23 ศาลนำร่องใช้กำไล EM สวมข้อเท้า ผู้ต้องหา-จำเลย แทนหลักทรัพย์ประกัน เริ่ม 1 มี.ค.นี้
จะเริ่มใช้กำไลข้อเท้าจำนวน 5 ,000 เครื่อง กับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา วันที่ 1 มี.ค.นี้กับศาลนำร่อง ทั่วประเทศ 23 ศาลทั่วประเทศ มีจนท.จับตาตลอด 24 ชั่วโมง ฝ่าฝืน ผิดเงื่อนไขจับทันที http://winne.ws/n22499
ดีเดย์ 1 มี.ค.นี้ 23 ศาลนำร่องใช้กำไล EM สวมข้อเท้า ผู้ต้องหา-จำเลย แทนหลักทรัพย์ประกัน มีจนท.จับตาตลอด 24 ชั่วโมง ฝ่าฝืน ผิดเงื่อนไขจับทันที จำนวน 5,000 เครื่อง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 ก.พ.2561 ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเเษก นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และนายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมลงนามบันทึกความตกลง(MOU) ความร่วมมือการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ EM หรือกำไลข้อเท้า มาใช้แทนกาวางเงินประกันผู้ต้องหา หรือจำเลยในการขอปล่อยชั่วคราวเพื่อใช้สืบเสาะพฤติกรรมผู้ต้องหา หรือจำเลยคดีอาญา เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำของสังคม และลดปริมาณผู้ต้องขัง หรือจำเลยโดยมีศูนย์ควบคุม ตรวจสอบติดตามการปล่อยชั่วคราวตลอด 24 ชั่วโมง
นายสราวุธ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวอีกว่า หากผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอ หรือพฤติการณ์ไม่ร้ายแรง ก็เป็นดุลยพินิจศาลว่าจะใช้ กำไลข้อเท้าควบคุมหรือไม่ ที่ผ่านมา จากการประเมินพบว่า มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพโดยจะเริ่มใช้กำไลข้อเท้าจำนวน 5 ,000 เครื่อง กับผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา วันที่ 1 มี.ค.นี้กับศาลนำร่อง ทั่วประเทศ 23 ศาลทั่วประเทศ อาทิ ศาลอาญา 600 เครื่อง ศาลจังหวัดมีนบุรี 600 เครื่อง ศาลอาญากรุงเทพใต้ 300 เครื่อง ศาลอาญาธนบุรี 300 เครื่อง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง 50 เครื่อง ซึ่งกำไลข้อเท้าจะทำให้เจ้าพนักงานศาลรู้ว่าผู้ต้องหา หรือจำเลยปฏิบัติ ตามเงื่อนไขศาลหรือไม่ เช่น ป้องกันการหลบหนี หรือ จะก่อเหตุประทุษร้ายกับผู้เสียหายอีก การออกนอกพื้นที่ หรือ การฝ่าฝืนเงื่อนไข ศาลจะพิจารณาออกหมายจับต่อไป ซึ่งการนำเทคโนโลยีมาใช้การจัดการบริหารคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สะดวก รวดเร็ว ประหยัด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของประธานศาลฎีกา
ด้านนายกำพล รุ่งรัตน์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า กำไลข้อเท้า EM ซึ่งติดระบบ นำทาง GPS ไว้มีน้ำหนักเบา 230 กรัม จะถูกสวมที่ข้อเท้าผู้ต้องหาหรือจำเลย ตลอดเวลา เพื่อใช้กำหนดพื้นที่การเดินทาง ความเคลื่อนไหว และพื้นที่ต้องห้าม สอดส่องพฤติกรรมของผู้ใช้ หากมีการกระทำผิดเงื่อนไข เช่น ออกนอกพื้น มีการทำลายกำไลข้อเท้า ฯลฯ เครื่องจะแสดงสัญญาณไปที่ศูนย์ควบคุมฯให้เจ้าหน้าที่ ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผลัดละ 8 คน 8 ชั่วโมง รายงานต่อผู้พิพากษาเวร แต่ละศาลเพื่อพิจารณาออกหมายจับ ผู้ต้องหาหรือจำเลยทันที
สำหรับกำไลข้อเท้า EM นี้ในปีแรก ทางศาลยุติธรรมจะเริ่มใช้ จำนวน 5,000 เครื่อง ใช้งบประมาณ 80.8 ล้านบาทและจะเพิ่มเป็น 10,000 เครื่องให้แก่ศาลอื่นๆ ในปีที่2 โดยจะมีการประเมินผลการใช้งานแบบปีต่อปี
อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.siamrath.co.th/n/31700