แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง

ขอให้ คสช. ยกเลิก ม.44 โดยเร่งด่วนที่สุดทันที เพราะมอนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความชอบธรรมที่ไม่เป็นธรรม สามารถกระทำการใด ๆ ที่อาจละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ตลอดเวลา แถมไม่มีความผิดด้วย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ http://winne.ws/n13786

4.3 พัน ผู้เข้าชม
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง

ยิ่งมืด ยิ่งใกล้สว่าง

ผมเริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์อยู่รำไร

รอดแล้วละมังธรรมกาย ในที่สุดองค์กรอิสระที่ชื่อว่า "คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ" หรือ กสม. ก็ออกแถลงการณ์มาจนได้

หลังจากจด ๆ จ้อง ๆ ด้อม ๆ มอง ๆ อยู่นาน  จนผมเริ่มรำคาญนิด ๆ

แต่ไม่เป็นไร... 

นาน คงเพราะต้องการความชัวร์ เมื่อแน่ใจแล้วว่าใช่ เริ่มอดรนทนไม่ไหว จึงแอคชั่นในที่สุด 

ฮ่า ๆ ๆ ผมตบเข่าดังฉาด เออ มันต้องอย่างนี้สิวะ สั่งสอนกันบ้าง ให้มันรู้ว่าใครเป็นใคร ประเทศประชาธิปไตย จะมาใช้ ม.44 พร่ำเพรื่อได้ที่ไหนกัน

เริ่มกวาดสายตาอ่านแถลงการณ์ ความยาวประมาณ 1 หน้ากระดาษ

...รอบที่หนึ่งผ่านไป

ย้อนกลับมาอ่านรอบที่สองใหม่อีกครั้ง

...คิ้วเริ่มขมวด หนวดเริ่มกระตุก

แม่ม...เขียนอะไรของมันหว่า อ่านสองรอบแล้วยังไม่รู้เรื่องเลย

นี่มันแถลงการณ์หรือคู่มือถอดรหัสนิวเคลียร์วะเนี่ย  ความหมายนัยยะวกวน คลุมเครือ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน  ไม่แน่ใจว่าต้องการสื่ออะไรกัน

ครูขวัญเรือนครับ ครูสอนภาษาไทยผมมายังไง ทำไมผมอ่านอีแถลงการณ์ฉบับนี้ไม่เข้าใจครับครู

อ่านทบไปทวนมาอยู่หลายรอบก็ถึงบางอ้อ ว่า อ๋อ !! กสม.เขายืนข้าง คสช. เผด็จการ ไอ้เราก็ลืมไป ว่าพวกนี้ฝักใฝ่ข้างใดข้างหนึ่งมาตลอด อยู่ดี ๆ จะให้หายจากตาบอดมาตาดี ชาตินี้คงไม่มีทาง

ประหลาดใจกับแถลงการณ์ ไม่ทราบ กสม.ชุดนี้ไปดูงานที่เกาหลีเหนือมาหรืออย่างไร ถึงฝักใฝ่เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับพวกที่ไม่ชอบประชาธิปไตยเสียเหลือเกิน

สำหรับท่านที่ขี้เกียจอ่านแถลงการณ์ จะด้วยความรำคาญ เบื่อหน่าย หมดหวัง ขยะแขยง หรืออะไรก็ช่าง

มา ๆ  ผมจะแปลสารให้ฟังกันครับ 

แถลงการณ์ทั้ง 3 ข้อ มีนัยยะดังต่อไปนี้

1. ฝ่ายรัฐ คือ DSI ตำรวจ ทหาร อย่าปะทะกับคนในวัดด้วยความรุนแรง แต่ถ้าไม่ค่อยรุนแรงก็พอหยวน ๆ กันได้ จะทำอะไรต้องให้ความเคารพในความเป็นมนุษย์ด้วย เช่น ถ้าจะถีบ กระทืบ ทุบตี ควรมียกมือไหว้ขอโทษเป็นระยะ ๆ แต่อย่ากระทบกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง (มันคือใครวะ ?) ซึ่งต้องไล่ถามทีละคนไป ว่าคุณเกี่ยวข้องไหมครับ...ถ้าไม่เกี่ยวก็ยกมือไหว้ผ่านไป ถ้าเกี่ยวก็ตุ่บตั่บ ๆ ได้ แต่อย่ารุนแรง ย้ำอีกที

