จับ iPhone SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

จอเล็ก จอใหญ่โดน จับ ไอโฟน SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม? http://winne.ws/n904

1.0 พัน ผู้เข้าชม
จับ iPhone SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

จอเล็ก 4 นิ้ว ชอบไหม?

เช็กสเปกน้องใหม่ตระกูลไอโฟน อย่าง "iPhone SE" เมื่อเผยโฉมด้วยจอ 4 นิ้ว และราคาที่ถูกที่สุดของไอโฟน แต่สเปกอื่นๆ จะโดนใจแฟนแอปเปิลหรือไม่…

จากที่ "แอปเปิล" ประกาศเปิดตัวไอโฟนรุ่นล่าสุดในชื่อ "ไอโฟน เอสอี" (iPhone SE) ด้วยการพลิกโฉมกลับมาสู่...สมาร์ทโฟนจอ 4 นิ้วอีกครั้ง! โดยแม้จะปรับขนาดหน้าจอลง แต่งานนี้แอปเปิลจัดเต็มให้กับสเปกของไอโฟน เอสอี เพื่อเรียกคะแนนความสนใจจากคนไม่ปรารถนามือถือรุ่นท็อป หรือราคาระดับไฮเอนด์

อย่างที่บอกไปแล้ว...แอปเปิลได้ขยับขนาดหน้าจอไอโฟนเป็น 4.7 นิ้ว และ 5.5 นิ้ว ตั้งแต่ครั้งเปิดตัวไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัส เพื่อตอบสนองเทรนด์การใช้สมาร์ทโฟนที่ระบุว่าหน้าจอใหญ่กลายเป็นแนวโน้มขวัญใจมหาชน ถือว่าแอปเปิลเองก็พยายามจะพัฒนาเรื่องดังกล่าวอยู่เหมือนกัน และยิ่งชัดเจนเมื่อได้เปิดตัวไอโฟน เอสอี หน้าจอเล็กอีกครั้ง เรียกว่างานนี้แอปเปิลตั้งใจจะโกยตลาดสมาร์ทโฟนราคากลาง-สูง กลับมาจากคู่แข่งรายสำคัญที่มีหน้าจอทุกขนาดทั้งเล็ก กลาง และใหญ่เบิ้มนั่นเอง

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา "ไทยรัฐออนไลน์" จะพาคุณไปเช็กอย่างละเอียด ว่าหากเปิดตำรา กางสเปก เทียบกันรุ่นต่อรุ่นในซีรี่ย์ไอโฟน ไอโฟนน้องใหม่รุ่นนี้จะมีทีเด็ดสู้รุ่นพี่ที่เปิดตัวออกมาก่อนได้หรือไม่ อย่างไร…?

จับ iPhone SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

ดีไซน์มาตรฐานแบบแอปเปิล

1. หากไม่นับถอยหลังไปไกล ไอโฟน เอสอี ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 4 นิ้ว ก็ถือว่ายังไม่ทิ้งห่างไอโฟน 6 เอส ซึ่งมีหน้าจอ 4.7 นิ้ว มากนัก แต่หากเทียบกับไอโฟน 6 เอสพลัส ที่หน้าจอ 5.5 นิ้ว อาจจะทำให้เห็นความแตกต่างมากซักหน่อย

2. ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย เมื่อไอโฟน เอสอี มากับชิพแบบ A9 แบบ 64bit โปรเซสเซอร์ร่วม M9 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหวในตัว เรียกว่าเคาะมาเหมือนไอโฟน 6 เอส แบบเหมือนเปี๊ยบบบบบ

3. แต่ถ้าเทียบกันด้วยเรื่องความจุ รุ่นพี่อย่างไอโฟน 6 เอส มีความจุให้เลือก 3 ขนาด คือ 16GB, 64GB, 128GB แต่ไอโฟน เอสอี มีให้เลือกเพียง 2 ความจุ คือ 16GB และ 64GB เรียกว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่รุ่นใหม่นี้ถอยกลับไปคล้ายกับไอโฟน 6

จับ iPhone SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

ไอโฟน SE ที่หลายๆ คน กำลังสนใจ

4. สำหรับใครที่บ่นว่าไอโฟนรุ่นหลังๆ นั้นมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้ใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้แบบไม่มั่นใจนักในช่วงแรกๆ คงต้องบอกเลยว่าไอโฟน เอสอี อาจทำให้คุณชื่นชอบได้อีกครั้งด้วยน้ำหนัก 113 กรัม ขณะที่ไอโฟน 6 เอส มีน้ำหนัก 143 กรัม และไอโฟน 6 เอสพลัสนั้นหนักถึง 192 กรัม แต่ถ้าเทียบกันที่ความหนาของตัวเครื่อง คงต้องมอบตำแหน่งสาวอวบให้กับไอโฟน เอสอี แบบไม่ต้องลังเล กับความหนา 7.6 มม. ขณะที่ไอโฟน 6 เอส หนา 7.1 มม. และไอโฟน 6 เอสพลัส ก็ยังหนาแค่ 7.3 มม.

