วันที่ 18 เม.ย. หลังจากได้หยุดยาวพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วที่เราพบการก่อตัวของพายุไซโคลนในอ่าวเบงกอล มีทิศทางเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งส่งผลกระทบให้ประเทศไทยฝั่งตะวันตกมีอากาศแปรปรวนในช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา 

หลังจากเมื่อวานนี้ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งที่รัฐยะไข่ ล่าสุดนี้พายุลูกนี้ได้สลายตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ภาพรวมบริเวณประเทศไทยก็จะมีฝนลดลง อุณหภูมิความร้อนก็จะกลับมาเยือนอีกครั้ง ทั้งนี้

พบว่า การก่อตัวของกลุ่มเมฆที่ปกคลุมเหนือท้องฟ้าเมืองไทย จะสังเกตเห็นว่าบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ยังคงมีเมฆมาก โดยเป็นเมฆชั้นต่ำ และเมฆชั้นสูงปกคลุมอยู่ ในขณะที่ภาคอีสาน บริเวณตอนกลางจนถึงตอนล่างกลุ่มเมฆเริ่มลดลงแล้ว เหลือปกคลุมส่วนมากบริเวณตอนบนเท่านั้น ส่วนภาคใต้ ยังคงมีเมฆเป็นส่วนมาก 

โดยส่วนใหญ่เป็นเมฆชั้นต่ำแต่สิ่งที่น่าสนใจให้สังเกตบริเวณเหนือประเทศไทย จะพบกลุ่มเมฆที่ก่อตัวเป็นแนวยาว พาดผ่านตั้งแต่ประเทศเมียนมาร์ ไทย สปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนล่าง ซึ่งกลุ่มเมฆเหล่านี้เองเกิดจากคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับสูง ที่เคลื่อนที่จากประเทศเมียนมาเข้าปคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ลักษณะเช่นนี้ก็จะทำให้บริเวณดังกล่างยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางแห่ง ในขณะที่ยังมีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย จึงทำให้ภาคใต้ ก็ยังคงมีฝนได้บางแห่งเช่นกันโดยจากการคาดการณ์ลักษณะการตกของฝน พบว่า วันนี้ช่วงเที่ยงๆจะมีการก่อตัวของกลุ่มฝนบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศ บริเวณจังหวัดตาก กาญจนบุรี และมีตกประปรายในบริเวณภาคอีสานตอนบน 

หลังจากนั้นกลุ่มฝนบริเวณฝั่งตะวันตกของประเทศจะขยับเลื่อนเข้ามายังบริเวณตอนกลางของภาคกลางมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ภาคอีสานฝนจะค่อยๆลดลงส่วนการคาดการณ์อุณหภูมิ จะพบว่า จากคลื่นกระแสลมที่เคลื่อนที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือ และภาคอีสานตอนบน จึงทำให้อุณหภูมิในช่วงกลางวันยังไม่สูงมากนัก แต่พื้นที่ภาคกลาง ภาคอีสานตอนล่าง ยังคงมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดในบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดวันนี้จะอยู่ที่ประมาณ 39 องศาเซลเซียสสำหรับภาพรวมสภาพอากาศในแต่ละภาควันนี้ เป็นดังนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียสภาค

ตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย อุดรธานี และหนองคาย อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 39 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35 องศาเซลเซียส ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 องศาเซลเซียส