หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

การระแวงกันไม่ก่อให้เกิดผลดีอะไรเลย นอกจากจะทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อนแล้ว ยังจะเป็นเหตุให้ประเทศชาติต้องย่ำอยู่กับที่หรือถอยหลัง ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ เลิกหวาดระแวงแล้วร่วมกันสร้างชาติกันดีกว่า http://winne.ws/n1739

1.1 พัน ผู้เข้าชม

สังคมที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนั้นนอกจากจะมีความรัก ความผูกพันกันแล้ว สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ ในสังคมนั้นต้องปราศจากการหวาดระแวงกัน เพราะมิฉะนั้นจะหาความสุขจากการยืน เดิน นั่ง นอน ไม่ได้เลย จะก้าวเท้าไปทางไหน ก็จะเกรงว่าจะเกิดอันตราย จะหันซ้ายหันขวา ก็เกรงว่าจะถูกตำหนิ นินทา 

ในที่สุดสังคมนั้นนอกจากจะหาความเจริญไม่ได้แล้ว นับวันจะมีแต่ความเสื่อมโทรมลงเรื่อย ๆ แม้ในปัจจุบันจะเป็นผู้นำในย่านนั้น ๆ ก็ตาม แต่ในที่สุดก็จะตกต่ำไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดจะกลายเป็นผู้ที่อยู่รั้งท้าย

ในอดีตกาลเคยมีเรื่องราวที่เป็นตัวอย่างให้เห็นถึงภัยของความหวาดระแวง จนกระทั่งเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตเลยทีเดียว เรามาลองศึกษาดูว่าเรื่องราวของ "ตโยธัมมชาดก" ว่าด้วยวานรเจ้าปัญญากันดีกว่า

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

ในอดีตกาลนานมาแล้ว ณ ป่าหิมพานต์ มีลิงจ่าฝูงตัวหนึ่ง นอกจากจะมีนิสัยใจคอโหดเหี้ยมแล้ว     ยังขี้ระแวงกลัวลิงตัวอื่นจะมาแย่งตำแหน่งจ่าฝูงไปจากตน แม้แต่ลูกของมันเองมันก็ยังไม่ไว้ใจ 

ดังนั้นเมื่อนางลิงตัวใดมีครรภ์แก่ คลอดลูกออกมาเป็นตัวผู้  เจ้าจ่าฝูงตัวนี้มันจะต้องรีบเข้ามากัดอวัยวะเพศให้ขาด บางตัวก็ตายบางตัวก็พิการกันเลยทีเดียว เพื่อจะไม่สามารถสืบพันธุ์ได้ และไม่สามารถตั้งตัวเป็นใหญ่เทียบเท่าตนเองได้ พูดง่าย ๆ ว่าเพื่อความมั่นคงว่างั้นเหอะ

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

วันหนึ่งมีนางลิงตัวหนึ่ง รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ คิดห่วงลูกในท้อง รู้ว่าถ้าอยู่ไปเกิดคลอดลูกตัวผู้ ลูกตายแน่ จึงคิดหาวิธีให้ลูกตนเองนั้นปลอดภัย ว่าแล้วนางก็เลยอุ้มท้องข้ามเขาไปหลบอยู่ จนกระทั่งคลอดออกมา แล้วก็เป็นไปตามที่นางคาด เพราะลูกเป็นตัวผู้ซะด้วย  นางได้ตั้งใจเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างดียิ่ง

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

 นางเฝัาเลี้ยงลูกของนางเป็นอย่างดี จนกระทั่งลูกของนางโตเป็นหนุ่ม เจ้าลิงหนุ่มก็เกิดอยากเจอพ่อ นางลิงก็เลยต้องเล่าให้ฟังว่าพ่อมีอัธยาศัยอย่างไร หากพาไปเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย แต่เจ้าลิงหนุ่มก็บอกว่า เอาตัวรอดได้ไม่ต้องห่วง นางจึงต้องพาลูกไปพบพ่อ

และแล้ววันสำคัญก็มาถึง 

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

เพียงแรกเจอ แทนที่พ่อลิงจ่าฝูงจะดีใจที่ได้เจอลูก กลับคิดว่าลูกจะมาแย่งตำแหน่งของตนเอง อย่ากระนั้นเลยไม่เพียงแต่คิด ว่าแล้วก็ลงมือในทีเผลอ กะว่าลูกไม่ทันระวังตัว รีบกอดรัดอย่างแรง กะว่าเอาให้กระดูกแตกเลยทีเดียว ฝ่ายเจ้าลิงหนุ่มคิดว่าพ่อกอดตัวเองแน่น คงดีใจ เลยกอดตอบซะแน่นกว่า ลิงจ่าฝูงสู้แรงลูกไม่ได้เลยคลายอ้อมกอด(เกือบซวยซะแล้ว) แล้วออกอุบายให้ลูกลิงไปเก็บบัวที่สระซึ่งมีผีเสื้อน้ำอยู่ อ้างว่าจะได้ทำพิธีแต่งตั้งให้เป็นจ่าฝูงแทนตน คิดว่าอย่างไร ลูกลิงไม่รอดแน่นอน

