Het Lichaam van Coppens 

รายการยอดนิยมของเบลเยียม ท้าพิสูจน์วิธีทำให้สมองว่างจากความคิด บนแนวทางแห่งกลไกวิทยาศาสตร์ กับวิถีปฏิบัติอันเป็นรากเหง้าของพุทธศาสตร์เมื่อสองแนวทางมาบรรจบกันได้ ... ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?

หลังจากที่ 2 พิธีกรหนุ่มจาก Het Lichaam van Coppens ทาง VTM Channel รายการโทรทัศน์แนวท้าพิสูจน์ยอดนิยมในเบลเยียม ได้รับคำถามจากแฟนรายการที่ส่งตรงมาจากประเทศนามิเบียว่า 

“ ขณะนี้เธอมาพักร้อนในสถานที่สุดยอด เพื่อให้สมองว่าง แต่เป็นไปได้จริงๆ หรือที่ในหัวของคนเราจะไม่คิดถึงอะไรเลย? ”

จากคำถามนี้ทำให้ทั้ง 2 คน นึกถึงผลงานการวิจัยค้นคว้าของนายแพทย์ท่านหนึ่ง และนำพวกเขาไปสู่การท้าพิสูจน์.!

คุณสามารถไม่คิดถึงอะไรเลยได้จริงหรือ?

ผลงานวิจัยของ ศาสตราจารย์ สตีเฟน เลาแรส์ (Professor Steven Laureys) นายแพทย์ผู้ชำนาญด้านประสาทวิทยา ที่มีผลงานวิจัยได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการทั่วโลก

ภาพหนังสือพิมพ์ HLN ฉบับวันพุธที่ 2 ส.ค. 2017 ได้ตีพิมพ์ข่าวงานวิจัยฯ โดยพาดหัวว่า "สอนให้เด็กทำสมาธิในโรงเรียน" การวิจัยทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่าการทำสมาธิช่วยให้ความเครียด และความวิตกกังวลลดลง ในขณะที่ประสิทธิภาพความทรงจำจะดีขึ้น จริงอยู่ว่าเราไม่ได้บังคับใครให้มาทำสมาธิ แต่ควรส่งเสริมให้มีการเรียนรู้เทคนิควิธีการทำสมาธิภายในโรงเรียน

-BRECHT HERMAN-

ศาสตราจารย์ สตีเฟน เลาแรส์ (Professor Steven Laureys) 

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา ระดับแนวหน้าของเบลเยียม เปิดเผยผลงานการวิจัยที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า "การทำสมาธิ" แม้จะมีรากเหง้ามาจากความเชื่อ หรือความศรัทธา แต่การนั่งสมาธิกลับ ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้น ลดความวิตกกังวล และช่วยคลายความตึงเครียดได้ มนุษย์ทุกคนจึงควรเรียนรู้วิธีการทำสมาธิตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

การพิสูจน์เริ่มขึ้นที่โรงพยาบาล มาเตียสในชุดเตรียมพร้อมเข้าสู่อุโมงค์สแกนสมองเป็นเวลา 8 นาทีสำหรับนอนนิ่งๆ ในอุโมงค์ ขณะที่เครื่องก็บันทึกภาพการทำงานในสมอง ซึ่งจะปรากฏออกมาทันทีที่จอคอมพิวเตอร์ เครื่องสแกนโครงสร้างของสมองจะรู้ว่าสมองส่วนไหนกำลังคิดอะไร หรือทำงานอยู่ ก็ดูจากปริมาณเลือดที่ถูกลำเลียงไปหล่อเลี้ยงยังส่วนใดส่วนหนึ่งของสมอง หรือส่วนที่มีการเคลื่อนไหว 

ศาสตราจารย์ สตีเฟน เลาแรส์ (Professor Steven Laureys)  กล่าวว่า 

เราทุกคนมีมันสมองที่ยังใช้การได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะไม่คิดถึงอะไรเลย ในเมื่อการทำงานของสมองก็คือ “การคิด”

ภายหลังการสแกนสมอง มาเตียส ยืนยันว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมากทีเดียว ในการพยายามทำให้สมองว่างโดยไม่คิดถึงอะไรเลย อย่างตอนที่เขาอยู่ใต้อุโมงค์สแกนเขาได้ยินเสียง ตึ๊กๆ ตึ๊กๆ แล้วก็ยังเผลอคิดว่า ผมต้องไปตัดหญ้าที่สนามนะ

ศาสตราจารย์ สตีเฟน เลาแรส์ (Professor Steven Laureys) วิเคราะห์ผลการสแกนภาพสมองของ มาเตียส ว่าเขามีสมองที่สวยงาม จุดสีแดงที่เห็นคือบริเวณที่สมองกำลังใช้ความคิดมาก เราพบว่าสมองทั้งซีกซ้าย และซีกขวา และสมองด้านใน ยังคงมีการทำงานแม้ว่าเขาจะหลับตาหรือรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น คล้ายความฝัน การพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะไม่คิด สมองก็จะยิ่งทำหน้าที่คิดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

พระรูเบน วิสาโล (Phra Ruben Visalo) จาก วัดพระธรรมกายเบเนลักซ์

มาเตียส และสตัฟ ต้องการจะก้าวไปไกลอีกสักหน่อย.!