5. หลายคนอาจคิดว่ารุ่นเล็กอย่างไอโฟน เอสอี จะต้องมาพร้อมกล้องที่ถูกลดประสิทธิภาพ รวมถึงลูกเล่น Live Photo ก็คงไม่มี แต่บอกเลยว่าผิดคาด! เพราะกล้องถ่ายภาพยังเป็นแบบ iSight ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดสูงสุดที่แอปเปิลใส่ไว้ให้กับไอโฟน รวมถึงความละเอียดโหมดพาโนรามาสูงสุดที่ 63 ล้านพิกเซล และลูกเล่นอื่นๆ ก็ยกมาใส่ไว้แบบจัดเต็ม แต่กล้องของไอโฟน เอสอี กลับขาดคุณสมบัติป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล แตกต่างจากไอโฟน 6 เอสพลัส และ 6 พลัส แต่ยังคงรักษาจุดเด่นในการบันทึกวิดีโอระดับ 4K เอาไว้

6. ใครชอบกล้องหน้าแบบละเอียดๆ ไว้เซลฟี่...อาจต้องผิดหวังนิดหน่อย เพราะไอโฟน เอสอี มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล เรียกว่าลดความละเอียดลงไปเท่ากับไอโฟน 6 แตกต่างจากไอโฟน 6 เอส ที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

จับ iPhone SE เทียบสเปกรุ่นพี่ ไซส์นี้ผ่านไหม?

เทียบขนาดกันให้เห็นจะจะ กับอีก 4 รุ่นพี่ตระกูลไอโฟน

7. แบตเตอรี่ของไอโฟน เอสอี สามารถรองรับระยะสนทนาได้เทียบเท่าไอโฟน 6 และไอโฟน 6 เอส คือ 14 ชั่วโมงเมื่อมีการเชื่อมต่อ 3จี และระยะเวลาสแตนด์บายอยู่ที่ 10 วัน ขณะที่ระยะเวลาสูงสุดในปัจจุบันของไอโฟนนั้นอยู่ที่ 24 ชั่วโมง และ 16 วัน ในรุ่นไอโฟน 6 พลัส และไอโฟน 6 เอสพลัส

8. แต่ก็ยังเอาใจคนติดเน็ต ติดแชตเช่นเคย! เพราะไอโฟน เอสอี สามารถใช้งานได้สูงสุด 12 ชั่วโมงกับการเชื่อมต่อ 3จี และนาน 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบ 4จี หรือ 13 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อแบบไว-ไฟ เรียกว่าสามารถยืดเวลาการใช้งานได้นานกว่าที่มีในไอโฟนรุ่นอื่นๆ สำหรับการเชื่อมต่อผ่าน 4จี และไว-ไฟ

9. และสำหรับคนที่ชื่นชอบความบันเทิง ไอโฟน เอสอี คงไม่ทำให้คุณผิดหวัง กับระยะเวลาเล่นวิดีโอได้สูงสุด 13 ชั่วโมง และเล่นเพลงสูงสุด 50 ชั่วโมง ใกล้เคียงกับไอโฟนรุ่นอื่นทีเดียว

10. ไอโฟน เอสอี ยังคงยึดสีเอาไว้ที่ 4 สีด้วยกัน คือ เงิน, ทอง, โรสโกลด์, เทา สเปซเกรย์ เช่นเดียวกับไอโฟน 6 เอส ส่วนเรื่องราคานั้น...ไอโฟน 6 เอส เริ่มต้นที่ 26,500 บาท ไอโฟน 6เอสพลัส เริ่มต้นที่ 30,500 บาท แต่ไอโฟน เอสอี มีรายละเอียดว่าจะเปิดจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 13,900 บาท

จอเล็ก หรือจอใหญ่ คุณว่าแบบไหนถูกใจกว่ากัน...?

แชร์