นายกรัฐมนตรีลาว ทองลุน สีสุลิด ได้เป็นประธานในพิธีหลอมทองคำ สำหรับหุ้มยอดจอมพระธาตุหลวง ที่เพิ่งผ่านการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหม่ จนแล้วเสร็จเมื่อเร็วๆ นี้ การหุ้มยอดจอมด้วยทองคำแผ่น เป็นหนึ่งในบรรดาขั้นตอนสุดท้าย เหตุการณ์นี้ได้กลายเป็นภาพที่แชร์กันมากที่สุด ในโลกออนไลน์ของชาวลาว ในชั่วข้ามวันที่ผ่านมา ในท่ามกลางเสียงยกย่องของสาธารณชน 

       ยอดจอมพระธาตุหลวง กำลังจะกลับมาหุ้มด้วยทองคำแท้ ที่มีความแแวววาว มองเห็นแต่ไกลอีกครั้งหนึ่ง เช่นกับเมื่อครั้งโบราณกาล อันเป็นส่วนหนึ่งในการฟื้นฟูบูรณะ เนื่องในโอกาสครบรอบ 450 ปี การก่อตั้งและก่อสร้างพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ อันเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองของชาวลาว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะได้เปลี่ยนฐานะ มาเป็นหอพิพิธภัณฑ์แล้วก็ตาม พิธีหลอมทองจัดขึ้นตอนบ่ายวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา สื่อของทางการรายงาน

 ภาพเหตุการณ์แสดงให้เห็น ดร.ทองลุน กับ นางนาลี สีสุดลิด ทำพิธีที่จัดขึ้นภายในปรัมชั่วคราว ที่สร้างขึ้นบริเวณประตูทางเข้าพระธาตุหลวงด้านหน้า มีเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้งนายสินละวง คุดไพทูน เจ้าครอง (ผู้ว่าการ) นครเวียงจันทน์ กับ บรรดารัฐมนตรีว่าการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการ เข้าร่วมพิธีหลายนาย เช่นเดียวกับประชาชนชาวเมืองหลวงอีกจำนวนมาก

       นายสีหุน สิดทิวิไซ รองผู้ว่าราชการเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมการปฏิสังขรณ์พิพิธภัณฑ์พระธาตุหลวง กล่าวว่าการบูรณะเป็นความพยายามในการรักษามรดก อันเป็นมิ่งขวัญของปวงชนลาว ซึ่งกำลังจะมีการฉลองครบรอบปีที่ 450 วันที่ 12-14 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ในช่วงเทศกาล นมัสการพระธาตุหลวง ที่จัดขึ้นประจำทุกปี จนเป็นประเพณีสืบต่อกันมาตลอด 40 ปี

       ครั้งนี้เป็นการบูรณะครั้งที่ 4 คณะกรรมการได้ระดมทุน กับวัตถุปัจจัยต่างๆ จากประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ทั้งในและต่างประเทศ รวมเป็นทองคำ 11 กิโลกรัม 24 บาท 3 สลึง เงินสดอีก 167,750,000 กีบ (719,900 บาท) เงินไทย 2,052,940 บาท กับอีก345 ดอลลาร์ และ 500 หยวน

 การบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งนี้ กระทำในหลายจุด กล่าวคือ โบกรอยแตกระแหงทั่วองค์พระธาตุ รวมทั้งหอไหว้ทั้ง 4 ทิศ ทาสีทองพระธาตุใหม่ทั้งองค์ รวมทั้งพระธาตุองค์เล็กทุกองค์รวม 30 องค์ซ่อมแซมหลังคากมมะเลียนโดยรอบใหม่ทั้งหมด ซ่อมแซมประตูโขงทั้ง 4 ทิศ ปรับปรุงพื้นทั่วไป จัดสร้างและซ่อมแซมร่องระบายน้ำ ซ่อมระเบียง และ จัดระบบไฟฟ้าใหม่ ซึ่งต้องใช้เงินทุนรวมทั้งสิ้น 15 พันล้านกีบ

       การบูรณะพระธาตุหลวง ยังมีขึ้นพร้อมๆ กับการบูรณะหอพระแก้วเวียงจันทน์ ซึ่งแล้วเสร็จและทำพิธีส่งมอบเมื่อต้นปีนี้ เป็นการร่วมฉลองครบรอบ 450 ปีการก่อตั้งกรุงจันทบูลีสีสัดตะนาคะนะหุต เป็นราชธานี

       นั่นคือเหตุการณ์ เมื่อปี พ.ศ.2106 ครั้งพระเจ้าไซเสดถาทิลาด ทรงย้ายเมืองหลวงไปจากเมืองเชียงทอง (หลวงพระบาง) และ สถาปนาแห่งใหม่ของอาณาจักรล้านช้างขึ้นที่นี่.

ผู้นำของประเทศให้การทำนุบำรุงพระศาสนา ย่อมส่งผลให้ชาติบ้านเมืองเจริญผาสุกเป็นแน่แท้ อนุชนรุ่นถัดไปย่อมน้อมนำเป็นแบบอย่างความสมัครสมานสามัคคีและต้นแบบที่ดีงามในความกตัญญูต่อชาติบ้านเมืองและรักในคำสอนของพุทธองค์ ...สาธุการ

ขอบคุณ, http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9590000100491