แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำเล่าคนตายใหม่ ๆ ช่วง 7 วัน ผีต่าง ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง??

จงอย่าทำตนเป็นตาบอดคลำช้าง ต้องรู้เห็นให้ชัดเจน ขนาดไหนล่ะ ? เราหัดพูดกับพระพุทธเจ้าทีแรกเหมือนยังกับเด็ก รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง เราเดิน ฌาณสมาบัติ นิโรธ เราหัดพูดกับพระพุทธเจ้าทุกวัน จนกว่าเราจะรู้เรื่อง แล้วก็มาหัดพูดกับ ผี กับเปรต กับมด http://winne.ws/n12930

5.5 พัน ผู้เข้าชม
แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำเล่าคนตายใหม่ ๆ ช่วง 7 วัน ผีต่าง ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง??แหล่งภาพจาก YouTube

    ตาบอดคลำช้าง คำสอนของคุณยายทองสุก สำแดงปั้น เรื่อง  “ ตาบอดคลำช้าง ”  เพื่อเอาไปพิจารณา มหาพิจารณา  จงอย่าทำตนเป็นตาบอดคลำช้าง 

         “ …. นานน่ะ กว่าเราจะมองดู กามภพ รูปภพ ให้ชัดเจน นี้เรามองดูให้ชัดเจนดีแล้ว เราหัดพูดกับพระพุทธเจ้าให้คล่องแคล่วเชียว เราหัดพูดกับพระพุทธเจ้าทีแรกเหมือนยังกับเด็กยังงั้น แหล่ะ รู้เรื่องมั่ง ไม่รู้เรื่องมั่ง หัดอยู่อย่างนั้นทุกวัน เราเดิน ฌาณสมาบัติ นิโรธ แล้ว เราก็หัดพูดกับพระพุทธเจ้าทุกวัน จนกว่าเราจะรู้เรื่อง หูทิพย์ เราก็ได้ยินถนัดชัดเจน เราได้ยินถนัดชัดเจนก็เพราะว่า เราต้องใช้ความหยุดตรึก นิโรธ ..หยุดตรึกนิ่งให้หนักขึ้น บนพระนิพพาน นั่น เราหัดไปทำวิชชาบนพระนิพพาน

            น่ะ มันจะถนัดท่าไหนล่ะ เราก็ดูขยับเอาในตัวของเราเอง ให้รู้ว่า อย่างไหนถนัดมาก อย่างไหนถนัดน้อย เราต้องหัดให้ชัดเจน  พอเราหัดพูดกับพระพุทธเจ้าได้ชัดเจนดีแล้ว เราก็มาหัดพูดกับ ผี กับเปรต เราต้องหัดพูดให้รู้เรื่องรู้ภาษาของเค้าให้หมด เรา ต้องหัดพูดทั้งนั้นนะ กับมด กับสัตว์ กับนกวิหคบินบนอากาศ เราก็ต้องหัดให้รู้จักภาษาสัตว์  ...

             สมมติว่าเราไปเจอสัตว์สักฝูงหนึ่ง สัตว์ตัวนั้นมีบารมีเท่านั้นมาเกิดใช้ชาติเป็นอย่างนั้น เป็นโพธิสัตว์ หรือไม่ใช่ โพธิสัตว์ หรือจะเป็นเทพบุตร หรือจะเป็นเทวดาอยู่ชั้นไหน ลงมาใช้ชาติ ให้เรารู้ ตรัสรู้ ผุดในรู้ บอกให้เรารู้เรื่องหมด หรือ เราจะเจอะคนสัก 100 คน เดินมา หรือ 10 คน เดินมา คนนั้นจะต้องตายไปตกนรกอยู่ชั้นนั้น คนนั้นจะต้องตายไปอยู่สวรรค์ ชั้นนั้น ให้รู้หมดเชียว เพื่อเราจะดูได้ง่าย เราจะดูด้วยญาณ ด้วย ตาเนื้อ นั่ง นอน ยืน เดิน ตรึกไว้ด้วย ทุกอิริยาบถ 

