คุณยายคิดนอกกรอบ ปลูกผักกูดสร้างรายได้
สมัยก่อนกว่าจะได้รับประทานผักกรูด ต้องรอฤดูฝนถึงจะแตกยอดมาให้เก็บกินได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอ สามารถปลูกขายได้ทั้งปี เพียงแค่ใส่ใจให้น้ำ และงดใช้สารเคมี http://winne.ws/n1932
“ผักกูด” เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่กำลังได้รับความนิยมบริโภค เนื่องด้วยเป็นผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งเบต้า เคโรทีน และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังเป็นผักที่บ่งบอกถึงคุณภาพ และความปลอดภัย เนื่องจากหากบริเวณไหนอากาศไม่ดี ดินไม่บริสุทธิ์ หรือ มีสารเคมีเจือปน ผักกูด จะไม่ยอมขึ้น หรือ แตกต้นใหม่เด็ดขาด จึงทำให้ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพนิยมรับประทาน เพราะมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยจากสารเคมีสมัยก่อนกว่าจะได้รับประทานผักกรูด ต้องรอฤดูฝนถึงจะแตกยอดมาให้เก็บกินได้
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอ สามารถปลูกขายได้ทั้งปี เพียงแค่ใส่ใจให้น้ำ และงดใช้สารเคมี วันนี้ “อบต.กบ” และ เหยี่ยวข่าวแสนสวย แห่งจังหวัดน่าน พี่ระพีพร เพ็ชรเจริญ จะพาไปพุดคุยกับ ซึ่ง คุณยายอ่อน ใจสุราช เกษตรกรบ้านดอนตัน ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ที่ถึงแม้จะมีอายุมากถึง 73 ปีแล้ว แต่ยังสามารถสร้างรายได้ถึงวันละ 1,000 – 1,500 บาท จากการปลูกผักกูด หลังคิดนอกกรอบ พลิกผืนดินหลังบ้าน ที่ลูกเขยปลูกต้นตะกูทิ้งไว้ 3 ไร่ ตามกระแส และนำผักกรูดมาปลูกข้างใต้ต้นตะกู ทยอยเก็บยอดออกขายมีรายได้ทุกวัน
พี่อ่อน ใจสุราช ชาวบ้านดอนตัน ต.ศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เล่าให้ฟังว่า ที่หลังบ้านลูกเขยได้ปลูกต้นตะกูทิ้งไว้ในพื้นที่ 3 ไร่ ซึ่งต้นตะกูเป็นต้นไม้สูงใหญ่ จึงทำให้พื้นที่ด้านใต้ต้น ร่มเย็น ชุ่มชื้น และเห็นว่าพื้นที่ด้านล่างปล่อยทิ้งเปล่าประโยชน์ จึงลองนำผักกูดมาปลูก ปรากฏว่าเจริญงอกงามดี แตกยอดให้ได้เก็บกินทุกวัน จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกจนเต็มพื้นที่เพื่อเก็บขายสร้างรายได้ โดยทำระบบให้น้ำด้วยสปริงเกอร์ หลัง 6 เดือน โตเต็มที่ ก็เริ่มแตกยอด สามารถทยอยเก็บยอดผักกูดขายได้ทุกวันต่อเนื่อง เก็บมารวมเป็นมัดไว้รอแม่ค้า พ่อค้า ที่จะเข้ามาซื้อถึงบ้าน ในราคากิโลกรัมละ 20 บาท โดยในแต่ละวันสามารถเก็บได้ 50-70 กิโลกรัมขึ้นอยู่กับแรงกาย ซึ่งทำให้มีรายได้วันละ 1,000-1,500 บาท ส่วนหากเป็นฤดูฝน จะแตกยอดมากเก็บไม่ทัน ก็จะจ้างคนมาช่วยเก็บ และให้ปุ๋ยอินทรีย์ทุก 3 เดือน“อย่างไรก็ตาม ผักกูด ซึ่งนอกจากจะเป็นพืชที่ดูแลไม่ยาก ไม่มีค่าสารเคมีปราบแมลงศัตรูแล้ว ยังปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้นาน เรียกได้ว่าปลูกแค่ครั้งเดียวก็สามารถขยายพันธุ์ต่อไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน มอบเป็นมรดกตกทอดต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด” พี่อ่อน ใจสุราช เล่าด้วยความภาคภูมิใจ