จากนี้ไปขอให้ท่านทั้งหลายได้ตั้งใจรับฟังแนวทางแห่งการปฏิบัติ เรื่อง วัตตบทเจ็ดคุณธรรมเพื่อความเป็นพระอินทร์ 

ก่อนอื่นขอย้อนกลับสำหรับท่านที่มาทีหลังที่ยังไม่ได้ฟังว่าเรื่องของพระอินทร์นี้ก็เกิดมาจากท้าวมหาลิ กษัตริย์แห่งเมืองไพศาลีที่ได้เข้าไปทูลถามพระพุทธเจ้าเพราะเห็นพระพุทธเจ้ารับสั่งเกี่ยวกับเรื่องของพระอินทร์หรือท้าวสักกะไว้มากมาย

พระพุทธเจ้ารู้ว่าพระอินทร์ตอนเป็นมนุษย์ปฏิบัติคุณธรรมอะไร 

พระอินทร์องค์นี้เมื่อตอนเป็นมนุษย์มีชื่อว่ามฆมาณพ  แล้วได้ทำคุณงามความดีไว้หลายประการ โดยเฉพาะการทำสาธารณะประโยชน์ให้แก่คนทั้งหลายโดยเฉพาะคุณธรรมเด่นๆที่เรียกว่า วัตตบทเจ็ด คำว่า วัตตะ  คือข้อประพฤติปฏิบัติ  บทก็คือ หัวข้อ  วัตตบทก็คือ  ธรรมะหรือหัวข้อที่จะเอาไปประพฤติปฏิบัติมีเจ็ดประการเพื่อความเป็นพระอินทร์พระพุทธเจ้ารับสั่งว่ามรรคมานพตอนเป็นมนุษย์บำเพ็ญสาธารณประโยชน์มากมาย  

สิ่งสำคัญก็คือได้ปฏิบัติวัตตบทเจ็ดประการนี้  จึงทำให้ได้มาเกิดเป็นพระอินทร์  

วัตตบทเจ็ดประการคือ  

***หนึ่ง บำรุงบิดามารดา  เลี้ยงดูพ่อแม่ตลอดชีวิต  

***สอง เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่  โดยผู้ใหญ่เจริญกว่าเรา  โดยคุณวุฒิคุณงามความดี  ชาติวุฒิ เจริญด้วยชาติตระกูล และวัยวุฒิ เจริญด้วยอายุที่มากกว่า  

***สาม  เป็นผู้ที่พูดคำสัตย์ตลอดชีวิตไม่โกหก  

***สี่ ไม่พูดคำหยาบ  

***ห้า ไม่พูดสอดเสียด

***หก ไม่ตระหนี่ ชอบทำทานอยู่เป็นนิจ  

***เจ็ด  ไม่โกรธตลอดชีวิต  นี่คือเจ็ดประการในวัตตบทเจ็ดประการ การทำความดีนั้นก็ปรากฏว่าก็มีเพื่อนอีกสามสิบสองคน  เกิดความเลื่อมใส  เห็นมฆมานพ ทำความดีบำเพ็ญตนเพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์  สร้างถนนสร้างอะไรต่าง ๆ  ก็เลยเข้ามาร่วมทำความดี 

จนกระทั้งในที่สุดไปขัดผลประโยชน์กับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็ไปทูลพระราชา  สั่งจับคนพวกนี้แล้วจะนำไปประหาร  รับสั่งให้ช้างเหยียบ  ช้างก็ไม่ยอมเหยียบ  ด้วยอำนาจเมตตาจิตคุณความดีของคนเหล่านั้น  จนในที่สุดพระราชาก็รู้เรื่องแล้วรับสั่งโทษผู้ใหญ่บ้าน  คือให้เป็นทาสของสามสิบสามคน  แล้วพระราชทานช้างตัวนั้นให้  

คนเหล่านี้ก็เลื่อมใสในคุณความดีก็ยิ่งบำเพ็ญความดียิ่งขึ้นไป ก็คงเหมือนนักการเมืองสมัยนี้ ที่เขาพยายามสร้าง ถนน  สร้างหนทางสร้างศาลาอะไรต่าง ๆ  และจุดหมายต่าง ๆ กัน  อีกคนก็คือต้องการเพื่อมีอำนาจ วาสนา แต่คนสามสิบสามคนต้องการปรารถนาเพื่อจะไปสู่สวรรค์

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก google.com