ทำไม ต้องขี้อิจฉา ? แก้ได้อย่างไร ?

ทำไม ต้องขี้อิจฉา ? แก้ได้อย่างไร ? http://winne.ws/n7727

6.4 พัน ผู้เข้าชม
ทำไม ต้องขี้อิจฉา ?  แก้ได้อย่างไร ?ขอบคุณภาพจากwww.soccersuck.com

ทำไม ต้องขี้อิจฉา ?  แก้ได้อย่างไร ? 

ความอิจฉาริษยาคือศัตรูตัวร้าย มีลักษณะ ดังนี้

        1. ชอบน้อยเนื้อต่ำใจ

        2. รู้สึกว่าตนมีปมด้อย

        3. ชอบนินทาว่าร้ายผู้อื่น

        4. เป็นคนชอบเอาชนะ คนที่มีนิสัยขี้อิจฉาส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมที่ชอบเอาชนะและแพ้ไม่เป็น

        คนขี้อิจฉา มักจะไม่รู้ตัวว่าตนทำสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องบ้างหรือมักไม่ยอมรับในความผิดพลาดต่าง ๆ ของตนเอง ส่วนใหญ่จะคิดว่าถูกคนอื่นกระทำเสียมากกว่า เมื่อเป็นเช่นนี้จึงยากที่จะให้คนขี้อิจฉาแก้ไขนิสัยขี้อิจฉาด้วยตัวของเขาเอง

การเกิดนิสัยขี้อิจฉา

        พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ต้องเข้าไปช่วยแก้ไขนิสัยความขี้อิจฉาแทนจะได้ผลมากกว่า แต่บางคนก็เกิดจากปมในอดีตที่มาทำให้เกิดการ อิจฉาริษยา ในตอนเป็นเด็ก ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือตอนเป็นเด็กมีไม่เหมือนคนอื่นเช่น ถูกให้ความรัก น้อยกว่าพี่ชายพี่สาว ฤดูให้ความรักน้อยกว่าน้องชายน้องสาว เป็นต้นนิสัยพรุ่งนี้จะเกิดการสะสมมาจน มีอายุมาก ก็ติดโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองมีนิสัยอิจฉาริษยายิ่งดูหนังละครน้ำเน่ามากเท่าไร ก็ยิ่งซึมซับความอิจฉาริษยามากเท่านั้นความเกลียดชังความไม่อยากให้คนอื่นได้ดีจึงเกิดขึ้น

คนขี้อิจฉาอยู่ที่ไหน

         คนขี้อิจฉา มีอยู่มากมายมหาศาล ในสังคมอลเวงที่พวกเราอาศัยอยู่ที่สำคัญ การอิจฉาเป็นความรู้สึกที่พุ่งปี๊ดขึ้นมาเหนือจิตใจ ยากที่เหตุและผลในสมองของพวกเรา จะห้ามมันไว้ได้ทัน หลายครั้งที่ไดยินว่า ถ้ามนุษย์เราอิจฉากันธรรมดาคงไม่มีปัญหาอะไร แต่ อย่าเติมคำว่า “ริษยา” เพราะเลวร้ายกว่าอิจฉาเสียอีก

เมื่อใด รู้สึกว่า ฉันอิจฉาได้อิจฉาดี อิจฉาใครต่อใครได้ทั้งวัน…รู้ไหมว่า เริ่มเข้าข่ายต้องไปตรวจสุขภาพจิตกันแล้ว

        เป็นคนที่สร้างความทุกข์ให้กับตัวเอง คนเหล่านี้ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นบ่อย พอเอาไปเปรียบเทียบแล้วแทนจะสบายใจ เปล่าหรอก กลับรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในชะตา และวาสนาตัวเองมากขึ้น

ทำไม ต้องขี้อิจฉา ?  แก้ได้อย่างไร ?

น่าสงสารผู้ที่มีนิสัยขี้อิจฉาเพราะในใจมีแต่เรื่องเลวร้ายของผู้อื่น

         ช่างน่าสงสารพฤติกรรมที่แสดงออก ก็เลยเป็นไปในทิศทางลบและชิงชังผู้อื่น ชอบติฉินนินทา,ติเติยนคนอื่นซ้ำซาก,พูดถึงแต่คนอื่นในทางเลวร้าย ไม่มองความจริงของชีวิตว่า คนเรามีทั้งดีและเสีย มีทั้งนำเน่าและน้ำดี มีทั้งบุญและกรรมทำให้กลายเป็นคนไม่มีความสุขกับชีวิต 

ส่วน ถ้าเรา ได้ไปอยู่ใกล้ คนขี้อิจฉาขึ้นมาด้วยความจำยอม หรืออะไรก็แล้วแต่รู้ไหมว่า คุณสามารถช่วยคนเหล่านี้ได้ ด้วยการบอก ให้มองตังเองในแง่บวกมากขึ้น 

         ตำรับยาที่จะแก้โรคนี้ได้ ต้องใช้สูตรที่ชื่อว่า “ความเมตตา” คือ รู้จักรักตัวเองและผู้อื่นให้เป็นมีความปราถนาดีต่อตนเองและผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว ที่ทำงานหรือแม้แต่กับศัตรู

วิธีใช้ยาตำรับนี้ 

         เมื่อตื่นนอน ทุกเช้าให้ริน “ความเมตตา” ออกมาจากใจ สัก 2 ช้อนโต๊ะแล้วทานก่อนอาหารเช้า จะให้เรามองโลกด้วยความสดชื่น ไม่ไปคอยจับผิดผู้อื่นให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจต่อกัน ทำ อะไรกับใคร ก็จะทำด้วยความรัก เพราะความเมตตาจะเป็นเหมือนน้ำที่ช่วยดับธาตุไฟ อันร้อนรุ่มกลุ้มใจให้ลดน้อยและหากจะให้หายเร็วยิ่งขึ้น  

         อาจจะเพิ่มกลางวัน เย็น และก่อนนอน อีกครั้งละ 1 ช้อนชา พร้อมฝึกลมหายใจ ด้วยการหายใจเข้าก็ “เฮ้อเธอ” หายใจออกก็ “เฮ้อเธอ” คือให้เห็นแก่ตัวให้น้อยลง และเห็นแก่คนอื่นให้มากขึ้น ไม่นานโรคอิจฉาริษยาก็จะลดน้อยถอยลงไป หากทานเป็นประจำ สม่ำเสมอ ก็จะทำให้หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส มีเสน่ห์ให้คนอื่นรัก และยอมรับเรามากขึ้น

ทำให้เรารู้สึกมีค่า ไม่ด้อยไปกว่าใคร และนำมาซึ่งสิ่งที่เราปราถนาได้ในที่สุด

(หลวงตาโบ้สอนธรรมะ)

แชร์