สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ว่า นายเต๋า จาง รักษาการประธาน และรองกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แห่งกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ ว่า ไอเอ็มเอฟเพิ่งสรุปการทบทวนเศรษฐกิจศรีลังกาครั้งแรก หลังการประกาศเงินช่วยเหลือกอบกู้เศรษฐกิจในเดือน มิ.ย. จากการที่ศรีลังกาประสบภาวะวิกฤตดุลการชำระเงินเมื่อต้นปีนี้ โดยการดำเนินงานตามเงื่อนไขของศรีลังกา โดยภาพรวมเป็นที่น่าพึงพอใจ แม้จะมีสถานการณ์ที่ท้าทายหลายอย่าง

          นายจาง กล่าวอีกว่า เมื่อวันศุกร์ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินช่วยเหลือศรีลังกา 162.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือชุดที่ 2 ที่จะจัดสรรให้ในระยะ 3 ปี

         เศรษฐศาสตร์มหัพภาคและสถานภาพทางการเงินของศรีลังกา เริ่มมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง และดุลการชำระเงินดีขึ้น อย่างไรก็ตาม นายจางกล่าวเตือนว่า ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของศรีลังกา ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเพียงพอ และยังเตือนการขยายสินเชื่อที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อเพิ่มเติม

          ตัวเลขอย่างเป็นทางการแสดงให้เห็นว่า ทุนสำรองของศรีลังกาในปัจจุบัน อยู่ที่ 6.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงพอที่จะสนับสนุนการนำเข้าได้เกือบ 4 เดือน

          การดำเนินการตามใบสั่งของไอเอ็มเอฟ รัฐบาลศรีลังกาปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม จาก 11 % เป็น 15 % ในเดือนนี้ และยังประกาศเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคล เพื่อเพิ่มรายได้เข้ารัฐ นอกจากนั้น รัฐบาลยังยกเลิกข้อห้ามชาวต่างชาติเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพยายามดึงดูดเงินทุนต่างแดน ในการสร้างใหม่เศรษฐกิจประเทศที่เคยเสียหายจากสงครามกลางเมือง

          รัฐบาลตั้งเป้าหมายงบประมาณขาดดุล 4.6 % ของจีดีพี ในปีหน้า ลดลงจาก 5.4 % ของจีดีพีในปีนี้ โดยเงินกู้ยืมจากต่างชาติ 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินให้กู้ 1.2 พันล้านดอลลาร์ในประเทศ จะช่วยอุดช่องว่าง.

ขอขอบคุณภาพและแหล่งข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/foreign

 อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/537575