึ้นปี 2012 โดยลูกชายสองคนของอดีตประธานาธิบดีคนที่แล้วคือOng Teng Cheong

5.       RoseMarie Khoo Foundation ตั้งขึ้นปี 2009 โดยลูกๆของมหาเศรษฐีใจบุญที่ล่วงลับไปแล้ว Khoo TeckPuat ตั้งชื่อมูลนิธิตามชื่อของแม่  Rose Marie

6.       DrOon Chiew Seng Trust ตั้งขึ้นปี 2014 โดย คุณหมอOonซึ่งอายุ100ปีแล้ว คุณหมอเป็นคนสร้างบ้านหลังแรกให้ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมในสิงคโปร์Apex Harmony Lodge และจะสร้างเพิ่มอีก 

Dr Oon Chiew Seng, 100, set up Singapore’s first home for dementia patients, Apex Harmony Lodge, and hopes to get another home started. ST PHOTO: LIM YAOHUI

รัฐบาลสิงคโปร์หนุนคนทำการกุศล ยอดเศรษฐีใจบุญพุ่ง

การเพิ่มขึ้นของมูลนิธิและองค์กรการกุศลต่างๆสอดคล้องกับช่วงที่นายกรัฐมนตรีLee Hsien Loongได้ออกมากระตุ้นให้คนสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จ ออกมาแบ่งปันให้สังคมตามวิถีที่ศรัทธาในปี2008 

 ที่น่าสนใจคือการให้ ในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงไป   ไม่ใช่ให้ เพียงเขียนเช็คให้  แต่ให้อย่างมีกลยุทธ์ และอีกอย่างคือจะไม่ตั้งชื่อตามผู้ก่อตั้งหรือชื่อครอบครัว โดยผู้ก่อตั้งบอกว่า ไม่อยากให้งานของมูลนิธิเกี่ยวกับพวกเขาอย่างเดียวแต่อยากให้งานดำเนินต่อไปแม้พวกเขาจากไปแล้ว และหวังว่าการตั้งชื่อเป็นกลางๆจะดึงคนนอกครอบครัวมาร่วมสร้างความดีด้วยกัน  อีกอย่างคือ การให้ จะมีกลยุทธ์ จะระบุเรื่องที่อยากสนับสนุนหรือกลุ่มที่อยากทำงานด้วยเพื่อริเริ่มหรือพัฒนาโครงการ

Miss Rebekah Lin, 31, daughter of ex-minister Lim Hwee Hua and Tembusu Partners founder Andy Lim, manages Jia Foundation.PHOTO: DIOS VINCOY JR FOR THE SUNDAY TIMES

รัฐบาลสิงคโปร์หนุนคนทำการกุศล ยอดเศรษฐีใจบุญพุ่ง

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วก็อยากแบ่งปันความร่ำรวยให้สังคมยิ่งปัจจุบันรัฐบาลสิงคโปร์สนับสนุนให้คนทำการกุศล อัตราของมหาเศรษฐีใหม่ๆก็เพิ่มขึ้นเศรษฐีใหม่ๆนิยมตั้งมูลนิธิ โดยส่วนหนึ่งรู้สึกว่าสังคมคาดหวังให้พวกเขาตอบแทนให้สังคมถ้าไม่ทำถือเป็นเรื่องแปลก หรือบางคนอยากถ่ายทอดความรู้สึกรับผิดชอบสังคมให้กับลูกหรืออยากเป็นเกียรติให้สมาชิกในครอบครัว บางคนเคยมีชีวิตที่ยากลำบากมาก่อนพอร่ำรวยมาก็ตอบแทนช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือเช่นคนแก่หรือคนป่วย

 คนใจบุญที่สิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะให้แบบเงียบๆ  คนรุ่นใหม่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์หรือบอกว่าบริจาคไปเท่าไหร่  โดยทั่วไปเศรษฐีใจบุญทั้งหลายจะให้ประมาณ10%ของรายได้

 ขอขอบคุณแหล่งข่าว:

http://www.straitstimes.com/singapore/not-just-about-writing-chequesbut-also-strategic-giving

แชร์