เลิกใช้ถุงพลาสติกในโรงพยาบาลทุกแห่ง เริ่มแล้ว ตั้งแต่ 1 ต.ค.2561 !!

โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ได้ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกใส่ยาแล้ว ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้ถุงผ้าเพื่อลดโลกร้อน http://winne.ws/n25044

2.9 พัน ผู้เข้าชม

     โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ได้ยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกใส่ยาแล้ว ตั้งแต่ 1 ต.ค. 61 พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้ถุงผ้าเพื่อลดโลกร้อน

     นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป สถาบันและโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ต้องยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกใส่ยา พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนผู้รับบริการให้นำถุงผ้ามาใส่ยา เพื่อรณรงค์ให้มีการบริหารจัดการขยะอย่างถูกต้อง ลดปัญหาภาวะโลกร้อน นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อถุงพลาสติกสำหรับใส่ยาให้แก่ผู้ป่วย ตลอดจนให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม

     ทั้งนี้ ที่ผ่านมาโรงพยาบาลและหน่วยแพทย์ในสังกัดได้ยกเลิกใช้ถุงพลาสติกแล้ว 18 แห่ง และได้จัดกิจกรรมรณรงค์ขอความร่วมมือจากประชาชนผู้มารับบริการและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมทั้งยังได้แจกถุงผ้าให้แก่ผู้ป่วยและแนะนำให้นำถุงผ้ามาใส่ยาเมื่อมาพบแพทย์ทุกครั้ง

เลิกใช้ถุงพลาสติกในโรงพยาบาลทุกแห่ง เริ่มแล้ว ตั้งแต่ 1 ต.ค.2561 !!

     ด้าน นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. กล่าวว่า จะเสนอให้ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต ร้านค้าปลีกรายใหญ่ เรียกเก็บเงินการขอใช้ถุงพลาสติกจากลูกค้าใบละ 1-2 บาท ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น ที่ลูกค้าจะต้องเสียเงินซื้อถุงพลาสติกเพิ่ม หากต้องการใช้ไว้ใส่ของที่ซื้อ เพื่อต้องการกระตุ้นให้ประชาชนลดใช้ถุงพลาสติก ด้วยการเตรียมตะกร้า กระเป๋า หรือถุงผ้า ก่อนไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าแทน ซึ่งหากมีการใช้จริงจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกในประเทศได้มาก เพราะปริมาณถุงพลาสติกที่ใช้จากร้านค้าถือเป็นสัดส่วนการใช้พลาสติกจำนวนมากของประเทศ

     ขณะที่ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการหารือผู้ผลิตถุงพลาสติก และสมาคมค้าปลีกไทย เห็นด้วย กับแนวทางการเก็บค่าถุงพลาสติกจากห้างค้าปลีกและร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ แต่ต้องรอรัฐแก้ไขกฎหมาย เพราะหากเก็บค่าถุงพลาสติกอัตรา 1-2 บาท จะแพงกว่าต้นทุนถุงจริง จะต้องกำหนดให้โยกเงินส่วนเกินเข้าในกองทุนสิ่งแวดล้อม หรือตั้งเป็นงบประมาณซีเอสอาร์ขององค์กรแทน


ที่มาข่าว : mthai

แชร์