วิสาขบูชาในวันประสูติเจ้าชายสิทธัตถะทรงเดินได้ 7 ก้าว
วันวิสาขบูชา วันที่พระราชกุมารที่เพิ่งประสูติจะทรงเดินได้เพราะเด็กทั่วไปก็ยังเดินไม่ได้ นี้คือการคิดตามวิสัยคนทั่วไปแต่พระบรมโพธิสัตว์สร้างบารมีมาถึง ๒๐ อสงไขยกับแสนมหากัป บารมีเต็มเปี่ยมแล้วเราเอาความคิดอย่างคนธรรมดาไปใช้กับพระองค์ไม่ได้ http://winne.ws/n3200
วันวิสาขบูชามีเหตุการณ์สำคัญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งมีคำถามที่หลายคนสงสัยว่าวันประสูติเจ้าชายสิทธัตถะผู้ทรงมีบุญญาธิการมาก พระองค์ทรงเดินได้ 7 ก้าว
เมื่อประสูติแล้วทรงเดิน ๗ ก้าวจริง ๆ และมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับจริงๆ พอครบ ๗ ก้าวพระราชกุมารก็ทรงชูนิ้วขึ้นหนึ่งนิ้ว แล้วทรงเปล่งอาสภิวาจา(วาจาอันยิ่งใหญ่) ว่า “เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลกเราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ภพนี้เป็นภพสุดท้ายภพใหม่สำหรับเราไม่มีอีกแล้ว” อาสภิวาจาที่ทรงกล่าวมานี้สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทั้งหมื่นโลกธาตุและบันทึกเอาไว้ทั้งในคัมภีร์พุทธประวัติ และพระไตรปิฎกของบาลีเถรวาท พระไตรปิฎกฉบับจีนฉบับญี่ปุ่นข้อความนี้ในภาษาญี่ปุ่นออกเสียงว่า “เทนโจวเทนเกะ ยุยงะอิจิเนียว” แปลว่า“ทั้งบนฟ้า คือในมวลหมู่เทพยดาทั้งปวง และใต้ฟ้า คือบรรดามวลมนุษย์เราเป็นหนึ่งในโลก” ของภาษาจีนออกเสียงไม่เหมือนกัน แต่ตัวหนังสือตัวเดียวกัน
ในโลกยุคปัจจุบันนี้อายุกัปของโลกลดลงมาเหลืออายุเฉลี่ยเพียง 75 ปี เท่านั้น การตัดสินใจต่าง ๆ จะนำเอาความเชื่อที่เรามองเห็นในปัจจุบันมาตัดสินไม่ได้ พระไตรปิฎก คัมภีร์พระพุทธศาสนา จารึกไว้ชัดเจน ถึงความพิเศษของพระโพธิสัตว์ ที่ลงมาเกิดสร้างบารมี ในโลกยุคนี้ ก็อาจจะมีให้พบเห็นได้บ้าง แต่มิได้หมายความว่า จะเป็นตามที่เราใช้สมองของเราคิดตัดสินเอง
เพราะยังมีสิ่งที่เราพิสูจน์ไม่ได้หรืออธิบายไม่ได้อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ภูติ ผี ปีศาจ ภพภูมิต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้ชิดมนุษย์ เรียกว่าภพซ้อนภพอีกมากมาย ดังเราจะได้ข่าวเป็นประจำ หรือแม้แต่คนทรงที่เวลาเทศกาลกินเจ เขาเอาหอกแทงเข้าไปในปาก เดินลุยไฟปีนบันไดดาบ ฯลฯ วันรุ่งขึ้นแผลก็หายแบบนี้หมอจะอธิบายอย่างไรแต่ถ้าเราทำอย่างนั้นบ้าง บางทีเดือนหนึ่งยังไม่หายเลยแค่คนทรงยังสามารถทำสิ่งที่มนุษย์สามัญธรรมดาทำไม่ได้
(ขอบคุณข้อมูลประกอบจากวิกิพีเดีย และ dmc.tv)