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

ฝ่ายลิงหนุ่มเมื่อมาถึงสระ ก็เดินสำรวจเห็นความผิดปกติ เพราะมีแต่รอยเท้าสัตว์ที่ลงไปในสระ แต่ไม่มีรอยกลับขึ้นมา รู้เลยว่าสระนี้ต้องมีผีเสื้อน้ำ เข้าใจในทันทีว่า พ่อทำอะไรตนเองไม่ได้เลยหลอกให้มาตายด้วยฝีมือผีเสื้อน้ำ พอมองเห็นกิ่งไม้ใหญ่ คิดด้วยปัญญาอันเฉียบแหลม จึงโหนตัวไปเก็บดอกบัวจนได้มากพอ 

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

ในระหว่างที่ลิงหนุ่มเก็บดอกบัวอยู่ ผีเสื้อน้ำก็มองดูด้วยความชื่นชมในความกล้าหาญและชาญฉลาด จึงได้สนทนาและรับอาสาว่าจะเอาดอกบัวไปให้ เพราะอยากเห็นพิธีแต่งตั้งจ่าฝูง

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

ลิงจ่าฝูงเห็นลูกมาพร้อมกับผีเสื้อน้ำเกิดความตื่นเต้นตกใจ คิดว่าลิงหนุ่มนั้นคงพาผีเสื้อน้ำมาฆ่าตนแน่ เลยเกิดความกลัวสุดขีด จนขาดใจตายในที่สุด

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

พวกลิงทั้งหลายเมื่อเห็นจ่าฝูงตาย จึงได้พร้อมใจกันยกลิงหนุ่มให้เป็นจ่าฝูงแทน จ่าฝูงใหม่จึงจัดระบบรัฐธรรมนูญลิงใหม่อย่างยุติธรรมโดยไม่ต้องเสียเวลาร่างและลงมติให้เสียเวลา นางลิงตัวใดมีท้องก็ให้ดูแลอย่างดี แม้คลอดลูกออกมาเป็นตัวผู้ก็เลี้ยงให้ดี โดยไม่มีการหวาดระแวงอะไรทั้งสิ้น ฝูงลิงจึงอยู่กันด้วยความผาสุกตลอดมา

หยุดระแวงกัน หันมาสร้างชาติกันดีไหม ?

จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่า สังคมใดก็ตามที่มีแต่ความหวาดระแวงกัน สังคมนั้นจะหาความสุขไม่ได้เลย เพราะวัน ๆ จะนึกถึงแต่ว่าใครจะมาทำร้าย ใครจะมาโค่นอำนาจของตน มุมมองก็จะต่างกันออกไปดังนี้

สังคมที่หวาดระแวง ------ จะมองกันแบบศัตรู ---------- มีแต่ความคิดร้าย ๆ ------------ บ้านเมืองหรือสังคมนั้นล่มจม

สังคมที่ไม่หวาดระแวงกัน ---- จะมองกันแบบมิตร -------- มีแต่ความคิดดี ๆ -------------- บ้านเมืองหรือสังคมเจริญรุ่งเรือง

ดังนั้น จึงเป็นการถูกต้องแล้วหรือที่จะมองว่าผู้อื่นเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดวา ซึ่งมีแต่พระที่ตั้งใจทำงานพระศาสนา ท่านพากันสละชีวิตทางโลกออกบวช เพราะเห็นประโยชน์ต่อการที่จะนำธรรมะไปสู่ใจของชาวโลก ให้เพื่อนมนุษย์ได้มีหลักในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ลองทบทวนดูเถิดว่า ชีวิตของเราทุกคนก็ไม่ได้ยืนยาวอยู่เป็นร้อยปี พันปี เราจะสร้างรอยด่างให้เกิดขึ้นในชีวิต หรือจะสร้างความสะอาด ความงดงามของชีวิตให้เกิดขึ้น เราต้องการให้ประเทศชาติของเราก้าวไปข้างหน้า หรือต้องการให้ล้าหลังนานาประเทศ ก็สุดแต่ใจจะคิดและลงมือทำ มามองกันด้วยจิตเมตตา มองกันแบบมิตร แล้วจับมือกันทำงานเพื่อประเทศชาติกันดีไหม ?


ขอขอบคุณ เนื้อหาฉบับเต็มจาก http://www.kalyanamitra.org/th/chadok_detail.php?page=35

ขอขอบคุณ ภาพบางส่วนจาก google.com

แชร์