2. ฝ่ายวัด ให้มีสติ อยู่อย่างสงบ อย่าทำอะไรให้ฝ่ายรัฐเข้าใจผิด...เพราะถ้าผิด ข้อ 1 จะมา

ผมเห็นคนในวัดเขาก็นั่งกันสงบ ๆ อยู่แล้วนะ ยิ่งเมื่อวาน นั่งสมาธิกันตรงหน้าตำรวจทหารนั่นแหละ ถ้าจะเข้าใจผิด ก็คงผิดเพราะรัฐจิ้นไปเอง เช่น เฮ้ย หรือว่าที่นั่งนิ่ง ๆ แท้จริงในใจกำลังด่าตรู...

เข้าใจผิดแล้วโว้ยกู  เอ้า...พวกเรา...ลุยยยยยย ประมาณนั้น

          

กสม.ยังร้องขอให้มหาเถรสมาคมเข้ามาช่วยแก้ปัญหาด้วย 

ตรงนี้ผมว่าอย่าไปรบกวนท่านเลย ลำพังปัญหาของท่านก็ยังแก้กันไม่ตก ปล่อยให้นั่งประชุมกันไปสบาย ๆ เถอะ  จะออกนโยบายอะไร  หรือปีนี้จะเลื่อนตำแหน่งให้ใครดี อย่างนี้มีความสุขกว่า

คนที่เหมาะจะแก้ปัญหา ผมขอเสนอ พุทธะอิสระ, ไพบูลย์ นิติตะวัน และหมอมโนญาณทิพย์ 3 คนนี้ก็พอ ขนาด มส. เกือบ 20 องค์ ยังมีน้ำหนักสู้ 3 คนนี้ไม่ได้เลย 

3. ให้ทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งคนกลาง มาร่วมมือกันปฏิบัติตามกฎหมาย คือ ม.44 โดยให้เข้าไปตรวจค้นกันใหม่อีกที คราวนี้ถ้าไม่เจอค่อยเลิกรากัน 

นี่มันต่างอะไรกับที่ คสช. เสนอมาหรือครับ ก็บอกไปรอบที่ 45 แล้วว่า รัฐน่ะ เข้าไปตรวจหมดแล้วตั้ง 3 วัน แล้วก็ยืนยันออกข่าวว่าไม่พบอะไร แต่ฝ่ายรัฐผิดคำพูดไม่ยอมถอยไป กสม.ยังจะเสนอให้เข้าตรวจใหม่อีกครั้งหนึ่ง...คนวัดเขาคงบ่นว่า Daddy มึงน่ะสิครับ

ผมชักอยากรู้จักคณะกรรมการ กสม. ทั้ง 11 คนนี้แล้วสิ ว่าพี่เขามีความเป็นมาอย่างไร ?

เป็นใคร หน้าตาอย่างไร ครอบครัวอบอุ่นไหม เรียนหนังสือมาจากปลักไหน ปมหลังชีวิตเป็นยังไง ถูกพ่อแม่ทุบตีทำร้ายมาตั้งแต่เด็กหรือไง โตมาถึงมีความคิดอย่างนี้

ระหว่างอัจฉริยะกับคนบ้า เขาว่ามีเส้นบาง ๆ คั่นไว้ ฉันใด

กสม.เป็นองค์กรอิสระ ถ้าข้ามเส้นบาง ๆ ของความเป็นมนุษย์ไป ก็อาจอิสระจนเป๋ไร้ขอบเขตได้เหมือนกัน

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง

จากเนื้อหาในแถลงการณ์นั้น มันฟ้องว่า กสม. ก็คือสาขา หรือแฟรนไชส์ของ คสช. ดี ๆ นี่เอง

ผมลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าเป็น กสม. บ้าง ผมจะแถลงการณ์อย่างไร

