ฝึกอย่างไร???ฝึกตนเองให้เป็นดั่ง..บุรุษอาชาไนย

คำว่า อาชาไนย หมายถึง ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนอบรมตนเองฝึกมาดีแล้ว ฉลาด มีสติ สัมปชัญญะ เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย สามารถรับรู้คำสั่งได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว รู้หนทางความเสื่อม-ความเจริญของชีวิตตน และ ดำเนินไปตามความเจริญแห่งชีวิตนั้น http://winne.ws/n21016

4.4 พัน ผู้เข้าชม
ฝึกอย่างไร???ฝึกตนเองให้เป็นดั่ง..บุรุษอาชาไนย


ม้าอาชาไนยนี้เป็นม้าที่ฉลาดมาก มีปรากฏอยู่ในโลก 4 จำพวก คือ

ม้าประเภทที่ 1 เวลาเจ้าของยกปฏักขึ้น มันก็รู้ทันทีว่าให้ทำอะไร ม้าอาชาไนยสอนตัวเองได้ว่า วันนี้นายสารถีผู้ฝึกม้า จะให้ทำอะไร เราจะตอบแทนบุญคุณนายสารถี ให้เต็มกำลังความสามารถ แล้วรีบวิ่งออกมาหานายสารถี เตรียมพร้อมที่จะรับฟังคำสั่ง พร้อมจะออกไปทำภารกิจทันที

ม้าประเภทที่ 2 เจ้าของยกปฏักขึ้น ก็ยังยืนนิ่ง แต่เมื่อถูกปฏักแทงถูกขุมขน มันถึงจะไป ม้าอาชาไนย เห็นเงาของปฏักแล้ว ก็ยังยืนนิ่งๆ ตามปกติเหมือนไม่รับรู้คำสั่ง แต่เมื่อถูกปฏักแทงถูกขุมขนจึงสลดสังเวชว่า วันนี้นายสารถีผู้ฝึกม้าจะให้เราทำอะไร เราจะตอบแทนบุญคุณนายของเรา

ฝึกอย่างไร???ฝึกตนเองให้เป็นดั่ง..บุรุษอาชาไนย


ม้าประเภทที่ 3 เจ้าของลงปฏักแทงถึงผิวหนังแล้ว มันถึงจะไป ม้าอาชาไนย เห็นเงาของปฏักแล้ว ถูกปฏักแทงถูกขุมขน ก็ยังไม่สลดสังเวช แต่เมื่อถูกปฏักแทงถึงผิวหนัง จึงค่อยนึกขึ้นได้ พร้อมที่จะทำตามที่นายสารถีบอกทุกอย่าง

ม้าประเภทที่ 4 เจ้าของลงปฏักแทงถึงกระดูกแล้ว มันถึงจะไป ม้าอาชาไนย เมื่อได้เห็นเงาของปฏักก็ไม่สลดสังเวช ถูกปฏักแทงถูกขุมขนก็ยังไม่สะทกสะท้าน แม้ถูกปฏักแทงถึงผิวหนังก็ยังไม่สะดุ้ง แต่เมื่อถูกปฏักแทงถึงกระดูก จึงยอมให้นายสารถีได้ฝึกได้ใช้งาน

ฝึกอย่างไร???ฝึกตนเองให้เป็นดั่ง..บุรุษอาชาไนย


เช่นเดียวกับ บุรุษอาชาไนยในโลกนี้ ก็มีอยู่ 4 จำพวก เหมือนม้าอาชาไนย คือ

บุรุษประเภทที่ 1 เมื่อได้รับฟังคำเตือนในเรื่องผลกรรม ก็ระลึกรู้ได้ทันทีว่าต้องทำสิ่งที่ถูกที่ควร เป็นผู้ที่มีบุญมีปัญญามาก บางคนได้ยินเท่านั้นเองก็รู้สึกแล้วว่าต้องทำอะไร เช่น เพียงได้ข่าวคนเจ็บคนตายก็รู้สึกสลดใจ จึงเริ่มตั้งความเพียร สังขารร่างกายเป็นสิ่งไม่เที่ยงไม่แน่นอน จึงเริ่มตั้งความเพียร ดำเนินชีวิตอยู่บนที่ตั้งของความไม่ประมาท ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานในสังสารวัฏ

