ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

หลวงปู่มั่น ยืนยัน คำทำนาย ว่า #พระพุทธศาสนามา ถึงกึ่ง5,000 ปีนับ แต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดเหมือนดังสมัยพุทธกาล พุทธศาสนาจะเผยแผ่ไปทั่วโลก http://winne.ws/n5818

7.6 พัน ผู้เข้าชม

"พระอริยะคุณาทาน ผู้เขียนหนังสือ ทิพยอำนาจ เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น เล่าว่า มีคำทำนายว่า เมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง 5,000 ปี นับแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด คล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพาน ถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาอภินิหาร ในสุวรรณภูมิ จะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดีย ไปยุโรป และอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก โลกจะร่มเย็นเป็นสุข ด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา

ดังนี้ ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น)  ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่าท่านเจ้าคุณ พระอุบาลีคุณุปมาจารย์ สิริจันทเถระ (จัน) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป"

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุ และผล

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

เป็นศาสนาเดียวที่ตอบโจทย์ชีวิตของคนได้

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!
ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

ประเทศอิตาลีประกาศให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

Brad Pitt, actor

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

Richard Gere เป็นชาวพุทธมานานแล้ว! ทำหน้าที่โปรโมทศาสนาพุทธผ่านสื่อต่างๆ อีกทั้งว่ากันว่ามีส่วนทำให้นักแสดงดังอีกท่านกลายเป็นชาวพุทธ

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

เกือบ 30 ปีแล้วที่ดาราดังของฮอลลีวูด “ริชาร์ด เกียร์” เข้ามาสู่ร่มเงาของพระพุทธศาสนา ซึ่งพระเอกหนุ่มย้ำว่าเป็นหลักการที่เชื่อถือได้อย่างแน่นอน เพราะเขาได้พิสูจน์ด้วยการศึกษาและปฏิบัติอย่างจริงจังตลอดเวลาที่ผ่านมา

       “ศาสนาพุทธ เป็นแนวทางที่ผมค้นพบว่าเชื่อถือได้อย่างเต็มที่ เป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาแต่ครั้งโบราณ” เกียร์กล่าว

               ผมรู้สึกอยู่เสมอว่า "การปฏิบัติธรรมคือการใช้ชีวิตจริง ผมจำได้ว่า เมื่อผมเริ่มทำสมาธิตอนอายุ 24 ปี เพื่อแสวงหาคำตอบให้ชีวิต ครั้งหนึ่งผมซุกตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆเป็นเดือนๆ พยายามฝึกไทชิและนั่งสมาธิ ผมมีความรู้สึกแน่ใจว่า ผมอยู่ในสมาธิตลอดเวลา ไม่เคยหลุดออกมา แม้เวลาจะผ่านมานาน แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกเช่นนั้นอยู่ มาถึงตอนนี้ผมสามารถนำมันมาใช้กับโลกภายนอกได้ โดยการฝึกมากขึ้น เฝ้ามองใจของ ตัวเอง พยายามสร้างโพธิจิต(จิตรู้แจ้ง)ให้เกิดขึ้นในใจ”

       ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ถล่มตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 45 นั้น เกียร์ให้สัมภาษณ์ว่ากำลังศึกษา และปฏิบัติธรรมอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ เขาได้ให้มุมมองในเรื่องนี้ว่า

       “เราต้องคิดว่าบรรดาผู้ก่อการร้ายนั้นได้ก่อความเลว ร้ายให้กับชีวิตภายหน้าของพวกเขาไว้แล้ว เรียกว่าสร้างกรรมชั่ว และเราจะต้องมองให้กว้างไกลว่า เราทุกคนต่าง เกี่ยวโยงกับการกระทำครั้งนี้เช่นกัน” และยังย้ำว่า “เราต้องให้ความรักและเมตตากับทุกคน ไม่เว้นแม้พวกที่ก่อการร้าย ถ้าเราทั้งหลายสามารถที่จะมองพวกผู้ก่อการร้าย ด้วยความคิดว่า เขาเหล่านั้นคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ยาที่จะรักษาพวกเขาได้ก็คือ ความรักและเมตตานั้นเอง ไม่มีอะไรจะดีกว่านั้นอีกแล้ว”

