ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว บ้านเมือง  รายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ที่วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ บรรยากาศการเตรียมงานถวายเพลิง “หลวงปู่ลี กุสลธโร” อายุ 96 ปี 1 เดือน 11 วัน  68 พรรษา ศิษย์เอกรุ่นแรกของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน นี้ หลังจากหลวงปู่ลี สะสังขารเมื่อเวลา 15.15 น. เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามประเพณีและวิถีของพระวัดป่า

    นอกจากนี้ทางคณะศิษย์ ได้นำภาพถ่ายรูปของหลวงปู่ลีมาแจกให้กับผู้ที่เดินทางมากราบสรีระสังขารของหลวงปู่ลี และทางวัดได้เตรียมจุดวางดอกไม้จันทน์เอาไว้ที่ด้านนอกหลายจุด เพื่อให้ศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมา วางดอกไม้จันทน์ก่อน จะถึงวันประกอบพิธีถวายเพลิงหลวงปู่ลี ในเวลา 15.15 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน นี้ รวมทั้งนำตู้บริจาคที่มีคณะศิษย์ร่วมทำบุญอย่างไม่ขาดสาย โดยเงินที่ได้จากการร่วมทำบุญทั้งหมด จะนำไปเข้าบัญชี ร่วมการก่อสร้างพุทธมหาเจดีย์ หรือเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว ตามที่พินัยกรรมของหลวงปู่ลี ระบุไว้

     โดยมีคณะศิษย์ของหลวงปู่ลี ที่มีทั้งพระสงฆ์สายวัดป่า และฆราวาส ที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ มากราบสรีระสังขารหลวงปู่ลี กุสลธโล ที่บรรจุในหีบโลงเย็น อยู่ในศาลาใหญ่ ที่ทางวัดเตรียมดอกบัว ไว้ให้ทุกคนที่เข้าไปกราบสรีระสังขารของหลวงปู่ลี พร้อมมีพระสงฆ์กล่าวนำขอขมาครูอาจารย์ที่ล่วงเกินต่อหลวงปู่ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ขณะที่การสร้างและตกแต่ง“จิตกาธาน” หรือเมรุชั่วคราว ที่หน้าศาลาใหญ่ ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว ทางพระสงฆ์ และฆราวาส เตรียมพื้นที่สำหรับพิธีเคลื่อนสรีระสังขารของหลวงปู่ลี มาที่แมรุชั่วคราว หรือ จิตกาธาน ในเวลา 18.00 น. วันนี้ 

     พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ อดีต รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ศิษย์ของหลวงปู่ลี เปิดเผยว่า ทราบว่าหลวงปู่ลีท่านละสังขารตั้งแต่วันแรก ก่อนหน้านี้ตนได้ขึ้นกราบ มาทำบุญทอดกฐินกับท่าน ซึ่งตอนนั้นท่านไม่สามารถออกมารับคณะศิษย์ที่มาได้ และเราก็เข้าไปกราบท่านไม่ได้ จนมาถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 15.15 น.มีญาติธรรมโทรศัพท์มาบอกว่าหลวงปู่ลีท่านละสังขารแล้ว ตอนทราบข่าวตอนนั้นรู้สึกเสียใจ  ที่หลวงปู่ท่านได้จากพวกเราไป ในช่วงเวลาที่พวกเรายังอยากเห็นหลวงปู่อยู่กับพวกเรา อยากให้ท่านเมตตาญาติธรรมในประเทศไทยอยู่ เพราะว่าท่านเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่พวกเราเคารพนับถือท่านมานานแล้ว

     “หลวงปู่ท่านเมตตาผมตั้งแต่สมัยยังรับราชการ ที่ท่านเมตตาให้ผมเข้าไปกราบเป็นประจำ แล้วท่านก็สั่งสอนให้เราปฏิบัติธรรม ตามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และท่านก็เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติในเรื่องของะรรมะ ตามคำสอนของหลวงตาพระมหาบัว การอยู่อย่างเรียบง่าย เหมือนพระป่าโดยทั่วไป นอกจากนี้หลวงปู่ท่านยังสร้างเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว เพื่อบรรจุอัฐิธาตุของหลวงตาพระมหาบัว ที่วัดป่าภูผาแดงนี้ โดยที่ผ่านมาผมนำธรรมของหลวงปู่ไปใช้ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา ให้คนไทยทั้งประเทศมีความสุข รวมทั้งพาคนในครอบครัวมานั่งสมาธิทุกวันพระด้วย”

     นางจันทรถนอม เขตธรรมใส ชาว จ หนองคาย ที่เดินทางมากราบสรีระสังขารหลวงปู่ลี กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมาหราบสรีระหลวงปู่ลี เพราะที่ผ่านมาที่ท่านยังไมละสังขาร เราก็จะมาเป็นประจำทุกปี พอทราบข่าวท่านละสังขาร ก็มีพระอาจารย์ที่รู้จักบอกให้มากราบไหว้สรีระสังขารท่าน เพราะถ้าเราจะมาวันถวายเพลิงท่าน กลัวว่าคนจะเยอะ จึงมากราบท่านก่อน เพราะว่าเราอยู่ไกล ซึ่งเรานับถือหลวงปู่ท่านมานานแล้ว เพราะท่านปฏิบัติธรรมแบบพระป่า ไม่เหมือนพระที่อื่น ซึ่งเราจะไปกราบพระสายวัดป่ากันทุกปี

     “ตอนทราบว่าหลวงปู่ท่านละสังขาร ตอนนั้นเราก็รู้สึกเสียใจมาก ก็สติแตกเหมือนกัน พอรู้ว่าท่านละสังขาร และคิดว่าอย่างไรเราก็จะต้องมากราบท่านเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อมาได้กราบท่านแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะได้มาลาท่านเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ทั้งที่เราอยู่ไกลเราก็มา”
 

     นายธีรนัย และ นางชนานันท์ วังคำหาญ 2 สามีภรรยา ชาว ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี กล่าวเช่นกันว่า เราเป็นชาวอุดรธานี ทราบข่าวหลวงปู่ลีท่านละสังขาร ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเราได้มากราบสรีระสังขารท่านแล้ว รู้สึกปลาบปลื้มยินดี ที่ได้มากราบท่าน ซึ่งปกติเราก็ขึ้นมากราบท่านอยู่บ่อยครั้งถ้ามีเวลา พอทราบข่าวว่าหลวงปู่ท่านละสังขาร ตอนนั้นรู้สึกใจหาย ไม่คิดว่าท่านจะจากพวกเราไปเร็วขนาดนี้ โดยปกติเมื่อก่อนหลวงปู่ทานก็อยู่ที่วัดบ้านตาด เราก็คนบ้านตากเหมือนกัน จึงได้ไปกราบท่านอยู่บ่อยๆ วันนี้ได้มากราบท่านรู้สึกตื้นตันใจ และวันถวายเพลิงท่าน เราก็จะมากันอีก มาส่งหลวงปู่ท่านเป็นครั้งสุดท้าย เพราะเรานับถือท่าน ท่านเป็นพระที่ดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

ขอบคุณภาพ /ข่าว : banmuang