ฤกษ์ดี คืออะไร ทำไม ? ต้องไปดูฤกษ์ ดูยาม
ฤกษ์ดี คืออะไร ทำไม ? ต้องไปดูฤกษ์ ดูยาม http://winne.ws/n6667
มวลมนุษย์เรานี้ จะคิดการทำสิ่งใดสักอย่าง ล้วนแต่ฝากความหวังไว้กับปัจจัยภายนอกเสียทั้งสิ้น ทั้งปวงเทพเจ้าและเหล่าเทวดา กระทั้งภูตผีเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย มนุษย์เราจึงเซ่นไหว้สิ่งเหล่านั้น เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ตน
หลายครั้งกิจการเกิดความล้มเหลว ก็เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ เพ่งไปยังเจ้าที่เจ้าทางและสรรพสิ่งที่มองไม่เห็น หรือจะเป็นเพราะเราไม่ดูฤกษ์ยามให้ดีเสียก่อน การที่ว่าจะดีเลยเสียศูนย์ และสูญสิ้นไปทุกสิ่ง เมื่อจะแก้ไขก็ไม่ได้คิดถึงเหตุผลตามที่ควรจะเป็น
กลับมุ่งไปที่การกราบไหว้บูชาและบวงสรวงต่อปวงเทพและเหล่าภูตผีไปสิ้น
ก่อนจะเข้าทำงานใหม่ ก็หาฤกษ์ หาตัวเลขดี มงคลดี ก่อนเปิดอาคารทำการใหม่ ก็ต้องอาศัยฤกษ์ดี ก่อนขึ้นบ้านใหม่ บวชนาค หรือแม้แต่จะคลอดลูกสักคน
ล้วนต้องพึ่งพาตัวเลขมงคลทั้งสิ้น
คล้ายกับว่า ทุกอย่างในวันนี้ ล้วนต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ที่เรากล่าวว่า เป็นความมงคลและเป็นฤกษ์ดีทั้งสิ้นเหมือนกับว่า ทุกอย่างของความสำเร็จ ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นทั้งสิ้น
บางครั้ง บางเดือน พวกเขาหาฤกษ์อันดีและเป็นมงคลไม่ได้เลยสักวัน ฉะนี้แล้ว เราจะดำเนินชีวิตไปได้อย่างไร
ถ้าหากไม่มีฤกษ์ดีในความหมายของผู้แสวงหาฤกษ์ทั้งหลาย กิจการทั้งหมดมิต้องหยุดชะงักไปหมดหรือ
แม้แต่ผู้บริหารบ้านเมือง ยังต้องดูฤกษ์เพื่อสร้างเสริมความมั่นใจแก่ตนเอง ก่อนเข้าไปประจำกระทรวงหรือบริหารบ้านเมือง บางคนก็เดินสายกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งทิศเหนือและใต้ กว่าจะครบองค์ประกอบของความมั่นใจ ก็หมดเวลาไปหลายวัน
จึงเห็นได้ว่า สังคมทุกวันนี้ เต็มไปด้วยคนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดที่พึ่งทางใจ ขวัญและกำลังใจทั้งหลายห้อยแขวนอยู่ด้วยสิ่งทั้งหลายทั้งปวง มิใช่ความมั่นใจของตนเองเลย
เรื่องของฤกษ์ดีนี้ พระพุทธเจ้าผู้เป็นบรมครูของพวกเรา ท่านทรงสอนไว้แต่ครั้งพุทธกาล ขอยกเพระพุทธดำรัสสั้น ๆ มาให้อ่านกัน
ตามที่ปรากฏใน “สุปุพพัณหสูตร”
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ ดังนี้
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดีของสัตว์เหล่านั้น
สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่านั้น...
สัตว์ทั้งหลายประพฤติชอบในเวลาใด เวลานั้นชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี สว่างดี รุ่งดี ขณะดี และบูชาดี...”
วันนี้ขอจบบทความด้วยคำอธิษฐานว่าขอให้วันทุกวันของท่านทั้งหลาย จงเป็นวันดี ฤกษ์ดี
ตามนัยแห่งคำสอนของพระพุทธองค์ เทอญ.
อ้างอิง : http://www.oknation.net/blog/rakmananya/2008/06/23/entry-1