ตะลึง!!!ญี่ปุ่นพัฒนาหุ่นยนต์พระสงฆ์ AI ให้ทำหน้าที่แทนพระสงฆ์ในพุทธศาสนา
ในประเทศญี่ปุ่น การจัดงานศพมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 1 ล้านเยน บริษัท Nissei Eco จึงพัฒนา Pepper หุ่นยนต์ มีความสามารถอ่านอารมณ์ของมนุษย์ได้ตัวแรกของโลก ให้มารับบทบาทหน้าที่พระสงฆ์ เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ ซึ่งมันจะถูกตั้งโปรแกรมให้จำบทสวดของศาสนาพุทธ http://winne.ws/n18284
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความก้าวหน้าและแก้ปัญหาในสังคมมนุษย์ ในอนาคตกันใกล้เราก็ยิ่งจะต้องการมันมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจและสังคมของเราเปลี่ยนไป ปัจจุบันจึงมีการพัฒนา AI หลากหลายรูปแบบออกมา ทั้ง หุ่นยนต์ รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมประมวลผล และอื่น ๆ อีกมาก
ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ และโครงสร้างทางสังคมทำให้อุตสาหกรรมงานศพมีขนาดใหญ่มาก ส่งผลทำให้บริษัทต่าง ๆ พยายามที่จะนำ AI และเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตัวอย่างเช่น บางวัดในโตเกียวได้พัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเถ้ากระดูกที่สามารถเก็บและรวบรวมได้มากกว่า 1,000 ชุด ลูกหลานก็สามารถไปเยี่ยมหลุมศพของญาติได้เพียงแตะที่หน้าจอผ่านแอปพลิเคชันเท่านั้น เพราะเหตุนี้โครงการพัฒนา Pepper ให้ทำหน้าที่พระสงฆ์ในงานสวดศพจึงได้ถือกำเนิดขึ้นมานั่นเอง
บริษัทได้ตั้งราคาขาย Pepper เอาไว้ที่ 198,000 เยน บวกค่าบริการรายเดือนอีก 24,000 เยน แต่หากซื้อไปเพื่อประกอบธุรกิจด้านต่าง ๆ (เช่น วัดซื้อไปใช้แทนพระสงฆ์ ในการสวดมนต์แทนพระในงานศพ) จะต้องเสียค่าบริการรายเดือน 55,000 เยน โดยปัจจุบันบริษัทมีหุ่นยนต์ที่ใช้งานจริงได้แล้ว 10,000 ตัว และมีแผนเตรียมเปิดตัวพระ Pepper นี้ ที่โตเกียว
จากข้อมูลที่ได้กล่าวมาข้างต้น ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่นได้ถูกนำมาปรับให้กลายเป็นธุรกิจประเภทหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ โดยการนำเอาเทคโนโลยีมาสร้างหุ่นยนต์มาทำหน้าที่แทนพระสงฆ์กันอย่างจริงจัง
สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ถือว่าเป็นความเข้าใจที่ได้รับการถ่ายทอดมาแบบคลาดเคลื่อนทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง ถ้าพระสงฆ์เป็นเพียงผู้สวดศพอย่างเดียวการที่จะหาอะไรมาทำหน้าที่แทนพระสงฆ์นั้นก็ย่อมทำได้ ในความเป็นจริงแล้วพระสงฆ์ไม่ได้เป็นเพียงผู้ที่จะมาทำหน้าที่ในการสวดศพเพียงอย่างเดียว แต่พระสงฆ์คือผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ให้กับผู้คนที่สนใจในพระพุทธศาสนาได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจและเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์และสามารถนำหลักคำสอนของพระพุทธองค์ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ถ้าไม่มีการศึกษาและถ่ายทอดหลักธรรมคำสอนหรือพระธรรมวินัยอย่างจริงจังพระพุทธศาสนาเป็นแค่เพียงธุรกิจประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้แสวงหาผู้ประโยชน์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เป็นการที่ทุกคนจะได้เข้ามาสัมผัสกับพระพุทธศสานอย่างแท้จริง
ถึงเวลาแล้วที่พวกเราชาวพุทธจะหันมาให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนากันอย่างจริงจังเสียที ก่อนที่พระพุทธศาสนาของเราจะเสื่อมถอยไปกลับกลายเป็นธุรกิจมากกว่าสิ่งที่ใช้เป็นหลักในการยึดเหนี่ยวจิตใจของเรา ถ้าเมื่อไหร่ไม่มีพุทธบริษัท4ที่จะเข้ามา คอยประคับประคองพระพุทธศาสนา ต่อไปในวันข้างหน้าจะมีใครมาช่วยสานต่อหรือสืบทอดอายุของพระพุทธศาสนากันเล่า หรือเราจะฝากความหวังไว้กับหุ่นยนต์ ให้หุ่นยนต์เป็นตัวขับเคลื่อนในการสานต่องานพระพุทธศาสนาอย่างนั้นหรือ
อย่าปล่อยให้พระพุทธศาสนาที่บรรพบุรุษของเราเก็บรักษาไว้และสืบทอดต่อๆกันมาต้องมาสื้นสุดลงในยุคสมัยของพวกเราเลย พวกเราต้องช่วยกันปกป้องและสายต่ออายุของพระพุทธศาสนาให้กลับคืนมาเป็นศูนย์รวมจิตใจให้กับชาวพุทธของเราทุกคนสืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลานกันเถอะครับ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
https://mamoketio.blogspot.com/2017/08/ai-4.html
ขอบคุณข้อมูลจาก:https://www.appdisqus.com