             คนบาปน่ะ ไอ้ห่วงคอมันติดอยู่ที่กายเนื้อ คนไหนบาปมาก  ทำความชั่วมาก ห่วงมันก็ติด แต่ตาเนื้อไม่เห็น ตาเนื้อมันเรียก ว่า ตาบอดคลำช้าง มันไม่เห็นน่ะ แต่เราอยู่ในโลกมันโตเต็ม เมือง มันมาเกิดในโลกมันโตเต็มเมือง มันทำความชั่วครั้งหนึ่ง  มันก็เอา มันลงโทษตัวมันเอง ทุกค เหมือนกันหมด ไม่ว่าใคร ทั้งหมด 

           เราไม่รู้หรอกว่าความชั่วของเรามีมากน้อยเท่าใด แต่ ว่าไอ้ห่วงคอมีอยู่ ติดอยู่ในตัวเรา เราเห็นมันลู่ๆ เราก็รู้แล้วว่า อ้ายคนนั้นทำความชั่วมาก ห่วงคอมันใหญ่นัก มันเป็นเหล็ก เครื่องหมายมันมีอยู่อย่างนี้แหล่ะ แล้วเวลาตายนั่น แหล่ะ ไอ้ จำพวกนั้น เวลาเวทนามันเกิด มันจะตายงี้ เวลาเค้ามาเก็บ เค้ากระชากลากเอาไม่ปราศรัย ที่เค้าจะมาเด็ดเอาวิญญาณนั้นน่ะ เค้าตีไปตลอดทาง เรื่องนี้เราก็ต้องดูต้องให้เห็นชัดเจนเลย      

แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำเล่าคนตายใหม่ ๆ ช่วง 7 วัน ผีต่าง ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง??แหล่งภาพจาก มูลนิธิธรรมกาย

    พวกบุญล่ะ! พวกบุญเค้าก็จะมีราชรถมารับ …ราชรถมารับ เวลาจะตายเค้าก็มาลอยอยู่คอยรับ ก็ราชรถนั่นก็มาจากวิมาน ของเค้านั่นแหล่ะ เวลานายเค้าจะกลับบริวารเค้าให้ราชรถมา รับ คนพูดนี่ได้ตรวจเสร็จ ได้สอบเสร็จจึงจะกล้ามาพูด ได้สอบเสร็จ ได้ดูเสร็จ เวลาเจ้าของเค้าจะกลับจะละจากโลกมนุษย์ ราชรถนั่นก็มาคอยรับ เวลาจะไปผ้าหลุดผ้าลุ่ยมันก็ผ้าหลุดผ้าลุ่ยไปยังงั้นแหล่ะ 

            มันเหมือนยังกับไอ้ลิงจ๋อบนราชรถ ราชรถเค้าสวยงาม…. นั่งราชรถไป เหมือนยังกับไอ้ลิงจ๋อ…..นั่งไป เหมือนไอ้ลิงจ๋อนั่นแหล่ะ พอราชรถเค้าไปเทียบวิมานนั่นแหล่ะ ตัวก็ก้าวออกไป… ก้าวลงไปจากรถ ก้าวขึ้นไปเหยียบที่วิมาน… ตัวก็กะเล่อกะล่าเหมือนไอ้คนบ้าลำพองนั่นน่ะ มันก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เพราะจิตของมันยังไม่ขาดจากโลก จิตมันยังเกาะอยู่ในโลก จิตมันยังเกาะผัว เกาะเมีย เกาะพ่อ เกาะแม่ เกาะสมบัติ เกาะลูก เกาะหลาน ไปยังงั้นแหล่ะ ทุกคนเหมือนกันหมด จิตมันเกาะ มันนึกถึงบุญบ้าง บาปบ้าง เวลาไปนั่นมันก็จิตเกาะสมบัติ เกาะลูก เกาะสามี ภรรยา ไปตามหน้าที่ของมัน ก็ยังไม่รู้ชัดว่า จะเป็นบ้านของใครแน่ มันเป็นวิมานสวยนัก มีหน้ามุข 4 ทิศ เหมือนกันหมดในโลกบนชาวสวรรค์ มันก็กว้างพออยู่ 

