เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

คุณแม่กิมลั้นท่านเรียกตนว่า “มาลี” จึงเป็นข้อยืนยันจากการพิสูจน์ต่างๆที่ผ่านมาว่า เด็กหญิงรัตนาก็คือ คุณแม่กิมลั้นมารดาของตนกลับชาติมาเกิดอย่างไม่มีข้อสงสัย”...นี่คือข้อความตอนหนึ่งที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ http://winne.ws/n24387

5.1 พัน ผู้เข้าชม
เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

ข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๑ พาดหัวว่า#เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตลึง อัศจรรย์ใจ พบเด็กระลึกชาติได้รายใหม่ เป็นเด็กหญิงวัย ๑๔ ปี ชาตินี้เป็นลูกของ อาจารย์ร้านเสริมสวย “สุณิสา” ชาติก่อนเป็นเศรษฐีนี เจ้าของโรงงาน โรงแรม และที่ดินมหาศาลที่ชลบุรี พบเพื่อนเก่าซึ่งเป็นแม่ชีอยู่ในวัดมหาธาตุ ทักทายและเล่าประวัติชาติก่อนให้ฟัง พ่อแม่ตะลึง สอบถามปรากฏว่า ตรงกับประวัติชาติก่อน 

เด็กระลึกชาติผู้นี้คือ เด็กหญิงรัตนา อรรถพรพิศาล อายุ ๑๔ ปี

เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

เด็กระลึกชาติผู้นี้คือ เด็กหญิงรัตนา อรรถพรพิศาล อายุ ๑๔ ปี เป็นบุตรบุญธรรมของ นายสำนวน วงศ์สมบัติ ทนายความกับ นางจรูญ วงศ์สมบัติ อยู่บ้านเลขที่ ๕๗/๓๖๒ ซอยโรงงานธานินทร์ ถนนสุขุมวิท ๑๐๑/๑ บางนา กรุงเทพฯ ขณะเรียนอยู่ชั้น มศ.๓ โรงเรียนวัฒนศึกษา เยื้องปากซอยวัดทุ่งสาธิต นายสำนวน ได้เล่าประวัติของ เด็กหญิงรัตนา ให้ผู้สื่อข่าวไทยรัฐฟังเมื่อวานนี้ว่า เดิม เด็กหญิงรัตนา เป็นบุตรสาวของ นางสุณิสา อรรถพรพิศาล เจ้าของโรงเรียนเสริมสวย “สุณิสา” ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของตนเช่นกัน แต่หลังจากคลอดแล้วได้ยก เด็กหญิงรัตนา ให้เป็นบุตรบุญธรรมอีก นายสำนวนเล่าต่อไปว่า เด็กหญิงรัตนา ผู้นี้เป็นเด็กที่ผิดปกติกว่าเด็กอื่น คือเมื่ออายุได้ประมาณขวบเศษ ก็สามารถพูดได้ แต่ไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำนัก นายสำนวนเล่าว่า เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๑๐ ตอนนั้น เด็กหญิงรัตนา อายุได้ ๒ ขวบ ตนเองได้พาครอบครัวและ เด็กหญิงรัตนา ไปที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ เพื่อนั่งวิปัสสนากรรมฐาน ปรากฏว่าก่อนที่ตนจะไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานนั้น เด็กหญิงรัตนา ได้ปวดปัสสาวะขึ้นมา ตนจึงพาเข้าไปถ่ายที่หลังกุฏิพระ ขณะนั้นได้มีกลุ่มแม่ชีกลุ่มหนึ่งเดินผ่านไป เมื่อ เด็กหญิงรัตนา เหลือบเห็นก็บอกว่า “นั่นแม่ชีจันทร์นี่” พร้อมกับร้องเรียกว่า “แม่จันทร์ แม่จันทร์” และจะวิ่งไปหา แต่ตนเองจับเอาไว้ พร้อมกับสั่งสอนว่า เป็นเด็กเป็นเล็กควรจะนับถือผู้ใหญ่ ฝ่าย เด็กหญิงรัตนา ก็โต้ว่า เคยรู้จักกันมาก่อนจึงได้ทักทายกัน พร้อมกันนั้นเด็กได้เล่าประวัติความเป็นมาว่า เมื่อก่อนนี้ ตัวเธอเคยไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ โดยมีแม่ชีจันทร์เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ และนับถือกันเหมือนเพื่อน จึงทำให้เกิดความฉงนสนเท่ห์มาก 

