4 วิธีฝึกลูกให้ยอมนอนทั้งกลางวันและกลางคืน

4 วิธีฝึกลูกให้ยอมนอนทั้งกลางวันและกลางคืน http://winne.ws/n4602

4.0 พัน ผู้เข้าชม
4 วิธีฝึกลูกให้ยอมนอนทั้งกลางวันและกลางคืน

เมื่อหนูไม่ยอมนอน

ใครที่มีมีลูกเล็ก ๆ ที่มีปัญหาการนอนจะแย่กว่ามากเพราะมันเป็นประสบการณ์อยู่เวร อยู่ยามทุกคืน โดยไม่มีวันได้หยุดพักเลย เมื่อลูกตื่น พ่อแม่ก็ต้องตื่น (พ่อบางคนอาจไม่ตื่น แต่คนเป็นแม่ตื่นแน่) อดนอนหลายคืนแล้ว ทุกเช้าก็ต้องไปทำงานตามปกติ เล่นเอาคุณพ่อคุณแม่หลายคนถึงกับโทรม เดินไปทำงานแบบเบลอ ๆ เลย ปัญหาการนอนของลูกอาจเริ่มตั้งแต่รับลูกมาจากโรงพยาบาลจนบางทีไปถึงวัย อนุบาลก็ได้ เราลองมาทำความเข้าใจเรื่องการนอนของเด็กกันดีกว่า

การนอนก็เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการเด็ก

1. จากการศึกษาวิจัย เด็ก ทารกจะใช้เวลากับการนอนมากถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน โดยมักตื่นร้องทุก 3-4 ชั่วโมง ซึ่งสัมพันธ์กับความหิว เนื่องจากเด็กทารกต้องกินนมทุก 3-4 ชั่วโมงนั่นเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เด็กทารกจะตื่นกลางคืนทุก 3-4 ชั่วโมง ในช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่คงต้องทนเหนี่อยไปก่อนครับ แต่เมื่อเด็กโตขึ้นก็จะหลับกลางคืนได้นานขึ้น โดยพบว่าร้อยละ70 ของเด็กอายุ 3 เดือนจะเริ่มหลับยาวได้เกือบตลอดคืน และที่อายุ4 เดือนเด็กหลายคนจะหลับต่อเนื่องได้ถึง 8 ชั่วโมง ดังนั้นพอลูกอายุ 3-4 เดือนคุณพ่อคุณแม่หลายคนก็จะเริ่มสบายขึ้น แต่ก็พบว่าเด็กส่วนหนึ่งยังตื่นร้องกลางคืนไปเรื่อยๆ ปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากการที่พ่อแม่ให้นมลูกบ่อยเกินไป เช่นในตอนกลางวันพ่อแม่ให้นมลูกทุก 1-2 ชั่วโมง หรือให้นมทุกครั้งที่ลูกร้องเด็ก (ซึ่งเราเคยคุยกันไปแล้ว) กลางคืนลูกก็ตื่นร้องบ่อยเพื่อกินนมเหมือนช่วงกลางวัน (Trained night feeders)

2. เกิดจากการที่พ่อแม่ตอบสนองต่อการตื่นของลูกทุกครั้งด้วยการให้นม (Trained night crier) อัน นี้พบบ่อยมากจริง ๆ คือเวลากลางคืน ถ้าลูกร้อง ไม่ว่าจะร้องดัง หรือแค่ร้องแอ๊ะ ๆ ก็รีบเอาขวดนมใส่ปากทันที ถ้าทำอย่างนี้เด็กจะถูกฝึกให้ตื่นร้องมากินนมกลางคืนไปตลอด คราว นี้ล่ะครับ แทนที่จะได้หลับยาวๆ ตามที่ควรจะเป็น ก็เลยร้องตื่นคืนละ 3-4 รอบ พ่อแม่อดหลับอดนอนไปตามๆ กัน การที่เราเอาขวดนมใส่ปากแล้วเด็กทารกหยุดร้องชั่วคราวนั้นเกิดจากกลไกทาง ระบบประสาทที่เรียกว่ารีเฟลกซ์ (Sucking reflex) ครับ โดยเมื่อมีวัตถุเช่นจุกนมหรือหัวนมแม่เข้ามาสัมผัสในปาก ระบบประสาทจะสั่งให้เกิดการดูดโดยอัตโนมัติ เมื่อต้องดูดก็ต้องหยุดร้อง เพราะไม่มีใครสามารถดูดไปด้วยร้องไปด้วยในเวลาเดียวกัน เหตุการณ์ซ้ำๆ แบบนี้ล่ะครับ จะทำให้พ่อแม่หลายคนคิดว่าลูกร้องเพราะหิว เพราะเอานมใส่ปากทีไร ก็หยุดร้องทุกที เด็กเองก็ถูกฝึกให้คุ้นเคยกับการตื่นขึ้นมากินนมตอนกลางคืน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไขนี้เมื่อลูกร้องกลางคืนก็ควรปฏิบัติตามขั้นตอน เช่นหาสาเหตุก่อน เช่นเปียกอุจจาระ ปัสสาวะหรือไม่ อากาศร้อน เย็นเกินไป ถ้าไม่เจอสาเหตุลองตบก้นให้หลับหรืออุ้มปลอบดูก่อน ถ้าไม่หยุดจริง ๆอาจให้ดูดน้ำจากขวดนม เด็กหลายคนก็จะหลับต่อได้โดยไม่ต้องให้นม

