ยุคโลกไร้พรมแดน ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เหมือนคนไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดภาษาเดียวกัน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เหมือนคนไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดภาษาเดียวกัน ไม่มีใครฟังใคร เป็นเรื่องจริง เครื่องมือในการสร้างความน่าเชื่อถือขอบจนท.รัฐ คือ กฎหมาย ส่วนทางพุทธศาสนา เครื่องมือที่ใช้สร้างความน่าเชื่อถือ ก็คือ การสร้างความศรัทธา http://winne.ws/n10913

1.6 พัน ผู้เข้าชม
ยุคโลกไร้พรมแดน ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เหมือนคนไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดภาษาเดียวกันแหล่งภาพจาก Manager Online

อิทธิพลสื่อ!! ยุคโลกไร้พรมแดน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เหมือนคนไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดภาษาเดียวกัน

เป็นเรื่องจริง ที่ทางภาครัฐก็จะมี เครื่องมือในการสร้างความน่าเชื่อถือ คือ กฎหมาย

ส่วนทางพุทธศาสนา เครื่องมือที่ใช้สร้างความน่าเชื่อถือ ก็คือ การสร้างความศรัทธา

แต่ความศรัทธานั้น สร้างยาก กว่ากฎหมายเสียอีก

ส่วนประชาชน ที่ไม่รู้เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปอะไร ได้ยินเพียงข่าว  ที่ลงกันมาต่อเนื่อง ไม่นานนัก ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย และไม่อยากสนใจติดตาม รวมทั้งการที่ต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอดในสังคมยุคปัจจุบัน

แต่ก็ยังมีประชาชนอีกบางส่วนที่ตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ จากกระแสสื่อที่ได้บริโภคทุก ๆ วัน และไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่า หลงเชื่อตามไปกระแสนั้นจริง ๆ อย่างฝังใจเลยทีเดียว

แม้กระทั่งครอบครัวเดียวกัน ก็ยังทะเลาะกันเพราะกระแสสื่อที่นำเสนอให้ข้อมูลเชิงลบ ดังตัวอย่างมากมายหลายประเทศ สุดท้ายลงเอยด้วยการทำสงครามกลางเมือง หรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันในที่สุด

ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสงสารคือ กลุ่มเยาวชน ที่ได้เห็นตัวอย่างที่ผู้ใหญ่ได้กระทำกัน ในโซเชียลต่าง ๆ ที่ต่างป้อนคำหยาบคาย คำอาฆาต เคียดแค้นชิงชังกัน แล้วเขาก็เลยหันกลับไปมีโลกส่วนตัวของตัวเองดีกว่า สุดท้ายเมื่อเติมโตขึ้น เขาก็เป็นพลเมืองที่มีแต่นิสัยที่เชื่อข้อมูลเชิงลบในโลกโซเชียล และขาดความห่วงใยกัน เพราะตัวใครตัวมัน ผลเสียอย่างยิ่งต่อประเทศชาติคือ การมีประชาชนที่ไม่รักกัน มีแต่ความหวาดระแวงกัน จึงพัฒนาประเทศไปได้ยากอย่างยิ่ง

สงครามไม่ใช่เรื่องดี มีแต่เสีย เพราะนอกจากจะทำร้ายกันเองจนข้างใดข้างหนึ่งต้องพ่ายแพ้กันไป หรือสูญพันธุ์กันไปเลย เพราะไม่เหลือแม้กระทั่งผู้บริสุทธิ์ ที่เป็นเด็ก พระภิกษุ สามเณร คนชรา

หรือคุณอยากให้เป็นเช่นนั้น ? 

ยุคโลกไร้พรมแดน ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในขณะนี้ เหมือนคนไทย คุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งที่พูดภาษาเดียวกันแหล่งภาพจาก แสดงผลแบบมือถือ - SiamOK.com

สังคมไทยในอดีต เรามีความเชื่อเรื่องประวัติเกียรติคุณความดีงามของครอบครัว วงศ์ตระกูลเช่นเดียวกับเรื่องราวในสมัยพุทธกาล 

คนในสมัยนั้น เขาจะเชื่อถือด้วยความดีของบรรพบุรุษ ที่สร้างสืบต่อ ๆ กันมา ทำให้คนในครอบครัวนั้นแม้จะถูกใส่ร้ายป้ายสีอย่างไร เขาก็ไม่มีวันเชื่อว่าเป็นจริงได้ 

แต่ในยุคปัจจุบัน เชื่อสื่อในโลกโซเชียลมากกว่าเชื่อพี่น้องคนไทยด้วยกัน ที่มีสายเลือดเดียวกัน โดยเฉพาะพระที่มีศีลถึง 227 ข้อ เขาก็ไม่เชื่อถือ

การที่คนไม่ผิด แล้วโดนใส่ร้าย แน่นอน เขาย่อมไม่ต้องการไปเสียเวลากับเรื่องราวเหล่านั้น เพราะชีวิตต้องทำงานสร้างบารมีตลอดเวลา ทุก ๆ วัน ก็ไม่ผิด จะให้ผิดได้อย่างไร ? ตายเสียดีกว่า ที่จะยอม 

ถ้าไม่ออกไปพบเจ้าหน้าที่ก็ถูกมองว่า ไม่ให้ความร่วมมือ

แต่ออกไปพบ ก็จะถูกมองว่า จะกลายเป็นต้นแบบ ที่ทำให้คนอื่นต้องลำบาก ถูกกลั่นแกล้งถูกกระทำ เช่นกัน ต่อไปคนดี ๆ ที่ตั้งใจทำงาน โดนใส่ร้ายกลั่นแกล้ง พอมีคนไม่พอใจ ก็คงต้องโดนแบบนี้เช่นกัน ? 

มีข้อเสียมากมาย ในกรณีที่คนนั้นไม่ผิด เช่นกลายเป็นต้นแบบของการที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติแบบนี้ ซึ่งทำมาแล้วหลายคนแล้ว ทำให้คนที่ตามมาภายหลัง ก็ต้องถูกกระทำแบบนั้น เมื่อถูกใส่ร้าย กลายเป็นว่า ใครไม่ชอบใครก็ใส่ร้าย หาหลักฐานข้อมูลเท็จ แจ้งความ ร้องทุกข์ เพื่อกลั่นแกล้งคนดี แล้วก็ต้องออกไปแบบนั้นหรือ ?  ยกตัวอย่างกรณี การรับประเคนปัจจัยของพระภิกษุ แล้วกลายเป็นรับของโจร เป็นต้น

คนสมัยก่อน นักเลงตัวจริง ๆ นั้น เขาจะมุ่งมั่นทำดี พูดคำไหนเป็นคำนั้น ถ้าใครมาใส่ร้ายหรือกุข่าวไม่ดี เขาก็ใช้ลูกปืนพูดแทน แต่ปัจจุบันคงไม่ใช่ 

ทุกวันนี้ โลกกำลังจะลุกเป็นไฟ หลายประเทศทั่วโลก รบกัน ฆ่ากัน ทำร้ายทำลายกันเป็นจำนวนมาก แล้วคนสมัยนี้ ยังบอกได้อีกว่า "ยุคนี้เจริญกว่ายุคไดโนเสาร์ เต่าพันปี" ใช่เจริญแค่เทคโนโลยี แต่จิตใจนั้นกลับแย่ลงอย่างมากมาย ใช่หรือไม่?

ศักดิ์ศรีความเป็นคน ต้องมีประจำใจ อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์ด้วยการกลั่นแกล้ง บาปจะได้ไม่เกิดกับคุณและครอบครัวตลอดไป

ต้นไม้ใกล้ฝั่ง

แชร์