           ถ้าบุญมากเค้าก็มีบริวารแห่ห้อมล้อมเค้า…ห้อมล้อมเค้า มีเครื่องดนตรี จับ ดีด สีซอบนสวรรค์ที่วิมานของเค้า ถ้าใครมั่งมีก็มีสมบัติมาก มีบริวารมาก มีเครื่องประดับประดาวิมานสวยงาม อันประณีต ถ้าเราจะดูที่มนุษย์น่ะ เหมือนยังกับขอทาน ยังงั้นแหล่ะ ชาวสวรรค์เค้าสวยงาม แต่จิตมันก็ยังไม่ขาดจากโลกเพราะว่า มันไปใหม่ 

          ทีนี้เจ้าตายไปใหม่ ละจากโลกมนุษย์นี้ไปใหม่ ๆ ยมบาลน่ะ เค้าก็เป็นเจ้าหน้าที่ เค้าเอาบัญชีเล็ก ๆ มาจดมาถามตัวของตัวน่ะอยู่ในมนุษย์โลกทำความชั่วไว้เท่าไร ความดีไว้เท่าไร ทำ
    ไว้มากน้อยเท่าไหร่ เค้ามาสอบสวนมาจดเอาไป แล้วเค้าจด เรียบร้อยเค้าก็กลับไป ตัวก็เสวยบุญอยู่บนวิมานนั่นน่ะ ในฝ่ายทางความดี ที่อยู่ในมนุษย์โลก เราประพฤติดี ทำดี ประพฤติถูก 
    ทำถูก คิดถูก เห็นถูก รู้ถูก จึงได้ไปเสวยสุขสมบัติอยู่บนสวรรค์ โน่น 

          ทีนี้บุญน่ะที่ตัวได้ทำของตัวไว้ ได้บวช บวชหลานได้ทำบุญ ไว้ ไอ้เครื่องที่บวชไว้นั่นแหล่ะ เครื่องอัฐฐะ หรืออะไรทุกชนิด จะทอดกฐิน ผ้าป่านั่นแหล่ะ ไอ้ของหยาบนี่แหล่ะ ถ้าทำ ประณีต มันก็ขึ้นไปประณีตอยู่บนโน้น ถ้าทำไม่ประณีต มันก็ไม่ ประณีตอยู่บนโน้น สวย มันก็ไปสวยอยู่บนโน้น จะทำบุญให้ ทานอะไร ชามปากแตกปากวิ่นอะไร มันก็ไปวิ่นอยู่บนโน้น ถ้าสวย มันก็ไปสวยอยู่บนโน้น       

แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำเล่าคนตายใหม่ ๆ ช่วง 7 วัน ผีต่าง ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง??แหล่งภาพจาก กัลยาณมิตร

            ทีนี้ทางฝ่ายลูกหลานทางนี้เค้าก็ทำบุญไปให้ เค้าทำบุญไปให้ทางโน้นเค้าก็รับรู้ ลูกหลานคนนั้น คนนี้ ได้ทำบุญอุทิศมาให้กับผู้ตาย อย่างนี้ อย่างนั้น ได้รับตาม หน้าที่ของตัว ที่ไปอยู่สวรรค์น่ะ ได้รับส่วนบุญเร็วที่สุด ไวที่สุด ทีนี้ลูกหลานเค้าก็จะให้ศีลนี่สิ นิมนต์พระมาจะให้ศีล ก็ไปเคาะโลง กุก ๆ กุก ๆ กุก ๆ ไปเคาะโลงจะเรียกให้พ่อแม่ของตนก็ตาม ให้มารับศีล ข้างบนนั้นเค้าก็ได้ยินทีเดียว ว่าลูกหลานร้องเรียกมารับศีล เค้าก็ลงมาทีเดียว บางทีเค้าก็เอาบริวารเค้าลงมาด้วย เอาลงมานั่งอยู่ที่หน้าศพนั่นแหล่ะ หน้าไอ้สังขารไอ้กาย เน่านี่แน่ะ เอาบริวารมานั่งอยู่หน้าโลงนี่แน่ะ รับศีลกับพระ 

