ความงดงามอันทรงคุณค่า.. "วัดในเหรียญไทย" เรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม
นอกจากที่"เหรียญกษาปณ์"จะมีค่าในฐานะที่เป็นวัตถุแทนเงินตรา ก็ยังมีคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ ตลอดจนการแสดงถึงความเป็นสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อีกด้วย http://winne.ws/n9077
เริ่มแรกที่มีการใช้เหรียญกษาปณ์มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งต่อมาก็มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ น้ำหนัก ขนาด อัตราส่วนผสมของโลหะ และกรรมวิธีการผลิตเรื่อยมา จนกระทั่งในรัชกาลปัจจุบัน กรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนออกมาใช้ในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา
เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดปัจจุบัน ประกอบด้วยชนิดราคา 10 บาท , 5 บาท , 2 บาท , 1 บาท , 50 สตางค์ , 25 สตางค์ , 10 สตางค์ , 5 สตางค์ และ 1สตางค์ (โดยชนิด 10 สตางค์ , 5 สตางค์ และ 1สตางค์ ไม่ได้นำออกมาใช้ในชีวิตประจำวัน แต่มีความจำเป็นต้องใช้ในเรื่องการคำนวณตัวเลขต่างๆ ในทางบัญชี โดยเฉพาะการคิดภาษีในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเศษสตางค์ได้)
ซึ่งลวดลายที่ปรากฏอยู่บนเหรียญนั้นจะเป็นลวดลายที่แสดงถึงสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยด้านหน้าเป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ มีคำว่า ประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสถาบันชาติ และด้านหลังเป็นรูปวัดต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อแสดงถึงสถาบันศาสนา
โดยลวดลายวัดบนเหรียญกษาปณ์ชนิดต่างๆ มีดังนี้
เหรียญ 10 บาท เป็นรูปพระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม
เหรียญ 5 บาท เป็นรูปพระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
เหรียญ 2 บาท เป็นรูปพระบรมบรรพต วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เหรียญ 1 บาท เป็นรูปพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ขอบคุณข้อมูลจาก manager.co.th