ผมคงเริ่มดูจากงานของตัวเองว่ารับผิดชอบอะไร แล้วโฟกัสไปที่เรื่องนั้น เรียงตามลำดับความสำคัญไป

ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องหลักคือปกป้องสิทธิ์ของมนุษย์ด้วยกัน อะไรขัดกับสิ่งนั้นก็ต้องเรียกร้องก่อนเพื่อนเลย

ดังนั้น แถลงการณ์ของผมจะมีแค่ 2 ข้อ สั้น ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องแปล คือ

1. ขอให้ คสช. ยกเลิก ม.44 โดยเร่งด่วนที่สุดทันที เพราะมอนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่มีความ

ชอบธรรมที่ไม่เป็นธรรม สามารถกระทำการใด ๆ ที่อาจละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความ

เป็นมนุษย์ได้ตลอดเวลา แถมไม่มีความผิดด้วย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะ

มาตรฐานของเจ้าหน้าที่ไม่เท่ากัน อาจกระทำโดยพลการ ย่ามใจ อีกอย่าง ในอนาคตอัน

ใกล้ ประเทศไทยจะไม่มี ม.44 ใช้ และคงไม่มีอีกต่อไปตลอดกาล ดังนั้นคนไทยต้องฝึก

ให้คุ้นเคยกับการใช้กฎหมายปกติ แล้วเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับเพื่อนร่วมชาติที่มีความเห็น

แตกต่างกันให้ได้ ใครทนไม่ไหว จะอกอีแป้นแตกตายไปก่อนก็ต้องยอม

การตัดเสบียงอาหาร, ตัดสัญญาณโทรศัพท์-อินเตอร์เน็ต ห้ามคนสัญจรไปมาในที่

สาธารณะ โดยเฉพาะในวัดที่เป็นศาสนสถาน ห้ามประชาชนไม่ให้เข้ามาประกอบ

กิจกรรมทางศาสนาตามความเชื่อของตนได้ พ่อค้าแม่ขาย คนประกอบอาชีพทั่วไป ใน

บริเวณพื้นที่ควบคุม ทำมาหาเลี้ยงชีพไม่ได้เลย

ทั้งหมดข้างต้นนั้น ขัดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน   กสม. (กูจะสอนมึง) ไม่อาจ

ยอมรับได้ จึงขอเรียกร้องให้รัฐยกเลิก ม.44 ในทันทีทันใด ให้ไวเลยนะพ่อมึง

2. ขอเรียกร้องทุกฝ่าย ทั้ง รัฐ วัด คนกลาง เจรจากันตามกฎหมายปกติ ตามระบอบ

ประชาธิปไตยที่นานาประเทศใช้กัน เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

2 ข้อแค่นี้แหละหน้าที่ของ กสม. คือต้องปกป้องสิทธิ์ของมนุษย์ก่อน ไม่ใช่ไปเห็นด้วยกับ ม.44 ตะพึดตะพือ

ง่าย ๆ แค่นี้ยังคิดไม่ได้ อายต่างชาติเขาบ้างไหมครับ

ผมไม่รู้ว่าไอ้ กสม.นี่มันอยู่ภายใต้องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศที่ไหนไหม อยากจะเชิญ

มาตรวจสอบมาตรฐาน กสม. เมืองไทยให้หน่อย ว่าทำไมหลงใหล คสช. แต่ร้ายกับประชาชนจัง

เมื่อพวกท่านเป็นอย่างนี้ แล้วชาวบ้านที่กำลังลำบากเพราะถูกคุกคามสิทธิ์เขาจะไปพึ่งใคร 

ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าธรรมกายจะผ่านวิกฤตไปได้อย่างไร

แต่ขนาดเอดิสันยังทดลองล้มเหลว 700 กว่าครั้ง โลกจึงมีหลอดไฟ

ถ้าธรรมกายยืนหยัด อดทน ใช้ความนิ่ง สงบ สู้ต่อไป

สุดท้าย...ยังไงก็ต้องมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

Cr.คมความคิด

6 มีนาคม 2560

แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์...ยิ่งมืดยิ่งใกล้สว่าง
แชร์