           พระเค้าจะสวด คนตายนี้มารับศีล เพราะว่าไปสุข ถึงได้ลง มาได้อย่างนั้น มารับศีล ไอ้ลูกหลานมันก็ไม่รู้  ไอ้ตาบอดคลำช้าง มันก็ไม่เห็น บริวารเค้ามาด้วยก็ดี หรือไม่มาก็ดี นั่งจ้ำไปนั่น
    แหล่ะ ไอ้ลูกหลานน่ะ เดินหลีกกันหลีกกันมาก็เตะเค้า เค้าก็หลบเรา ตนตายน่ะ บางทีนั่งจ้ำไปบนหัวเค้าน่ะนะ เพราะว่ามันไม่เห็น ไอ้ตาเนื้อน่ะมันตาบอด มันมองไม่เห็น เค้ามารับศีลแล้วเค้าก็กลับ เค้าไม่อยู่นานหรอก เค้ากลับไป เค้าก็ไปตรวจวิมานเค้า ยังใหม่อยู่นี่ ตรวจตรงนั้นสวย ตรงนี้ดี ตรงนั้นไม่ดี เหมือนกันแหล่ะ เหมือนยังกับมนษย์เรานี่ สร้างบ้านใหม่ ๆ มันก็เห่อไป
    พักนึง ชาวสวรรค์ก็เช่นเดียวกัน เห่อเหมือนกันแหล่ะ ใหม่ ๆ ๆ น่ะ 

           พอครบกำหนดมันเลย 7 วันแล้ว มันก็ลืม มันไปยินดี อยู่ ทางโน้นแล้ว มันไปติดอยู่ทางโน้นแล้ว มันลืมโลก มันขาดจากโลก จิตมันขาดจากโลก ถ้าลูกหลานนึกถึงเค้า ก็ทำบุญอุทิศให้
    กับเค้าเค้าก็นึกได้ว่าอ้อลูกหลานเค้าเรียก ทำบุญส่งมาให้ เค้าก็ ให้ศีลให้พร …ให้ศีลให้พรกับลูกหลานเค้า 
     
             ฝ่ายปีศาจ เปรตในโลกนี้ล่ะ! ในมนุษย์ขั้นหยาบนี้ล่ะ พอ ใครเค้าทำบุญกันที่ไหน ไอ้พวกเปรต พวกผีปีศาจน่ะ มันชวน กันอย่างเราอย่างนี้ล่ะ ไปโว้ย ๆ พวกเราไปโว้ย เค้าทำบุญ จะ ได้ไปรับส่วนกุศลเค้าบ้าง มันก็เดินบ่นกันมา ไอ้บ้างกูก็หิวมาก ไอ้บ้างกูก็หิวน้อย ไอ้บ้างข้าก็ไม่ค่อยหิว ทีนี้ไอ้ลูกหลานหรือพี่น้องวงศ์ตระกูลของตน ทำบุญ ใส่บาตร อยู่ที่วัดนั่นน่ะ มันก็มาชะเง้อคอยมอง ไอ้พวกผี พวกเปรต พวกปีศาจเหล่านั้น มันมา ชะเง้อคอยมองว่า เค้าจะกรวดน้ำให้เราบ้างมั้ย มันคอยมองอยู่ อย่างนั้นนะ พอเค้ากรวดน้ำให้มัน มันก็ดีไจ ข้าได้กินอิ่ม ลูกหลานข้าอุทิศให้ มันก็ดีใจทีเดียว มันก็ให้ศีลให้พรไป ให้ศีลให้ พรกับลูกหลาน ให้ความเจริญกับลูกหลาน         

แม่ชีทองสุข สำแดงปั้น ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำเล่าคนตายใหม่ ๆ ช่วง 7 วัน ผีต่าง ๆ เขาทำอะไรกันบ้าง??แหล่งภาพจาก Topicstock - Pantip

