"เวรของผู้จองเวร...ย่อมไม่ระงับ เวรของผู้ไม่จองเวร...ย่อมระงับได้”
การผูกโกรธอาฆาตพยาบาทจองเวรกันนั้น ไม่ใช่วิสัยของชาวพุทธ และยังก่อให้เกิดโทษอย่างมหันต์อีกด้วยทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานยาวนานในสังสารวัฏ ดังนั้น บัณฑิตผู้ได้ศึกษาความจริงของชีวิต จึงไม่ผูกโกรธจองเวรกัน http://winne.ws/n11683
"เวรของผู้จองเวร...ย่อมไม่ระงับ เวรของผู้ไม่จองเวร...ย่อมระงับได้”
(ขุททกนิกาย ธรรมบท)
...การผูกโกรธอาฆาตพยาบาทจองเวรกันนั้น ไม่ใช่วิสัยของชาวพุทธ และยังก่อให้เกิดโทษอย่างมหันต์อีกด้วยทั้งในภพนี้และภพหน้า ตลอดจนชีวิตอันแสนทุกข์ทรมานยาวนานในสังสารวัฏ ดังนั้น บัณฑิตผู้ได้ศึกษาความจริงของชีวิต จึงไม่ผูกโกรธจองเวรกัน แต่จะให้อภัยและมีเมตตาจิตต่อกัน
...การให้อภัยซึ่งกันและกันทำให้ไม่ต้องก่อเวร เพราะคนเราต้องเข้าใจความเป็นจริงอย่างหนึ่งว่า ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม เมื่อไม่สมบูรณ์ บางครั้งคนอื่นอาจทำผิดพลาดล่วงเกินเรา หรือเราอาจไปทำผิดพลาดล่วงเกินคนอื่น ทั้งที่มีเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ตาม แต่ถ้าเราต่างให้อภัยซึ่งกันและกันแล้ว เวรนั้นย่อมจะระงับไป เพราะเวรย่อมระงับได้ด้วยการไม่จองเวร แต่เวรจะไม่ระงับเมื่อต่างผูกเวรกัน
...การสร้างวาทกรรมต่อกันมีผลทำให้ผูกเวรกันไปยาวนาน และต้องมาเบียดเบียนทำร้ายกัน ชนิดที่ว่าเอาตายกันไปข้างหนึ่งทีเดียว และยากที่จะหาวันยุติซึ่งทำให้เสียเวลาในการสร้างบารมี และทำให้ต้องไปสู่อบายด้วยกันทั้งสองฝ่าย
ฉะนั้น ทางที่ดีควรจะให้อภัยกัน และหันมาประพฤติธรรม เพราะอันที่จริงเราทุกๆ คน ล้วนเคยเป็นญาติกันมาแล้วทั้งนั้น เราต่างเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น ให้รักกันไว้ดีกว่าไปโกรธกัน ถ้าเรามีความรักและปรารถนาดีต่อกันใจจะสบาย ปฏิบัติธรรมย่อมจะได้เห็นธรรมะโดยเร็วไวกันทุกคน
ขอขอบคุณ "บทความธรรมะ" จาก...http://www2.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=13615