ทนายสำนวน วงศ์สมบัติ บิดาบุญธรรมด.ญ.รัตนา

เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

นายสำนวนจึงซักถาม เด็กหญิงรัตนา ไปทีละขั้นๆ เด็กก็บอกว่า เมื่อชาติก่อนเธอเองชื่อ นางกิมลั้น ประยูรศุภมิตร เป็นเศรษฐีนี มีที่ดิน มีโรงแรม และมีโรงงานมันสำปะหลังอยู่ที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีลูกสาวชื่อ นางอนันต์ ซึ่งในตอนนี้เป็นผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาเมืองชลบุรี เมื่อทราบดังนั้น นายสำนวนจึงได้พาไปหา นางอนันต์ ที่ศรีราชา สอบถามนางอนันต์ก็ได้รับการเปิดเผยว่า นางอนันต์มีมารดาชื่อ นางกิมลั้นจริง แต่ได้ป่วยเสียชีวิตไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๕ ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ขณะอายุได้ ๖๙ ปี หลังจากนั้น นายสำนวนได้ไปสอบถามแม่ชีจันทร์ ที่วัดมหาธาตุ ก็ได้รับคำตอบว่า เมื่อก่อนนี้ นางกิมลั้น ได้เคยไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนี้จริง โดยแม่ชีเองเรียก นางกิมลั้น ว่า “ป้ากิมลั้น” ผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ได้ไปพบ เด็กหญิงรัตนา อรรถพรพิศาล เมื่อเช้าวานนี้(๘ พฤษภาคม ๒๕๒๑) ที่โรงเรียนสอนตัดเสื้อสุณิสา ถนนสุขุมวิท ก็ได้รับการเปิดเผยว่า เท่าที่เธอจำได้ ชาติก่อนเคยเป็นเศรษฐีนี อยู่ที่ศรีราชา มีลูกสาวชื่อ นางอนันต์ ตัวเธอหรือนางกิมลั้นในชาติก่อนได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคกระเพาะ ที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา หลังการผ่าตัด เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ เธอได้ไปทำบุญที่วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ไว้มาก ได้รู้จักกับ แม่ชีจันทร์ เมื่อครั้งไปนั่งกรรมฐานด้วยกันในเรือนเขียว ซึ่งเธอเองเป็นคนออกเงินสร้าง เด็กหญิงรัตนา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เคยเดินทางไปหา นางอนันต์ ลูกสาวในชาติก่อนที่ศรีราชา เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมานี้ 

นางอนันต์ ประยูรศุภมิตร(สุทธิถวิล)บุตรสาวนางกิมลั้น ประยูรศุภมิตร

เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

เมื่อเล่าเรื่องเก่าๆให้ฟัง นางอนันต์ก็เชื่อและดีใจที่ได้พบว่าแม่ของตัวเองมาเกิดใหม่...นี่คือข้อความตอนหนึ่งที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๒๑ ข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๑ หัวข้อข่าวว่า เด็กระลึกชาติพบหน้าลูก ยอมรับมีจิตใจผูกพัน พูดคุยกันอย่างสนิทสนมชี้สถานที่ในอดีตถูก จำชื่อเดิมลูกสาวได้ พิสูจน์เด็กระลึกชาติได้ เผชิญหน้ากับคนที่เคยเป็นลูกสาวของตนขณะยังมีชีวิตอยู่ ชี้สถานที่ต่างๆที่ตนเคยเกี่ยวข้องได้ถูกต้องแม่นยำ ศาสตราจารย์นักค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องการระลึกชาติได้พิสูจน์แล้วทึ่ง นำโครงร่างของผู้เสียชีวิตไปแล้ว เปรียบเทียบจุดที่เป็นแผลเป็นกับเด็กหญิงที่กลับชาติมาเกิด ปรากฏว่ามีร่องรอยแผลเป็นตรงกัน บุตรสาวยืนยันเด็กหญิงที่ระลึกชาติได้คือ มารดาของตนที่เสียชีวิตไปแล้วกลับมาเกิดใหม่แล้วระลึกชาติได้ 