       เกียร์ทำสมาธิเป็นประจำทุกวัน “เป็นสิ่งที่ช่วยให้ผมเกิดแรงจูงใจในแต่ละวัน” เขาพูด และบอกต่อไปว่าการทำสมาธิของเขา คือ “การทลายกำแพงของอัตตาลง ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนตัวตนของคุณให้เป็นอีกคนหนึ่ง และเมื่อคุณได้เรียนรู้การเข้าถึงธรรมชาติของตัวตน คุณจะเริ่มเข้าใจว่าแบบแผนชีวิตของคุณเป็นอย่างไร และอะไรทำให้คุณตกอยู่ในสภาวะสับสน ผิดหวัง ไม่เป็นสุข ดังนั้น คุณก็จะรู้ว่า ทำไมมันถึงเกิดขึ้น และจะหา ทางหลุดจากตรงนั้นได้อย่างไร เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป”

       ดาราดังย้ำถึงเป้าหมายสูงสุดในการทำสมาธิว่า “เพื่อที่เราจะได้มีความสุขมากขึ้น คือช่วยทำให้สภาพทางอารมณ์และจิตใจดีขึ้น มันเป็นแนวทางปฏิบัติที่จะพาพวกเราผ่านพ้นความทุกข์ มุ่งหน้าสู่ความสุข แต่เป็นเพราะเราไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ชีวิตจึงดูวุ่นวายสับสนทุกครั้งไป การอ่านใจตนเอง ก็คือ มองที่ตัวเราเองและเข้าใจจิตวิญญาณ ความเกลียดจะกลายเป็นความรักและนั่นเป็นหนทางที่ผมกำลังปฏิบัติอยู่”

ขอบคุณเนื้อเรื่องจาก Pantip

Keanu Reeves อธิบายกล่าวถึงการถือพระรัตนตรัยเป็นสารณะ เชิญชวนคนมานับถือศาสนาพุทธ

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

http://www.hellomagazine.com/celebrities/200305283652/keanu/reeves/matrix/

http://www.dhammawiki.com/index.php?title=List_of_Celebrity_Buddhists

I quit meditating, I quit being a Buddhist and my life changed upside down. "ผมเคยเลิกนั่งสมาธิ ผมเลิกเป็นชาวพุทธ แล้วชีวิตผมก็แย่ลง"

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

http://content.usatoday.com/communities/Religion/post/2010/03/tiger-woods-wearing-buddhist-bracelet-in-golf-interview/1#.UZL8e7VTArV

Orlando Bloom "ครับ ศาสนาพุทธช่วยผมมาก ผมเรียนรู้เรื่องการจัดการกับความวุ่นวายรอบตัวผมแบบพุทธ" Bloom says,”Yes. Buddhism really helps me. I'm learning to handle the insanity around me through this philosophy.

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

http://www.people.com/people/orlando_bloom/

Steve Jobs, CEO of Apple Inc.

