นี่แหละ !บ้านนอก เข้ากรุง เมื่อ เกือบ 40 ปี ที่แล้ว
เขาจะอยู่ห้องที่พักแคบ ๆ แต่อยู่รวมกันหลายคน ซึ่งต่างจากบ้านของฉันที่ต่างจังหวัด เป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่กันหลายคน มีห้องครัว ระเบียง มีบันได มีกระถางล้างเท้า มีนอกชาน ไว้นั่งชมท้องฟ้ายามกลางคืน มีตุ่มน้ำ มีร่อง ที่มองเห็นใต้ถุนได้ http://winne.ws/n15290
เด็กบ้านนอกเข้ากรุง
ฉันเคยเข้ากรุงเทพครั้งแรกในชีวิต เมื่อปี 2521
ฉันรู้สึกทำไม รถลามากจัง
ฉันรู้สึกเขาอยู่กันแออัดมาก บ้านหลังคาติด ๆ กันเป็นแถว มากมาย
เขาไม่รู้สึกอึดอัดหรือ เขาก็มีความสุขกันดีอยู่นะ เท่าที่เห็น
เขาจะอยู่ห้องที่พักแคบ ๆ แต่อยู่รวมกันหลายคน ซึ่งต่างจากบ้านของฉันที่ต่างจังหวัด เป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่กันหลายคน มีห้องครัว ระเบียง มีบันได มีกระถางล้างเท้า มีนอกชาน ไว้นั่งชมท้องฟ้ายามกลางคืน มีตุ่มน้ำ มีร่อง ที่มองเห็นใต้ถุนได้
ฉันเริ่มปรับตัวเข้ากับชาวกรุงเทพ เดินทางออกจากบ้านด้วยถนนเล็ก ๆ แคบ ๆ ไม่เหมือนคันนาที่บ้านฉัน ที่มองอะไรก็โล่งไปหมด มีทางเกวียนไว้บันทุกข้าวช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว มีเหมืองให้น้ำไหลใส ๆ เห็นปลาตัวเล็ก ตัวน้อย ไหว้น้ำ ปู แม้แต่แมงดา ยามฝนตก ก็เล่นน้ำฝนกลางแจ้งสบายใจ
บ้านฉันตอนเด็ก ๆ
บ้านฉันเป็นชาวนา พ่อแม่และพี่ ๆ ทำนากันหมด แม้แต่ฉันตัวยังเล็กก็ต้องไปช่วยที่นาด้วย แต่ฉันไม่รู้สึกเหนื่อย นะ สนุกเสียด้วยซ้ำ พี่หาบข้าวไปส่งพ่อพี่ที่ไปทำนา
ฉันกินข้าวที่ทุ่งนา ช่างอร่อยถูกใจจริง ๆ แม้ไม่มีอะไร ก็มีผักปลาแกง น้ำพริก ปลาเค็มปิ้งและหาขนมกินยากมาก นาน ๆ ที แม่ฉันก็จะขุดแห้วนา มาปอก ทำขนมตะโก้แห้วให้ลูก ๆ กินกัน หรือทำข้าวต้มมัด และได้แจกบ้านญาติใกล้ ๆ อีกด้วย
ฉันอาบน้ำข้างตุ่มน้ำใต้ต้นมะพร้าวประจำเลย แล้วก็ซักผ้าตาก ทันที
แต่พอฉันมากรุงเทพ ฉันแปลกใจว่า อ้าว ! ทำไม ? เขาไม่ซักเลย แต่เขาไปโยนใส่ไว้ในตะกร้าผ้า เยอะแยะเลย แปลกจังเลย
ฉันยิ่งสงสัยหนัก พอฉันกินข้าวกับเขาและญาติแล้ว เขาก็เอาจาน ชาม ไปแช่ในกาละมังไว้ เขายังไม่ล้างชามเลย เขาเก็บไว้ล้างพรุ่งนี้เช้า โน่นแน่ะ ฉันก็ทำตามเขา เพราะเขาบอกว่า ไม่ต้องล้างนะ เดี๋ยว ไอ้....มีหน้าที่ล้างพรุ่งนี้ มองแล้วเห็นเต็มกาละมังเลย เพราะกินกันหลายคน
และที่ฉันเห็น เขาก็เป็นแบบนี้กันทุกบ้านเลยนะ ไม่ว่าบ้านญาติคนไหน ก็เป็นเหมือนกันหมด จนกลายเป็นประเพณี ว่าอาบน้ำตอนเย็นแล้วถอดเสื้อผ้าใส่ตะกร้าไว้รอซักภายหลัง
