เมื่อกษัตริย์โบดวง ทรงสนทนากับ ‘พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ’ ท่านตรัสอะไร ?

รื่องมีอยู่ว่ากษัตริย์โบดวงได้เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยเป็นทางการ พร้อมด้วยพระบรมราชินี ระหว่าง ที่ประทับอยู่ในพระนครในฐานะเป็นราชอาคันตุกะนั้น ได้ทรงสนทนากับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีความเชื่ออย่างพระองค์ http://winne.ws/n9064

2.0 พัน ผู้เข้าชม

 กษัตริย์โบดวง (H.M. King Baudouin) แห่งประเทศเบลเยี่ยม ได้ทรงเล่าถึงกษัตริย์ต่างแดนพระองค์นี้ให้ พ.อ.ปิ่น มุทุกันต์ ฟัง 

เรื่องมีอยู่ว่ากษัตริย์โบดวงได้เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยเป็นทางการ พร้อมด้วยพระบรมราชินี 

เมื่อกษัตริย์โบดวง ทรงสนทนากับ ‘พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ’ ท่านตรัสอะไร ?

ระหว่าง ที่ประทับอยู่ในพระนครในฐานะเป็นราชอาคันตุกะนั้น ได้ทรงชักนำพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหลายครั้งให้เปลี่ยนศาสนาไปนับถือศาสนาคริสต์อย่างพระองค์

 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรัสถามถึงเหตุผลที่ทรงชักชวน กษัตริย์พระองค์นั้นกราบทูลว่า

พระองค์ทรงมีความรักใคร่ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรามาก ไม่อยากจะพลัดพรากเหินห่างจากกันเลย 

แต่จะเป็นเช่นนั้นได้ก็ต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงนับถือ ศาสนาคริสต์ด้วยกันเท่านั้น เพราะศาสนาคริสต์สอนว่าคริสต์ศาสนิกชนเมื่อสิ้นชีพแล้วจะได้ไปอยู่ใกล้ชิด กับพระผู้เป็นเจ้าชั่วนิรันดร 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้ปฏิเสธคำทูลโดยตรง แต่ทรงมีพระราชดำรัสตอบว่า 

เมื่อกษัตริย์โบดวง ทรงสนทนากับ ‘พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ’ ท่านตรัสอะไร ?

พระพุทธศาสนาก็เชิดชูสัจจะ คือ ความจริง สอนให้ผู้นับถือเข้าถึงความจริงและสัจจะคือความจริงนั้นย่อมมีสภาพเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้ปฎิบัติถูกทางแล้วย่อมจะเข้าถึงได้ดังนั้น ถ้าคำสอนแห่งศาสนาคริสต์เป็นสัจธรรม และพระผู้เป็นเจ้ามีจริง แม้พระองค์นับถือพระพุทธศาสนาก็คงจะเข้าถึงเป็นแน่ 

แม้ว่าจะมีผู้อื่นคั่นอยู่ระหว่างพระองค์กับพระผู้เป็นเจ้าก็คงจะมีคนเดียว คือองค์กษัตริย์ ผู้ทรงชักชวนพระองค์เท่านั้น 

พระราชดำรัสนี้เป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระราชอาคันตุกะมาก จนถึงสนพระราชหฤทัยที่จะทรงศึกษาคำสอนแห่งพระพุทธศาสนา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

ให้จัดหนังสือพระพุทธศาสนาภาษาอังกฤษ ส่งไปถวายในโอกาสต่อมา 


ขอบคุณภาพและข้อมูลจากhttp://specialcasestudy.blogspot.com/2016/10/blog-post_18.html

แชร์