กองร้อยน้ำหวาน สภ.เมืองสกลนคร ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและคนชราให้กำลังใจในช่วง โควิด -19

          พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง ผกก.สภ.เมืองสกลนคร มอบหมายให้ พ.ต.ท.อำนาจ แก้วน่าน รอง.ผกก.ป.สภ.เมืองสกลนคร และ พ.ต.ท.พิบูลย์ จันทะมาตย์ สว.จร.สภ.เมืองสกลนคร ทำหน้าที่ควบคุมดูแลอาสาจราจรหญิงสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ( กองร้อยน้ำหวาน ) และสั่งการให้ ด.ต.ไชยกาล โสคำภา ในฐานะครูพี่เลี้ยงกองร้อยน้ำหวานให้นำเครื่องอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มบรรจุขวด หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เฟซซิลด์และเงินเยียวยาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการดำรงชีพเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และให้กำลังใจผู้ป่วยติดเตียง คนชราที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และไม่มีรายได้เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ จำนวน 3 ครอบครัว ดังนี้

           1. คุณยายวัฒนา อินทร์หนอง อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ที่ 7  บ้านดอนตาลโง๊ะ ตำบลฮางโฮง อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งคุณยายป่วยเป็นโรคเนื้องอกในตาไม่สามารถมองเห็นอาศัยอยู่กับลูกสาววัยกลางคนและหลานชายที่สติไม่สมประกอบ

            2. คุณตาขวัญณรงค์ สัพโส อายุ 62 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 7 บ้านดอนตาลโง๊ะ ตำบลฮางโฮง อำเภอเมืองสกลนคร ซึ่งป่วยด้วยโรคเส้นเลือดตีบตันเป็นอัมพฤกษ์ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องนั่งรถวีลแชร์อยู่กับบ้านพูดไม่ค่อยได้

            3. นายพุธ ไวจำปา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 218 ซอยร่มเย็น 2 ชุมชนนาเวง ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร

            ซึ่งผู้ป่วยทั้ง 3 คน เมื่อได้ทราบว่าผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร มีความห่วงใยและเป็นห่วงที่ได้ฝากสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีวิตและเงินเยียวยาในเบื้องต้นมามอบให้รู้สึกดีใจและตื้นตันใจจนน้ำตาไหลซึมออกมา และฝากขอบคุณตำรวจภูธรเมืองสกลนคร ที่ให้การช่วยเหลือในช่วงที่ลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้มีกำลังใจในการต่อสู้กับเชื้อร้าย

            จากนั้น อาสาจราจรหญิงสถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร (กองร้อยน้ำหวาน) ได้นำสิ่งของเช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุขวด และหน้ากากอนามัยที่ผลิตเองนำไปใส่ตู้บำรุงสุข ที่ถนนใสสว่าง อำเภอเมืองสกลนคร และที่ตู้ปันสุข จุดบริการประชาชนตู้ประชาราษฎร์ สถานีตำรวจภูธรเมืองสกลนคร สี่แยกประชาราษฎร์ ข้างธนาคารกสิกรไทย อำเภอเมืองสกลนคร เพื่อเป็นการแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด -19

ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพ  :  สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์