อีกจุดหนึ่ง ที่ฉันเห็นคือ เขาไม่เก็บที่นอน ในห้องนอน นะ กางมุ้งไว้ แหวกมุ้งออกมาเฉย ๆ ตกเย็นกลับมาจากข้างนอก เขาก็มุดมุ้งเข้าไปนอนใหม่
ที่บ้านฉันที่ต่างจังหวัด ต้องเก็บทุกวันเลย พับมุ้ง ผ้าคลุมที่นอน ที่ทำด้วยมือยัดนุ่นกันเอง นั่นแหละ
ต่อมาฉันก็เริ่มคุ้น และทำตามจนกลายเป็นประเพณี ว่า แต่ละบ้านต้องมีตะกร้าผ้าที่จะซักไว้ทุกบ้าน หลายบ้านก็ใส่กางเกง เสื้อปนกันหมดแม้แต่ผ้าขนหนูเช็ดหน้าเช็ดหัวก็มี
ฉันก็เช่นกัน โชคดีหน่อย ฉันรู้สึกตะขิดตะขวงใจ เลยแยกตะกร้าเสื้อและกระโปรง ผ้านุ่งออกจากกัน ในภายหลัง
ต่อมาได้อบรมอุบาสิกาแก้วได้เรียนรู้ว่า ต้องแยกเสื้อผ้าผู้ชาย ผู้หญิง ตะกร้าเสื้อ กระโปรงต่างหากอีก
และต่อมาได้เรียนรู้ ความดีสากล หรือ UG 5 ที่หลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สอน ให้ซักผ้าทุกวัน จะได้ไม่หมักหมม สิ่งสกปรกเอาไว้
นี่แหละหนา ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพราะความไม่รู้นี่เอง พอรู้ก็ยากจะทำตามอีก
วันนี้ วัดพระธรรมกาย ถูกสังคมมองว่าแปลก กว่าวัดอื่น ๆ เหมือนไม่ใช่วัดบ้างล่ะ เหมือนลัทธิใหม่บ้างล่ะ ?
ก็ไม่เหมือนวัดอื่นจริง ๆ นะ เพราะ วัดพระธรรมกาย สอนทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน การใช้และรักษาปัจจัย 4 อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ทั้งที่วัดและที่บ้าน แม้แต่แปรงฟัน กวาดบ้าน ถูบ้าน ถูศาลา มีหลักมีระเบียบหมดเลย เพราะเริ่มต้นจากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านได้วางระเบียบปฏิบัติและถ่ายทอดให้ศิษย์ทั้งพระ ทั้งโยมเอาไว้อย่างต่อเนื่องยาวนาน ตลอดมา
หลวงพ่อบอกว่า พระพุทธศาสนา มิใช่อยู่แค่ที่วัด แต่อยู่ที่พุทธศาสนิกชนทุกคน เปรียบเหมือนเป็นนายแบบ นางแบบ แห่งพระพุทธศาสนาเคลื่อนที่ ตัวเราต้องสะอาด บ้านเราต้องสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะเปรียบเหมือนโชว์รูมของพระพุทธศาสนา นะ อย่าปล่อยบ้านช่องสกปรก สมบัติก็ไม่เข้าบ้าน สิริมงคลก็ไม่เกิดอีกต่างหาก เดี๋ยวปัญหาครอบครัวก็จะตามมาอีก
เฮ้อ ! นี่แหละ ที่วัดพระธรรมกายเขาสอนกัน เคี่ยวเข็ญกันเป็นหลาย 10 ปี ก็เรื่องเหล่านี้แหละ
ตอนนี้ ตัวฉันเองก็ต้องเคี่ยวเข็ญตัวเอง ทุกวัน ทุกเวลาก็ว่าได้ ไม่รู้ว่าตายแล้ว จะเข็ญได้สักกี่อย่าง เพราะความไม่ดีในตัวฉันมันเยอะเหลือเกิน....
ก็ขอบอกว่า วัดพระธรรมกาย สอนไม่เหมือนที่วัดอื่น จริง ๆ นั่นแหละ ดังที่กล่าวมาเลยจ้า.
ต้นไม้ใกล้ฝั่ง
2 พ.ค. 2560 เวลา 18.40 น.