เกี่ยวกับการระลึกชาติได้ซึ่ง เด็กหญิงรัตนา อรรถพรพิศาล บุตรบุญธรรมของ นายสำนวนและนางจรูญ วงศ์สมบัติ ได้อ้างว่า ตนนั้น ในชาติก่อนเป็นมารดาของ นางอนันต์ ประยูรศุภมิตร(สุทธิถวิล) และมีชื่อว่า กิมลั้น ประยูรศุภมิตร เป็นเจ้าของที่ดิน โรงแรม และโรงงานแป้งมันที่ศรีราชา ชลบุรี ซึ่ง”ไทยรัฐ”ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ต่อมานายสำนวนพา เด็กหญิงรัตนา พบนางอนันต์ที่ศรีราชา ได้มีการตรวจสอบระหว่างนางอนันต์กับเด็กหญิงรัตนา ปรากฏว่า เด็กหญิงรัตนา ได้ทบทวนความทรงจำแต่ชาติปางก่อนได้เป็นอย่างดี ซ้ำยังได้ไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งขณะที่ตนเป็นนางกิมลั้นเคย ตลอดทั้งห้องนอนที่ตนเคยอยู่เมื่อชาติปางก่อน โดยไปชี้สถานที่ได้ถูกต้อง และยังบอกว่า ห้องนอนของตนขณะที่เป็นนางกิมลั้นนั้นได้ทาสีใหม่ และสร้างห้องน้ำให้อยู่ใกล้ห้องนอน เมื่อเด็กหญิงรัตนาได้ทักทายเช่นนั้น นางอนันต์ก็ยืนยันว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับห้องนอนของนางกิมลั้นจริง เพราะต้องการให้นางกิมลั้น ซึ่งป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้มาพักฟื้นที่ห้องนอนแห่งนั้น หลังจากออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว และการย้ายห้องน้ำมาอยู่ใกล้ห้องนอนก็เพื่อความสะดวก... นางอนันต์ ได้เล่าเรื่องโดยเปิดเผยว่า มีข้อสังเกตหลายอย่างเพราะมีอยู่ครั้งหนึ่ง ได้มีคนมาบอกว่าบิดาของเด็กจะพา เด็กหญิงรัตนาไปพบกับตนที่ศรีราชา ขณะนั้นตนทำงานอยู่ที่ธนาคารที่ศรีราชา บิดาของเด็กหญิงรัตนาก็ได้ไปหา และไปที่คณะชีอนันต์ฝึกสมาธิ ซึ่งนางอนันต์ได้สร้างเอาไว้ ขณะที่อยู่ที่สำนักชีแห่งนั้น มีพระภิกษุและนางชีและคนอื่นๆอีกหลายคน เมื่อพบกันพร้อมหน้าแล้ว นายสำนวนได้แนะนำให้ เด็กหญิงรัตนาไหว้คนโน้นคนนี้ เด็กหญิงรัตนาก็ยกมือไหว้ แต่เมื่อแนะนำให้ไหว้นางอนันต์ เด็กหญิงรัตนาไม่ยอมไหว้ แล้วก็เดินดูสิ่งต่างๆในสำนักชีและบ่นว่าอยากอยู่ที่สำนักชีแห่งนั้น(จะไม่ยอมกลับกรุงเทพฯ) ในวันนั้นตนได้พาเด็กหญิงรัตนา ไปที่โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ปรากฏว่าเมื่อถึงต้นมะม่วง เด็กหญิงรัตนาก็วิ่งตัดสนามหญ้าไปที่ชายทะเล แล้ววิ่งไปที่ร้านกาแฟชายทะเล ซึ่งเป็นร้านที่นางกิมลั้นไปนั่งดื่มกาแฟทุกเช้า ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องแปลก

ดร.เอียน สตีเวนสันชาวอเมริกัน ซึ่งสนใจการค้นคว้าพิสูจน์ชีวิตหลังความตาย

เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

มีครั้งหนึ่ง ดร.เอียน สตีเวนสัน ซึ่งสนใจการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้บินมาจากอเมริกา แล้วเดินทางไปหานางอนันต์ที่ศรีราชา เมื่อพบกันแล้ว ก็เอากระดาษมาวาดเป็นร่างคน แล้วถามนางอนันต์ว่า ขณะที่นางกิมลั้นมีชีวิตอยู่นั้น มีแผลเป็นอยู่ที่ไหนบ้าง ซึ่งนางอนันต์ซึ่งนางอนันต์ได้เล่าว่า “ดิฉันขีดรอยแผลเป็นของแม่ เท่าที่จำได้ลงไปในภาพร่างนั้น ซึ่งคุณแม่ได้เข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลสามครั้ง แล้วส่งให้ ดร.เอียน สตีเวนสัน ดู แกก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ แล้วหยิบโครงร่างแผลเป็นของ เด็กหญิงรัตนาที่เตรียมมาแล้วให้ดิฉันดู เมื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ก็ตรงกับรอยแผลเป็นของคุณแม่ ดิฉันจึงมั่นใจว่า เด็กหญิงรัตนาจะต้องเป็นคุณแม่ของดิฉันกลับชาติมาเกิด”

นางกิมลั้น ประยูรศุภมิตร เป็นเศรษฐีนีศรีราชา จังหวัดชลบุรี

เด็กหญิงระลึกชาติได้ เผยในอดีตเป็นเศรษฐี พูดแต่หนึ่งขวบ พ่อแม่ตะลึง อัศจรรย์ใจ

นางอนันต์กล่าว และยังได้เล่าต่อไปว่า ดร.เอียน ได้บอกกับตนว่า เมื่อตอนที่เขาสัมภาษณ์ เด็กหญิงรัตนานั้น เด็กหญิงรัตนาบอกว่า ลูกสาวของเธอที่อยู่ศรีราชานั้น เมื่อตอนเด็กๆมีอีกชื่อหนึ่งว่า “มาลี”นางอนันต์ กล่าวว่า “เมื่อดิฉันได้ยิน ดร.เอียน สตีเวนสัน บอกเล่าให้ฟังเช่นนั้นก็สะดุ้ง เพราะเป็นความจริง คือเมื่อตอนเด็กๆนั้น คุณแม่กิมลั้นท่านเรียกตนว่า “มาลี” จึงเป็นข้อยืนยันจากการพิสูจน์ต่างๆที่ผ่านมาว่า เด็กหญิงรัตนาก็คือ คุณแม่กิมลั้นมารดาของตนกลับชาติมาเกิดอย่างไม่มีข้อสงสัย”...นี่คือข้อความตอนหนึ่งที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๑

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=849935615190840&id=100005232271838

แชร์