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ชัยบวร สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) อัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ ผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนาสตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) อัจฉริยะผู้นี้เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นบุตรนอกสมรสของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัย กับศาสตราจารย์ทางด้านรัฐศาสตร์ มารดาแท้ ๆ ยกเขาให้เป็นบุตรบุญธรรมแก่ครอบครัว "จอบส์" ซึ่งมีหัวหน้าครอบครัวเป็นช่างเครื่อง โดยขอว่า บุตรชายของเธอจะต้องได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยเมื่อเจริญวัยขึ้นจอบส์เข้าศึกษาต่อที่ Reed College ในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอนได้เพียง 6 เดือน ก็ลาพักร้อน เพราะเขาไม่สนใจในสิ่งที่เขาเรียนอยู่ แต่เขาก็กลับเข้ามาศึกษาใหม่อีก 1 ปีครึ่ง โดยลงเรียนเฉพาะคอร์สที่เขาสนใจ เช่น การประดิษฐ์ตัวอักษร (ซึ่งภายหลังเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ในการออกแบบตัวพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ Macintosh) หลังจากนั้นเขาหยุดเรียนถาวรและไม่ได้ศึกษาจนจบมหาวิทยาลัยตามที่มารดาแท้ ๆ ของเขาหวังไว้อาจเป็นเพราะเบื้องลึกจิตใจของสตีฟ จอบส์ เป็นคนที่ขาดซึ่งที่พึ่งพิงทางจิตใจ ด้วยพ่อแม่ที่เขาอาศัยอยู่นั้นไม่ใช่พ่อแม่แท้ ๆ ของเขา แต่เป็นพ่อแม่บุญธรรม เมื่อเขารู้ความจริงแล้วว่าพ่อแม่ของเขาเป็นใคร จึงเกิดความคิดในเชิงคำถามมากมายเกี่ยวกับชีวิต ภาวะจิตใจของเขาเป็นทุกข์อย่างมาก และนี่เองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหันมาสู่พระพุทธศาสนาพระพุทธศาสนาของเขาก็คือ พระพุทธศาสนานิกายเซน (Zen) เขาชอบอ่านวรรณกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ทั้งเถรวาท มหายาน และเซน ไม่ว่าจะเป็นพุทธสายไหน นิกายไหน ก็คือ พุทธ มีพระศาสดาพระองค์เดียวกัน จึงทำให้โลกนี้ได้เกิดอัจฉริยะขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบและน่าภาคภูมิใจพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งปัญญา ที่ทำเอาคนระดับอัจฉริยะตะวันตกเกิดความทึ่งกันมาแล้วมากมายสตีฟ จอบส์ นำพระพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้กับงานของเขา ในปี พ.ศ. 2519 จอบส์และเพื่อนสมัยเรียน "สตีฟ วอซเนียก" ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Apple Computer 10 ปีให้หลัง Apple ก็เติบใหญ่กลายเป็นบริษัทใหญ่ที่มีมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ และพนักงานมากกว่า 4,000 คนจอบส์เคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Wired ของอเมริกาว่า"มีคำคำหนึ่งในพระพุทธศาสนา คือ จิต เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างยื่ง จิตที่มองเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริง ซึ่งค่อย ๆ ทำให้เราตระหนักถึงแก่นแท้ของสิ้งเหล่านั้น" การเจริญมรณานุสติทุกวัน เป็นเครื่องมือช่วยการตัดสินใจในชีวิตพระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "ชีวิตของมนุษย์เปรียบเหมือนน้ำค้างบนยอดหญ้า ที่ไม่นานก็ร่วงหล่นหายไป"จอบส์พูดถึงความตายว่า กลางปี พ.ศ. 2547 เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนชนิดรุนแรง เขาจึงนำหลักมรณานุสติมาใช้ในหลายโอกาส เขากล่าวว่า"การที่รู้ว่าจะต้องตายในไม่ช้า เป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดของผม เพราะเมื่อรู้ว่าความตายคืบคลานเข้ามาหา ผมก็สามารถเลือกอะไรในชีวิตได้ชัดเจนและง่ายขึ้น สิ่งต่าง ๆ ที่เป็นภายนอก เช่น ความคาดหวัง ความยโส ความกลัว ความล้มเหลว ก็อันตรธานหายไปสิ้น เหลือแต่สื่งที่สำคัญจริงๆ".........................................................ยังมีอีกนะครับ


สรุปความจาก "ธรรมะวิถีเซน ของ สตีฟ จอบส์

ขอบคุณที่มาจาก Mildfulnews

ROBERTO BAGGIO

ต่อไปชาวตะวันตกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนากันมากขึ้น!!!

