นายกเทศมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

Fiorello La Guardia ได้ถูกยกย่องว่าเป็นนายกเทศมนตรีทียิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้พิพากษาที่ใช้เกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงตรงแต่ผสมด้วยน้ำใจ http://winne.ws/n25550

2.6 พัน ผู้เข้าชม

      Fiorello La Guardia ได้ถูกยกย่องว่าเป็นนายกเทศมนตรีทียิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้พิพากษาที่ใช้เกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงตรงแต่ผสมด้วยน้ำใจ

นายกเทศมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

     "นายกเทศมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา"

ในฤดูหนาวของปี 1935 สหรัฐอเมริกาตกอยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ในศาลที่อยู่ในถิ่นยากจนของเมืองนิวยอร์ก กำลังมีการตัดสินคดีความ หญิงอายุใกล้ 60 ได้ขโมยขนมปังไปถุงหนึ่ง หญิงผู้มีใบหน้าอิดโรย สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวล เสื้อผ้าทั้งเก่าทั้งขาด ผู้พิพากษานามว่า Fiorello La Guardia ซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีด้วย เขาถามจำเลยว่า 

     "เจ้าถูกฟ้องข้อหาขโมยขนมปัง จะยอมรับผิดไหม" 


จำเลยตอบอย่างกระอักกระอ่วนว่า     "ใช่ค่ะ ดิฉันเป็นคนขโมย"


ผู้พิพากษาถามต่อ      "แล้วทำไมเจ้าจึงต้องขโมย คงเป็นเพราะความหิวเป็นเหตุใช่ไหม"


จำเลยตอบว่า      "ใช่ค่ะ ดิฉันหิวมาก แต่หากเพียงเพราะความหิวของดิฉันแค่คนเดียว ก็คงไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน แต่นี่เป็นเพราะลูกเขยดิฉันหนีหายไปจากบ้าน ส่วนลูกสาวดิฉันกำลังป่วย ดิฉันอยากได้ขนมปังเพื่อหลานสองคน พวกเขากำลังหิวมาก ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาสองวันแล้ว"


ผู้พิพากษาบอกว่า      "กฏหมายเป็นเรื่องของความยุติธรรม ไม่มีข้อยกเว้น เจ้าต้องโดนปรับเป็นเงินสิบเหรียญ หรือจะเลือกติดคุกเป็นเวลาสิบวัน"


จำเลยตอบว่า      "ดิฉันยินดีติดคุกสิบวัน เพราะถ้าดิฉันมีเงินสิบเหรียญ ก็คงไม่ต้องไปขโมยขนมปังถุงนั้น แต่สิ่งที่ดิฉันกังวลที่สุดคือ แล้วใครจะมาดูแลลูกสาวที่กำลังป่วยและหลานสองคนที่ยังเล็ก"

นายกเทศมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

     นายกเทศมนตรีตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหยิบเงินออกมาสิบเหรียญ แล้ววางลงไปในหมวกของเขา พร้อมพูดว่า 

     "นี่คือเงินสิบเหรียญ คุณได้รับอิสรภาพแล้ว"   แล้วเขาก็พูดกับทุกคนที่นั่งอยู่ในศาลว่า 

     "พวกคุณทุกคนในนี้ ต้องโดนปรับคนละห้าสิบเซ็นต์"  

     ทุกคนตกใจ      "นั่นเป็นเพราะพวกคุณเย็นชาเกินไป แล้งน้ำใจ จนทำให้เมืองนี้ต้องมีเรื่องน่าอนาถใจเช่นนี้เกิดขึ้น" 

     ความเงียบได้เข้ามาปกคลุมทุกอณูของห้องตัดสิน แล้วผู้คนก็ค่อยๆทยอยลุกขึ้น พร้อมปรบมือให้กับการตัดสินที่แปลกพิศดารโดยพร้อมเพรียงกัน หลังจากที่นายกเทศมนตรีได้วางเงินสิบเหรียญลงไปในหมวกของตนแล้ว ก็ได้สั่งให้ทุกคนวางเงินลงไปคนละห้าสิบเซ็นต์เป็นเงินค่าปรับ แต่หลายๆคนก็เต็มใจให้มากกว่านั้น แม้กระทั่งเจ้าของร้านขายขนมปังที่เป็นโจทก์ ก็ยังวางเงินห้าเหรียญลงไปในหมวก แล้วนายกเทศมนตรีก็นำเอาเงินทั้งสิ้น 47.50 เหรียญมอบให้หญิงที่ยากจนผู้นั้นไป

    หล่อนได้แต่รับเงินจำนวนนั้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า พร้อมกล่าวขอบคุณนายกเทศมนตรีและทุกๆคนที่อยู่ที่นั่น

นายกเทศมนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

     วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์ทุกฉบับในนิวยอร์กพากันตีพิมพ์ข่าวนี้โดยพร้อมเพรียงกัน การตัดสินคดีความแบบพิศดารในครั้งนี้ ท่านผู้พิพากษาพร้อมควบตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงนิวยอร์ก Fiorello La Guardia ได้ถูกยกย่องว่าเป็นนายกเทศมนตรีทียิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นผู้พิพากษาที่ใช้เกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงตรงแต่ผสมด้วยน้ำใจ หาทางออกให้กับจำเลยอย่างน่าประทับใจที่สุด


เรื่องราวเรื่องนี้ได้ปลุกให้พวกคนเย็นชา แล้งน้ำใจทั้งหลายตื่นจากภวังค์ด้วยความละอายใจ


อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เคยกล่าวไว้ว่า

     "โลกเรานี้ไม่ได้ถูกทำลายโดยพวกผู้ร้ายเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น แต่ยังถูกทำลายด้วยพวกเย็นชา แล้งน้ำใจ หรือคนที่มักจะคิดว่าธุระไม่ใช่ เดี๋ยวก็มีคนอื่นจัดการให้เอง"

ลองถามตัวเราเองดู เราเป็นคนประเภทนั้นเหรอเปล่า



www.facebook.com/Flintlibrary 

“ขจรศักดิ์”
แปลและเรียบเรียง

แชร์