นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี กล่าวว่ายุโรปไม่สามารถพึ่งพาสหรัฐฯ และอังกฤษได้อีกต่อไป หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่าจะไม่ทำตามข้อตกลงลดโลกร้อนตามที่สหรัฐฯ เคยให้สัญญาไว้ในในการประชุมที่กรุงปารีสเมื่อปลายปี 2015  ขณะที่อังกฤษก็ตีตัวออกห่างจากยุโรปมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่านางแมร์เคลยังต้องการคงความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯและอังกฤษไว้ รวมทั้งรัสเซีย แต่ยุโรปจำเป็นที่จะต้องหยุดพึ่งพาสหรัฐฯและอังกฤษ และยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง

นางแมร์เคลซึ่งจะลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเยอรมนีเป็นสมัยที่ 4 ในเดือนกันยายนนี้ กล่าวกับผู้สนับสนุนในนครมิวนิค ทางตอนใต้ของเยอรมนีว่า การประชุมของกลุ่มผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือ G7 ที่อิตาลี เมื่อไม่กี่วันทีผ่านมาทำให้เธอรู้ว่ายุโรปไม่สามารถพึ่งพิงคนอื่นได้อีกต่อไป และชาวยุโรปจำเป็นที่จะต้องควบคุมชะตากรรมด้วยตนเอง 

ในการประชุมผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ที่อิตาลี เมื่อวันที่ 26-27 พฤษภาคมที่ผ่านมา นางแมร์เคล ได้แสดงความคิดเห็นว่ายังไม่พอใจเกี่ยวกับการหาข้อสรุปมาตรการลดโลกร้อน ซึ่งแม้ผู้นำของอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และ ญี่ปุ่น จะให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำตามข้อตกลงลดโลกร้อนจากการประชุมที่กรุงปารีสเมื่อปี 2015 แต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกว่ายังไม่แน่ใจ และจะตัดสินในเรื่องนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://news.voicetv.co.th/world/493837.html