โรเแบร์โต บาจโจ (Roberto Baggio)

อดีตนักฟุตบอลชื่อดังชาวอิตาลี วัย 43 ปี โรเแบร์โต บาจโจ หรือที่แฟนบอลชาวไทยตั้งฉายาให้ว่า “เทพบุตรเปียทองคำ” (ตามเอกลักษณ์ประจำตัวของเขาคือผมเปียที่ท้ายทอย) ได้หันมาสนใจพุทธศาสนา หลังเข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นเหตุให้เขาลงแข่งขันฟุตบอลได้เพียง 5 เกมในช่วง 2 ปีแรกเท่านั้น และต้องหยุดเล่นนานถึง 2 ปี เพื่อฝึกกายภาพ เขาเล่าว่า ในเวลานั้น รู้สึกเป็นกังวลต่ออนาคตของตัวเองในวงการฟุตบอล เพราะไม่แน่ว่าจะสามารถกลับมาลงสนามได้หรือไม่ มันดูเป็นความหวังที่เลือนลาง ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสียบ่อยครั้ง และไม่มีความสุข

เมาริซิโอ โบลดรินี เจ้าของร้านขายแผ่นซีดี ซึ่งบาจโจเป็นลูกค้าประจำที่ร้าน ได้แนะนำให้เขาสวดมนต์ บาจโจรู้สึกดีขึ้นมาก และหันมาสนใจศึกษาพุทธศาสนา จนนำไป สู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง กระทั่งอาการบาดเจ็บที่เข่าค่อยทุเลาลง และสามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง

ในราวปี 1988 บาจโจได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ โดยเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมโซคา งักไก สากล (Soka Gakkai International) ซึ่งมีรากฐานมาจากนิกายนิชิเรน โชชู ทางฝ่ายพุทธมหายาน ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น

การเปลี่ยนศาสนาของนักเตะดัง เป็นเรื่องที่ดูขัดแย้งที่สุดในสายตาเพื่อนร่วมชาติ เพราะเขาเป็นพุทธศาสนิกชน ในดินแดนแห่งคริสตศาสนจักรอันศักดิ์สิทธิ์ แต่เทพบุตรเปียทองคำบอกว่า ศาสนาพุทธช่วยให้เขาผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนั้นมาได้ และสร้างสมดุลในชีวิตของเขาได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะทำให้คนอื่นๆรู้สึกแปลกใจต่อการเปลี่ยนศาสนาของเขาก็ตาม สำหรับเขาแล้วการตัดสินใจ หันมานับถือพุทธศาสนา ไม่รู้สึกว่าขาดความเชื่อมั่นและไม่แคร์ว่าใครจะพูดว่าอย่างไร เพราะเป้าหมายของตนคือต้องการจะเป็นบุคคลที่มีความสุขที่สุด

“นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมความเชื่อในประเทศอื่น การที่คนคนหนึ่งหันมานับถือศาสนาพุทธ คนอาจจะมองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่คนที่อิตาลี ส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องพุทธศาสนาเลย ก็เลยตัดสินคนอื่นโดยขาดความรู้ความเข้าใจ เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า “พระพุทธเจ้า” ก็พากันอุทานว่า “ว้าว!!”

ที่แน่ๆก็คือ มารดาของเขาเอง ซึ่งบาจโจต้องรอถึง 3 เดือนหลังการเปลี่ยนศาสนา จึงค่อยบอกมารดา ซึ่งภายหลังเธอก็ยอมรับว่า พุทธศาสนาช่วยให้ลูกชายของเธอเป็นคนดีขึ้น เพราะก่อนหน้าที่บาจโจจะหันมาปฏิบัติธรรมนั้น เขาเป็นคนที่จะต้องคิดในรูปแบบที่ตัวเองวางกรอบ หรือกำหนดไว้แล้ว หรือไม่ก็ตัดสินสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยใช้ความคิดเห็นของตนเองเป็นหลัก และคิดว่าการกระทำเช่นนี้ของตนถูกต้องเสมอ แต่หลังการปฏิบัติธรรมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างมากมายในชีวิตจิตวิญญาณของเขา สิ่งที่สำคัญที่เห็นได้ชัดคือเขาได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเอง โดยใช้สติปัญญาในการตัดสินใจ