4 วิธีฝึกลูกให้ยอมนอนทั้งกลางวันและกลางคืน

ข้อควรปฏิบัติเพื่อการนอนที่ดีของลูก

1. ให้ลูกหลับบนเบาะหรือเตียงเสมอ ไม่อุ้มเดินให้เด็กหลับคาอกแล้วจึงเอาไป วางบนเบาะ คุณพ่อคุณแม่บางคนเมื่อลูกร้องมักจะอุ้มไปมาเป็นชั่วโมง ๆ ให้ลูกหลับคาอกขณะอุ้ม ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่ถูกต้อง วันหลังก็ต้องทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พ่อแม่บางคนปวดหลังไปเลย เพราะลูกโตขึ้น ก็หนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ยกเว้นแปลกที่เช่นไปเยี่ยมบ้านปู่ย่าตายายที่เด็กไม่คุ้นอาจอุ้มจนหลับได้

2. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอนหลับ เช่น เงียบไม่มีเสียงรบกวน ปรับอากาศให้เย็นสบายมืดปิดไฟนอนไม่เปิดไฟหรือเปิดทีวีในห้องนอนทิ้งไว้

3. เตรียมตัวลูกก่อนเข้านอนไม่กระตุ้นหรือเล่นกับลูกมากเกินไป คุณพ่อบางคนทำงานมาก กลับบ้านดึก มาถึงก็พยายามเล่นกับลูกการเล่นกับลูกก็ดี แต่ถ้าเล่นใกล้เวลาเข้านอนมาก หรือเล่นจนเด็กสนุกตื่นเต้นมากเกินไป อาจมีผลต่อการนอนหลับได้ อาจเปลื่ยนกิจกรรมเป็นอ่านนิทานให้ฟังสบาย ๆ ชวนพูดคุยให้เคลิ้มหลับไปจะดีกว่า

4. ฝึกให้ลูกนอนตื่น (รวมทั้งรับประทานอาหารอาบน้ำ) เป็นเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่สำคัญช่วงเย็นอย่าให้ลูกนอนหลับ เพราะจะทำให้กลางคืนไม่ยอมนอน (คนโบราณบอกว่านอนตอนเย็นตะวันทับตา) ทำให้เสียสุขภาพ

4 วิธีฝึกลูกให้ยอมนอนทั้งกลางวันและกลางคืน

ร้องตกใจกลางคืน (Sleep terror)

ลักษณะการร้องแบบนี้มักพบบ่อยในเด็ก 2-6 ปี ครับ เด็กมักกรีดร้องเหมือนร้องตื่นตกใจ บางคนหลับหูหลับตาร้อง บางคนมีเหงื่อออก หัวใจเต้นแรง การร้องมีลักษณะเฉพาะคือมักเกิดช่วงหัวค่ำ

ฝันร้าย (Nightmare)

ไม่ว่าใครก็คงจะเคยฝันร้าย ฝันร้ายมักเริ่มเกิดในช่วงอายุ 3-6 ปี ซึ่งช่วงวัยอนุบาลมักมีเรื่องของจินตนาการค่อนข้างมากอยู่แล้ว ฝันร้ายมักเป็นเรื่องตื่นเต้นน่ากลัว ดังนั้นจึงไม่ควรเลี้ยงเด็กแบบหลอก ขู่ ให้กลัวหรือเล่าเรื่องที่โหดร้ายทั้งคำพูด ท่าทาง น้ำเสียง ภาพ ทุกชนิดอีกด้วย

หมายเหตุ แต่อย่างไรก็ตาม การตื่นหรือการร้องของเด็กทารกหรือเด็กเล็ก ๆ นั่นคือการส่งสัญญาณบางอย่างที่แสดงให้รู้ว่า มีเหตุไม่ปกติเกิดขึ้นกับเขาแล้ว เราจึงควรหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบและแก้ปัญหานั้นให้ได้ เช่น ลูกอาจมีอาการไม่สบายท้อง ฯลฯ

http://www.bangkokhealth.com/health/article/เมื่อหนูไม่ยอมนอนศูนย์วิจัย

ขอบคุณภาพจากwww.google.com

แชร์