บุรุษประเภทที่ 2 เมื่อได้รับฟังถึงความทุกข์ของผู้อื่นก็ยังไม่สลด แต่เมื่อได้เห็นผลกรรมกับตาของตน จึงระลึกรู้ได้ว่าต้องทำสิ่งที่ถูกที่ควร ได้ยินได้ฟังว่ามีคุณตาใกล้บ้านป่วยเป็นโรคคนแก่ มีหลายโรคติดตัวรักษาไม่หาย ทนทุกข์ทรมานและ ได้เสียชีวิตไปในที่สุด เมื่อได้ฟังก็ยังไม่รู้สึกสลดใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ต่อมาได้เห็นเพื่อนป่วยหนัก และเสียชีวิตในวัยกลางคน จึงเกิดความสลดใจ ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ไม่แน่นอน จึงเริ่มตั้งความเพียร ปฏิบัติธรรม ฟังธรรม สั่งสมบุญ ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต

ฝึกอย่างไร???ฝึกตนเองให้เป็นดั่ง..บุรุษอาชาไนย

บุรุษประเภทที่ 3 บุรุษผู้มีญาติพี่น้องต้องรับผลกรรม จึงระลึกรู้ได้ว่าต้องทำสิ่งที่ถูกที่ควร เมื่อได้เห็นญาติ หรือบุคคลอันเป็นที่รักของตัวเอง ประสบกับความทุกข์ หรือ ได้ตายจากเราไป จึงเกิดความสลดสังเวช ในการพลัดพรากจากญาติหรือบุคคลอันเป็นที่รักไป และ เห็นถึงความไม่เที่ยงของสังขารร่างกาย สักวันความตายก็ต้องเกิดขึ้นกับตัวเราเช่นกัน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง จึงตั้งใจทำความเพียร นั่งสมาธิ ศึกษาธรรม เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง

บุรุษประเภทที่ 4 บุรุษที่ไม่ได้ยินด้วยหู ไม่เห็นด้วยตา เหตุการณ์อันเศร้าสลดก็ไม่เกิดขึ้นกับหมู่ญาติ แต่ตนเองเป็นผู้ประสบกับความทุกข์ จึงระลึกรู้ได้ว่าต้องทำสิ่งที่ถูกที่ควร เมื่อมีภัยมาถึงตัวเองแล้ว ประสบกับความทุกข์ ความไม่เที่ยงของสังขาร โรคร้ายต่างรุมแทบเอาชีวิตไม่รอด เกิดความกังวลขึ้นมาว่าเวลาตายไป จะเอาอะไรไปเป็นที่พึ่ง จึงเริ่มคิดได้ แล้วตั้งสติ ทำความเพียร ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม ทำใจให้หยุดนิ่งเพื่อเข้าถึงธรรมภายใน จะได้เป็นผู้มีสุคติสวรรค์ และนิพพานเป็นที่ไป

เราทุกคนสามารถฝึกตนเองให้มีความเป็นอาชาไนยประเภทที่ 1 ได้เหมือนกัน ผู้ที่สามารถตักเตือนตนเองได้ ไม่ต้องรอให้ใครต้องมาชี้แนะว่ากล่าว มีใจรักในการฝึกแก้ไขข้อบกพร่องตนเอง คอยระมัดระวัง เรื่องไหนที่ห้ามไม่ให้ทำ ก็จะไม่ทำ มีสัจจะ ส่วนเรื่องไหนที่ทำได้ ก็พยายามทำตามเต็มความสามารถไม่ให้บกพร่อง นับว่าเป็นเรื่องของคนอาชาไนย ม้าอาชาไนย

ปลายทางของชีวิตเรา มีอยู่ 3 ทางที่จะไป คือ นรก สวรรค์ หรือ มรรคผลนิพพาน ดังนั้น เมื่อเราได้ยินก็ดี ได้เห็นก็ดี เห็นคนอื่นก็ดี เราจึงไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิต ที่ไม่มีอะไรแน่นอน มุ่งสร้างแต่ความดี น้อมนำธรรมมาปฏิบัติ เพราะบุคคลที่มีใจเป็นธรรมะ ย่อมไม่ตกไปในที่ชั่ว



ที่มาhttp://specialcasestudy.com/content/3464

เรียบเรียงโดย WhitewayOfficiially
รูปภาพ Google

แชร์