อดีตนักบอลทีมชาติอิตาลีจะนั่งสมาธิ 30 นาทีก่อนลงสนามแข่งทุกครั้ง เพื่อเป็นการผ่อนคลายและช่วยลดแรงกดดันในการแข่งขันทั้งจากโค้ชและแฟนบอล ในช่วงที่เขาสังกัดทีมยูเวนตุสนั้น บาจโจเกิดความศรัทธาในสมาคมโซคา งักไก มาก จึงให้กัปตันทีมสวมสายรัดแขนที่เป็นสีของสมาคม และเขียนข้อความว่า “เราชนะ เราต้องชนะ”

ปี 2002 เขาได้รับการแต่งตั้งจากองค์กร FAO ให้เป็นทูตสันถวไมตรี ซึ่งบางครั้งก็ต้องเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศต่างๆ และหลังจากกรำศึกลูกหนังมาหลายสิบปี อดีตดาวซัลโวจึงรีไทร์ตัวเองจากอาชีพค้าแข้งในปี 2004 และใช้ชีวิตอย่างสงบสุข กับ “แอนเดรียนา” ภรรยา พร้อมลูกๆ 3 คน ในชนบทของอาร์เจนตินา

นอกจากนี้ บาจโจยังได้แนะนำให้ “เซบาสเตียน เฟรย์” ผู้รักษาประตูชาวฝรั่งเศส แห่งทีมฟิออเรนตินา หันเข้าหาพุทธศาสนา ในช่วงที่เฟรย์มีปัญหาการเล่นฟุตบอลอาชีพในปี 2006 ซึ่งต่อมาเฟรย์ก็ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธเช่นกัน

กว่า 20 ปีในฐานะพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง บาจโจได้เขียนไว้ตอนหนึ่งในคำนำของหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองที่ชื่อว่า “Baggio il Fenomeno” หรือ “ปรากฏการณ์บาจโจ” ว่า

“สำหรับผู้ที่เชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิดใหม่นั้น ชีวิตก็คือวัฏจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด”


ขอบคุณเนื้อเรื่องจาก Phrathai.net (เมื่อสองนักเตะหันมาเป็นชาวพุทธ)

http://www.dhammawiki.com/index.php?title=List_of_Celebrity_Buddhists

http://www.hellomagazine.com/celebrities/200305283652/keanu/reeves/matrix/

ขณะนี้มีคนดังมากมายที่หันมานับถือพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะดาราฮอลลีวูด  ประธานาธิบดี นักวิชาการ หรือแม้แต่นักวิทยาศาสตร์จากตะวันตก เราในฐานะที่เป็นชาวพุทธโดยกำเนิด และเกิดในประเทศที่เป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาจึงควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม

ดัง #ตะวันธรรม ได้กล่าวไว้ว่า

"เพราะฉะนั้นพวกเราในฐานะชาวพุทธ

จะต้องหมั่นฝึกฝนอบรมตนเองให้ดี

โดยเฉพาะเรื่องสมาธิ ต้องฝึกปฏิบัติให้เต็มที่

เอาให้รู้แจ้งเห็นแจ้งด้วยตัวเองให้ได้

จะได้เป็นที่พึ่งให้กับตนเองผู้อื่นในอนาคต

ถ้าไม่รีบฝึกปฏิบัติ ระวังจะตามหลังฝรั่งผู้มาใหม่นะ

เพราะชาวตะวันตก เขามีนิสัย ทำอะไรทำจริงเป็นทุนเดิม

ถ้าพวกเขาได้มาฝึกปฏิบัติกันจริงๆ รับรองว่าผลการปฏิบัติธรรม

ต้องก้าวหน้าโดยเร็วอย่างแน่นอน"


ขอบคุณที่มา Mildfulnews

แชร์