สำหรับการท้าพิสูจน์ครั้งนี้ บางทีการไปฝึกทำสมาธิกับผู้ที่มีความชำนาญ จะสามารถทำให้สมองว่างได้ พิธีกรหนุ่มจึงมาพบ หลวงพี่รูเบน เพื่อเรียนรู้วิธีการนั่งสมาธิ แล้วก็ลงมือปฏิบัติตามคำแนะนำ ก่อนที่มาเตียสจะกลับไปพิสูจน์ใต้อุโมงค์สแกนสมองอีกครั้ง

หลวงพี่รูเบน วิสาโล สอนนั่งสมาธิ“หลวงพี่จะสอนวิธีนั่งสมาธิให้กับคุณ ความจริงการนั่งสมาธิเป็นเรื่องง่ายมาก 

เวลาที่เรานั่งสมาธิ ความคิดของเราจะถูกนำกลับเข้าไปสู่ภายในตัว ปล่อยวางความนึกคิดเอาไว้ที่ศูนย์กลางกายของเรา พร้อมกับการท่องคำภาวนาเบาๆ ว่า  สัมมา อะระหัง ... สัมมา อะระหัง   ให้รู้สึกเหมือนว่าคำภาวนา สัมมา อะระหังค่อยๆ ซึมผ่านออกมาจากภายในตัวของคุณ 

สัมมา อะระหัง ... สัมมา อะระหัง ท่องคำภาวนานี้ เบาๆ ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนคุณแทบไม่รู้สึกว่ากำลังท่องอยู่ มีเพียงความบางเบา ผ่อนคลายอยู่ในกลางตัวคุณ

ความคิดเหมือนก้อนเมฆที่ล่องลอยผ่านมา แล้วก็ค่อยๆ เคลื่อนลอยผ่านไป เพียงแค่เราไม่สนใจ ปล่อยให้มันลอยไกลออกไป ด้วยความรู้สึกเฉยๆ ในที่สุดใจของเราก็จะนิ่งลง...”

มาเตียส กลับมาที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าอุโมงค์สแกนสมองอีกครั้ง หลังจากฝึกนั่งสมาธิกับ พระรูเบน วิสาโล (Phra Ruben Visalo)

หลังจากได้พบกับ พระรูเบน วิสาโล (Phra Ruben Visalo) เพื่อฝึกทำสมาธิแล้ว 2 พิธีกรท้าพิสูจน์ มาเตียส และสตัฟ ก็ได้กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อทำการสแกนสมอง มาเตียสยอมรับว่า

“ครั้งนี้เขามีความคิดถึงเรื่องราวต่างๆ น้อยลงมาก มันเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าในเวลาที่สมองไม่มีความคิดฟุ้งซ่าน”

ศาสตราจารย์ สตีเฟน เลาแรส์ (Professor Steven Laureys) ก็กล่าวถึงความแตกต่างหลังจากสแกนสมองครั้งที่ 2 ด้วยเช่นเดียวกัน

“...แน่นอนว่าภาพจากการสแกนสมองของมาเตียสครั้งแรก เรายังคงพบจุดสีแดงกระจายอยู่หลายแห่ง แสดงว่าสมองยังมีการใช้ความคิดอยู่

แต่ภาพการสแกนสมองครั้งล่าสุด หลังจากนั่งสมาธิแล้ว เราจะสังเกตว่ามันมีความแตกต่างกันอย่างมาก”

ไม่ใช่ว่า การทำสมาธิ จะทำให้คนเราหยุดคิดได้ทันทีเหมือนกินยานอนหลับ คุณอาจจะต้องใช้เวลาสำหรับการฝึกจิตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 8 สัปดาห์ เพื่อให้จิตใจสงบนิ่งว่างเปล่าจากความคิดได้ดีขึ้น

ในกรณีที่คุณมีความเครียด วิตกกังวลเรื้อรัง 

การกินยาก็ไม่ใช่อะไรที่ตอบโจทย์เสมอไป คุณมีวิธีการทางเลือกอื่นในการเยียวยา หรือบำบัดจิตใจได้ นั่นก็คือการทำสมาธิ ซึ่งอาจจะเป็นการฝึกโยคะเป็นต้น ขอเพียงแต่คุณเปิดใจยอมรับที่จะทำมัน

จากการศึกษาเรื่องการฝึกจิต ซึ่งก็คือการทำสมาธิ เราพบว่านี้คือจุดหมายปลายทางของการมีสุขภาพร่างกาย และสุขภาพจิตใจที่ดี

Advisor :   Phra Sander Khemadhammo / Netherlands

แปลภาษาดัตช์ : Vilaiwan Wongtawan / Belgium

เรียบเรียงโดย :   สารธรรม

ที่มา https://talk--secret.blogspot.com/2017/11/blog-post.html?m=1