    ถ้าเผื่อว่าเค้าไม่ได้กรวดน้ำให้ล่ะ มันก็บ่นทีเดียว เค้าไม่กรวดน้ำ ไม่อุทิศให้กับเรา หรอกโว้ย เค้าไปนั่งคุยกันซะแล้ว หรือเค้าไปซะแล้ว เค้าไม่ทำกัน เค้าไม่กรวดน้ำมาให้กับคนตายที่มาคอยชะเง้อส่วนกุศล หรือ คอยชะเง้อกินอาหารของเค้า ก็บ่นพึมพำไป พึมพำไป ก็ด่ากันแช่งลูกหลานว่ามันใจดำ ที่ไม่ได้มาทำบุญให้กับปู่ย่าตายาย และพี่น้องของตน ไอ้ผีที่ตายล่ะ มันก็แช่ง..ใจมันดำ มันไม่นึกถึงอะไรต่ออะไร หิวโหยเดินกลับไปเชียวไอ้พวกนั้นน่ะ มันบ่น 

           ถ้าเหมือนยังกับพระสวดมนต์หรือเค้ามีงานที่วัดล่ะ ต้อง สอบให้หมดถ้าไม่สอบแล้วเราไม่รู้ความเป็นไปของพวกปีศาจ พวกเปรตเหล่านี้น่ะมันจะอดอยากซักแค่ไหน เราต้องสอบสวน
    ให้แน่นอนลงไป ตานี้เวลาเค้าทำบุญกันหรือเค้าสวดมนต์หรือ เค้ามีงานในวัด เจ้าพวกผีพวกเปรตนั่นมันก็มากันล่ะ มันมา ชะเง้อรอบศาลาเชียว แล้วมันก็ขึ้นไปดูกันบ้าง ถ้าคนเราไม่แล
    เห็นมันนี่ เดินไปเหยียบเอาตีนเอามือมันเข้า บางคนมันดุมันก็ เอาเราเหมือนกันนั่นน่ะ ไอ้พวกผีนี่มันเจ็บมันก็เอาเหมือนกัน เพราะไอ้ตาบอดคลำช้างมันไม่แลเห็น 

            พอพระท่านสวดมนต์เสร็จมันรับอนุโมทนาพร้อมกันเชียว พอพระวางตาลปัตร มันก็ไปเหมือนกัน มันไปดูละคร ละเมงกัน เหมือนกัน ถ้าเค้ามีงานกันละก็ นี่ผู้พูดได้สอบได้ดูมันมาเหมือนกัน พอพระคว้าตาลปัตรจะสวดมนต์ มันก็ชวนกันอีกแล้ว มัน บอกว่า มาเถอะ พระจะสวดมนต์อีกแล้ว เราจะได้มารับส่วน กุศลกัน มันก็มาออกันอยู่อีก  แล้วพวกเปรตพวกปีศาจในพื้น
    มนุษย์ แล้วไอ้พวกเปรตมันก็อดอยากเหลือเกินเหมือนกัน หมาเน่าตายลอยน้ำหรืออะไรตายที่ไหน มันก็ลากเอามากิน มันยังเคยเรียกผู้พูดนี่น่ะนะ มันบอกว่าให้ไปกินหมาเน่ากับมัน เสลดน้ำลาย ขี้หมู ขี้หมาไอ้เจ้าพวกเปรตที่พื้นมนุษย์นี่เก็บกิน มัน ลามกนัก ดูแล้วก็น่าทุเรศ!!! 

            เราต้องพิจารณาดูสัตว์จำพวกนี้ เราต้องดูมันต้องสังเกต ต้องพินิจ พิเคราะห์ เพราะงั้นให้นั่ง 
    นอน ยืน เดิน ให้คอยตรึก ………"

    จากคุณ : สมถะ   - [ 12 มิ.ย. 49 11:47:01 ]

    หมายเหตุ บทความนี้ลงวินนิวส์ เพื่อน้อมบูชาธรรมคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุก สำแดงปั้น เนื่องในวาระวันครบรอบวันละสังขาร 3 กุมภาพันธ์ 2560

    อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2006/06/Y4449070/Y4449070.html

แชร์